รีวิววังเวียง สปป.ลาว การเดินทางไปวังเวียง แบบประหยัด เที่ยววังเวียง 3 วัน 2 คืน แนะนำ ที่เที่ยววังเวียง Blue Lagoon พายเรือ ล่องห่างยางน้ำซอง ตาดแก่งยุ้ย ชมหมอก กิจกรรมในเมืองวังเวียง พร้อมการเดินทางแบบละเอียด
สวัสดีครับ เรามาเจอกันอีกตามเคย ผมเชื่อว่าหลายคนคงอยากออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ทริปนี้เราเลยจะพาไปเที่ยวกันที่ สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ที่สามารถเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ
ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวใน สปป.ลาว สถานที่แรกที่เรานึกถึงคงหนีไม่พ้น “วังเวียง”
ผมจะนำมารีวิวให้ดูกันว่า วังเวียง ไปยังไง ? เดินทางยังไง ? พักที่ไหน ? เที่ยวที่ไหน ? ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะแนะนำวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว ^__^ (TripTH)
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line ID : : @TripTH
Inbox : m.me/TripTH.con/
ก่อนเดินทาง
พักที่ไหน ?
สำหรับในทริปนี้เราจองที่พักผ่าน แอพ HotelsCombined แอพที่รวบรวม และเปรียบเทียบราคาโรงแรมมากกว่า 8 แสนแห่งทั่วโลก และกว่า 1600 แห่งในลาว
พักกันที่ วังเวียง การ์เดน บังกะโล หรือชื่อเดิม (ภูมิใจ เกสเฮ้าส์) เป็นที่พักราคาเบาๆ สำหรับ Backpacker อยู่กลางเมืองวังเวียง คืนละ 424 บาท (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว) 2 คืน ก็ 848 บาท หรือใครชอบที่พักแบบไหนก็สามารถเลือกจากแอพ HotelsCombined ได้เลยมีหลากหลายแบบหลายราคา
วาร์ปไปดาวน์โหลดแอพ HotelsCombined
Android : http://bit.ly/2tsHe7X
IOS : http://bit.ly/2vQna04
วังเวียง การ์เดน บังกะโล : http://bit.ly/2ggOTEK
ไปยังไง ?
ผมจะมาแนะนำ วิธีการเดินทางไปวังเวียงที่สะดวกที่สุด นั่งรถแค่ 2 ต่อ คือนั่งรถทัวร์จาก กทม. ไปลงเวียงจันทร์ (รถสุดสายที่ ขนส่งสาย เหนือ) จากนั้นก็นั่งรถตู้ไปวังเวียงได้เลย (ทิ้งการเดินทางแบบเดิมๆไปได้เลยครับ)
** (กรณีไปจากกรุงเทพฯ) ไม่ต้องนั่งไปลง บขส. อุดร แล้วไปวัดดวงว่าจะทันรถวังเวียงไหม หรือนั่งรถต่อจากอุดร ไปต่อเวียงจันทร์ (ตลาดเช้า) จากเวียงจันทร์ (ตลาดเช้า) หารถต่อไป ขนส่งสายเหนือ ผมบอกเลยว่ายุ่งยาก **
** ทำตามที่ผมแนะนำต่อไปนี้ จะสะดวกที่สุด**
จากกรุงเทพฯ (หมอชิต) ไปเวียงจันทร์ มีรถทัวร์ บขส. ไปลงที่ นครหลวงเวียงจันทน์ ทุกวัน (รถสุดสายที่ บขส.สายเหนือ) วันละ 1 เที่ยว รอบเวลา 20.00 น. ค่ารถคนละ 900 บาท เป็นรถนอน VIP อย่างดี สามารถจองออนไลน์ได้ หรือไปซื้อที่หมอชิตเลยก็ได้ (แนะนำจองจะมั่นใจกว่า)
วาร์ปไปจองตั๋วรถทัวร์
WebSite : http://www.pns-allthai.com/pns_bs/booking_trip_preview.php
LINE@ : @bus999
จากเวียงจันทร์ ไปวังเวียง (รถทัวร์ บขส. จะไปสุดสายที่ ขนส่งสายเหนือทุกคัน ผมสอบถามข้อมูลกับคนขับรถทัวร์แล้ว) **ไม่ต้องไปลงตลาดเช้านะครับ ให้ลงสุดสายเลย ที่ขนส่งสายเหนือ
รถตู้ไปวังเวียง จากขนส่งสายเหนือ มีออกตลอดครับ คนเต็มออก มีเรื่อยๆ
ค่ารถ 50,000 กีบ / คน (200 บาท)
การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยววังเวียง
– พาสสปอร์ต (เหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน) ลงทะเบียนทำพาสปอร์ต > https://www.passport.in.th/eService/
– ลาวใช้เงินกีบ เรตที่ 2.4 (1000 บาท แลกได้ 240,000 กีบ)
– แลกเงิน ควรแลกในธนาคารจะได้เรตดีสุด (แลกธนาคารลาว ควรเอาพาสปอร์ตไปด้วย)
– ภาษา ที่ลาวก็ภาษาเดียวกับอีสานบ้านเฮา สื่อสารกันเข้าใจ ไม่ยุ่งยาก
– ซิมโทรศัพทของลาว 3G ใช้ได้ดี ราคาไม่แพง (ซื้อที่ชายแดนได้เลย มีแนะนำในรีวิว) มีขายทั่วไป
– ไฟฟ้าใช้แบบเดียวกัน ปลั๊กของเมืองไทยใช้ได้เลย
– เช่ารถมอเตอร์ไซค์ในลาว ต้องยึดพาสปอร์ตไว้ และไม่ต้องใช้ใบขับขี่ก็เช่าได้
– การขับรถในลาว จะขับเลนส์ขวา ตรงข้ามกับบ้านเรา
– ห้ามถ่ายภาพสถานที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความมั่นคง เช่นกองทัพ ห้ามเลยนะครับ
– ไม่ควรเปรียบเทียบ อย่างเช่น ที่ลาวอยู่นุ้น ที่ไทยอย่างนี้ ไม่ควรครับ เคารพกันและกัน
– กล้องกันน้ำ ไม่ควรลืม เพราะวังเวียงต้องเจอแต่น้ำ ทั้งน้ำตก พายเรือ ล่องห่วงยาง เปียกแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่มีกล้องกันน้ำ วาร์ปไปรีวิวกล้องกันน้ำ > http://bit.ly/2nTA0aF กล้องกันน้ำอื่นๆ > http://bit.ly/2w3t8hh
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทาง ขาดอะไรเราไปหาเอาข้างหน้า ^__^
ผมอาจจะเล่าละเอียดหน่อย ^__^ เพื่อเป็นไกด์ไลน์สำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยววังเวียง
อ่านรีวิวเที่ยวลาวใต้ > http://bit.ly/2tvn9SL
อ่านรีวิวเที่ยวหลวงพระบาง > http://bit.ly/2vONCGR
เดินทาง
Day 1
กทม. (หมอชิต)
20.00 น.
