ภูทอก บึงกาฬ สุดยอด Unseen thailand วัดบนภูเขา ที่เที่ยวบึงกาฬ ที่ต้องไปเยือน สถานที่ท่องเที่ยวบึงกาฬ แหล่งท่องเที่ยวบึงกาฬ วัดภูทอก
ข้อมูลทั่วไปภูทอก
วัดภูทอก หรือวัดเจติยาคิรีวิหาร ตั้งอยู่ที่บ้านคำแคนพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ภูทอก เป็นภูเขาขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ที่บ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จ.บึงกาฬ
ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว ภูทอก มี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย เราสามารถมองเห็นได้ทั้ง 2 ลูก มองจากด้านล่างขึ้นไปเหนื่อยเลย ฮ่าๆ เอาล่ะมาถึงแล้วสู้ๆ ^__^ ด้านบนภูทอกนั้น มีทั้งหมด 7 ชั้น ก่อนขึ้นไปเราจะเห็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ มันสวยมาก เราก็ไม่พลาด ที่จะแชะภาพเก็บไว้ พร้อมแล้วไปกันเลย ไปพิชิตภูทอกกัน ^__^
ประวัติความเป็นมา “ภูทอก” ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จ.หนองคาย พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้เริ่มเข้ามาจัดตั้งเป็นแหล่งบำเพ็ญเพียรเพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรม เนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบการเดิน เท้าขึ้นสู่ยอด ภูทอกภูทอกมี 2 ลูกคือ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย ส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้คือภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวไปชมได้ตามปกติ นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูทอกทั้งสองแห่งตั้งอยู่อย่างโดดเด่นได้ตั้งแต่ระยะไกล จุดเด่นของภูทอกคือ สะพานไม้ที่หวาดเสียวและบันไดขึ้นชมวิวและทัศนียภาพรอบๆภูทอก ซึ่งมีบันไดไม้เดินขึ้นทั้งหมด 7 ชั้น ดังนี้
ชั้น 1 2 3 4 เมื่อเราเดินเท้าผ่านประตูเข้าไปจากชั้นที่ 1 ขึ้นเรื่อยๆ ตรงทางเข้าจะมีฝูงลิงอยู่บนต้นไม้เยอะมาก ทางเดินเป็นบันไดไม้ ขึ้นไปบนเขา ผ่าน ชั้น 1 2 3 4 ซึ่งเป็นจุดแวะไหว้พระ เราสามารถแวะได้ ขึ้นไปด้านบน จะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ เราจะเจอทางแยก สามารถไปทางไหนก็ได้ เพราะทางจะวนกลับลงมาเหมือนเดิม แต่เราเลือกตรงไป ขึ้นไปตามบันไดไม้ สูงชันมากก
สองข้างทางเราจะเห็นมอส ขึ้นเต็ม ผนัง ก้อนหิน หน้าผา จนไปถึงจุดที่ต้องลอดช่องเล็กของภูเขาขึ้นไปด้านบน เข้าสู่ชั้นที่ 5
ชั้นที่ 5 ชั้นนี้จะมี ศาลาขนาดใหญ่ พระพุทธรูป กุฏิพระ ภายในร่มรื่นมาก ปูพื้นกระเบื้องอย่างดี เราสามารถนั่งพักหายเหนื่อยได้ กว่าจะมาถึงชั้นนี้ เล่นเอาเหงื่อท่วมเหมือนกัน ด้านข้างสามารถเดินมาชมวิวได้ นั่งรับลมเย็นๆ
หลายจุดจะมีพระให้เราได้กราบไหว้ หน้าฝนจะมีน้ำที่ไหลมาจากยอดเขาซึ่งไหลมาจากชั้น 7 หยดลงมาตลอดเวลา เราจะเห็นน้ำไหลออกจากช่องหิน ทำให้ที่นี่ชุ่มชื่นมา น้ำก็ได้มาจากน้ำบนเขาแห่งนี้นี่เอง จากตรงนี้ไปทางจะเริ่มหวาดเสียวมากขึ้น
เมื่อเดินต่อไปตามทาง ก่อนขึ้นไปชั้น 6 เราจะเห็น วิวตรงนี้งดงามมาก สวยสุดๆ เราสามารถเห็นภูทอกใหญ่ได้เลย ภูเขาใหญ่ ป่าเขียวขจี มีหินรูปร่างแปลกตา ยื่นออกไปจากภูกทอกน้อย
ด้านล่างเป็นเหวลึก มีสะพานไม้เชื่อมเพื่อเดินข้างไป สะพานนั้นสูงมาก ตรงนี้หวาดเสียวมาก ทึ่งในฝีมือช่างของที่นี่เลย ตรงนี้ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ต้องลองมาดูกันวิวสวยมาก
ไปต่อที่ชั้น 6
ชั้น 6 ชั้นนี้บอกได้เลยว่า เป็นสุดยอดของที่นี่เลย วิวสวย ลมเย็น หวาดเสียวมาก สิ่งที่เราจะเห็นและทึ่งก็คือ สะพานไม้ ที่สร้างขึ้นเป็นทางเดินสร้างบนหน้าผาเป็นหน้าผาสูงตั้งฉากกับพื้น 90 องศา ยาวกว่า 450 เมตรสร้างเป็นทางเดินบนหน้าผารอบภูทอก ใช้ไม้และน็อตเหล็กขนาดใหญ่ เพิ่มความแข็งแรง แต่ถึงกระนั้น เราเองก็ยังหวาดเสียวมาก เพราะด้านล่างมองลงไปผ่านช่องของไม้ตรงทางเดิน ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่า สูงมากๆ Unseen สุดๆ