วิธีการเดินทางไปวังเวียงที่สะดวกที่สุด นั่งรถแค่ 2 ต่อ คือนั่งรถทัวร์จาก กทม. ไปลงเวียงจันทร์ (รถสุดสายที่ ขนส่งสายเหนือ) จากนั้นก็นั่งรถตู้ไปวังเวียงได้เลย (ทิ้งการเดินทางแบบเดิมๆไปได้เลยครับ)
** (กรณีไปจากกรุงเทพฯ) ไม่ต้องนั่งไปลง บขส. อุดร แล้วไปวัดดวงว่าจะทันรถวังเวียงไหม หรือนั่งรถต่อจากอุดร ไปต่อเวียงจันทร์ (ตลาดเช้า) จากเวียงจันทร์ (ตลาดเช้า) หารถต่อไป ขนส่งสายเหนือ ผมบอกเลยว่ายุ่งยาก **
** ทำตามที่ผมแนะนำต่อไปนี้ จะสะดวกที่สุด**
การเดินทางของเราเริ่มจากหมอชิต จองตั๋วผ่านเว็บไซต์มาเรียบร้อยแล้ว ราคา 900 บาท / คน สำหรับใครที่ไม่ได้จอง ก็สามารถมาซื้อที่ หมอชิตได้ ที่เค้าเตอร์ของ 99 (บขส.) ถ้าจองมาแล้วก็เอาหมายเลขการจองมาแจ้งเพื่อรับตั๋ว
จากกรุงเทพฯ (หมอชิต) ไปเวียงจันทร์ มีรถทัวร์ของบขส. ไปลงที่นครหลวงเวียงจันทน์ ทุกวัน วันละ 1 เที่ยว จะมีรถไทย และรถลาว วิ่งสลับกันทุกวัน เป็นรถนอน VIP อย่างดี ที่นั่งมี USB ไว้ชาร์ทมือถือด้วย สะดวกสะบาย มีขนม น้ำดื่ม น้ำผลไม้แจก
วาร์ปไปจองตั๋วรถทัวร์
WebSite : http://www.pns-allthai.com/pns_bs/booking_trip_preview.php
LINE@ : @bus999
ขึ้นรถหลับยาวๆจนถึงโคราช รถจะจอดให้ทานข้าว 30 นาที ตั๋วของเราก็สามารถแล้วบัตรทานข้าวได้ 30 บาท ส่วนเกินจ่ายเอง แนะนำข้าวต้มปลา 35 บาท ใช้ตั๋วอาหาร + เงิน 5 บาท ก็อื่มได้ อิ่มแล้วไปต่อ หลับยาวๆ ตื่นอีกทีถึงหนองคาย
หนองคาย ตม. (สะพานมิตรไทย – ลาว)
06.30 น.
ตม.ไทย
มาถึง (สะพานมิตรไทย – ลาว) ที่หนองคาย ก็ลงจากรถ เราต้องเข้า ตม.ไทย กรอกแบบฟอร์มใบตรวจคนเข้าเมือง ( Thai Immigration bureau) รถทัวร์จะไปจอดรออีกฝั่ง
วิธีกรอกใบ ตม. > https://www.walkwithmethai.com/thai-immigration-bureau/
เมื่อผ่าน ตม. ไทยแล้ว ก็ขึ้นทัวร์ ข้ามสะพานมิตรไทย – ลาว ข้ามน้ำโขง ก็จะมาถึงประเทศลาว หรือ สปป.ลาว
ตม.ลาว
เมื่อมาถึง ตม.ลาว เราก็มากรอกแบบฟอร์มใบตรวจคนเข้าเมืองของลาว
จากนั้นเราก็ไปซื้อบัตร One Way Ticket อยู่ตรงที่ลงรถเลย บัตร One Way Ticket คือค่าธรรมเนียมเข้าประเทศลาวนั่นเอง ราคา 12,000 กีบ (ประมาณ 48 บาท) ถือว่าถูกนะ ผมเคยไปข้ามแดนที่ปากเซ (ลาวใต้) เสียไป 200 แพงมาก เทียบกับที่นี่ 48 บาท ต่างกันมาก
เมื่อผ่าน ตม.ลาวมาแล้ว ก็เอา บัตร