เสานั้นใช้ไม้สร้างโดยยึดกับหน้าผา ทึ่งกับฝีมือช่างที่นี่มาก สร้างได้ยังไง เก่งมากๆ ที่นี่ไม่เมาะกับคนที่กลัวความสูงนะ ^__^ ทุกอย่างก้าวจิตตกมาก มันเป็นไม้ อยู่บนหน้าผา สะพานอ่ะแข็งแรง แต่ใจเราอ่ะคิดไปเอง ^__^ ที่นี่ UNseen มาก เป็นสุดยอดวัดบนหน้าผาที่เราคิดว่า น่าทึ่งที่สุดแล้ว
ด้านบนหน้าผาตามทางเดินเราจะเห็นร่องรอยของรังผึ้งอยู่หลายแห่ง เขาเรียกว่าถ้ำผึ้ง สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และน่าชมที่สุดของชั้นนี้คือ ปากทางเข้าเมืองพญานาค ซึ่งอยู่หลังพระปางนาคปรก มีจุดให้สังเกตคือ มีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นรอยถลอกที่เกิดจากท้องพญานาคสัมผัส
จากตรงนี้ เราจะขึ้นไปชั้นที่ 7 จะไม่มีสะพานแล้ว
ชั้น 7 ชั้นนี้นั้นเป็นป่า ตั้งอยู่ด้านบนสุดของภูทอก ยังไม่มีการทำทางเดินไปชั้นนี้ ทางขึ้นไปเป็นบันไดไม้ พอสุดบันได จะเป็นทางเดินเท้ามีป่ารก มีทางแยก 2 ทางเพื่อขึ้นไปบน ทางแรกเป็นทางชัน ต้องเกาะ เกี่ยวกิ่งไม้และรากไม้เดินลำบาก แถมยังมีป้ายบอกให้ “ระวังงู” ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอยู่มากบนยอดภูแห่งนี้ด้วย เราเลยใช้อีกทาง
ทางนี้มีต้นไม้ใหญ่ล้มทับเส้นทางไว้ เราก็ไม่ยอมแพ้ ลอดไปจนได้ ฮ่าๆ สายแอดเวนเจอร์อยู่แว้วว ^__^ เดินเวียนไปทางขวาลุยมาสักพัก ก็จะมาถึงด้านบนชั้น 7 หรือดาดฟ้า
ชั้นนี้เป็นจุดสูงสุดของภูทอก หรือชั้นดาดฟ้า เป็นหน้าผาสูง การเดินตรงหน้าผา ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก บนนี้เป็นป่าเขียวขจี เราเดินไปเห็นดอกกระเจียว อยู่ 3 – 4 ต้น เห็นดอกกระเจียวสีขาวสวยเลย นั่งชมวิว ชมความสวยงามของธรรมชาติ พักหายเหนื่อย อยู่กับธรรมชาติ ของบึงกาฬ มันฟินดีจัง ^__^
ดื่มด่ำกับธรรมชาติของภูทอกเสร็จ เราก็ต้องกลับลงไป ใช้เวลานานเหมือนกันนะกว่าจะขึ้นมาถึง แต่ขาลงอ่ะแป๊บเดียว ฮ่าๆ ถึงลานจอดรถ
เวลาทำการ : 08.00น. – 18.00น.
พยากรณ์อากาศ : บึงกาฬ
ที่อยู่ : บ้านคำแคนพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ 38210
พิกัด GPS : 18.13194, 103.88069
แผนที่
การเดินทาง
โดยรถยนต์ : รถยนต์ส่วนบุคคล จาก อ.เมือง จ.บึงกาฬ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 มุ่งหน้าไปทาง อ.บุ้งคล้า ประมาณ25 กม.จะมาถึงสี่แยก “บ้านชัยพร” (ให้สังเกตว่าจะมีป้ายบอกทางไป “ภูทอก” อยู่เป็นระยะ ๆ) ให้เลี้ยวขวาที่ทางแยกแล้วขับรถตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านโรงเรียนบ้านหนองยาว , บ้านคำภู , บ้านภูเงิน จนถึงทางแยกขวาบริเวณ “บ้านนาต้อง” ให้เลี้ยวขวาไปตามทางแยกดังกล่าวไม่เกิน 5 กม.จะถึงวัดเจติยาคีรีวิหาร
โดยรถโดยสาร : รถประจำทาง ขึ้นรถสายหนองคาย – นครพนม แล้วลงรถบริเวณสี่แยก “บ้านชัยพร” จากนั้นให้เหมารถรับจ้างไปส่งยังวัดเจติยาคีรีวิหาร (หารถรับจ้างได้ค่อนข้างลำบาก)
ข้อแนะนำ
ข้อควรปฏิบัติก่อนขึ้นเขาภูทอก
1. ห้ามนำสุรา-อาหารไปรับประทานบนยอดเขาโดยเด็ดขาด
2. ห้ามส่งเสียงดังรบกวนพระ-เณรที่กำลังภาวนา
3. ห้ามขีดเขียนสลักข้อความลงบนหิน
4. ห้ามทำลามกอนาจารฉันท์ชู้สาวและควรแต่งกายให้สุภาพ
สตรีไม่ควรนุ่งน้อย-ห่มน้อย-เสื้อ-กระโปรง-กางเกงสั้น ห้ามขึ้น
โดยเด็ดขาด(อสุภาพสตรี แปลว่า สตรีที่แต่งกายไม่สุภาพ)
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
วัดโพธาราม
วัดอาฮงศิลาวาส
หนองกุดทิง
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว
น้ำตกถ้ำฝุ่น
น้ำตกชะแนน
น้ำตกถ้ำพระ
น้ำตกเจ็ดสี
บึงโขงหลง
วัดสว่างอารมณ์
ภาพและข้อมูลโดย TripTH
เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn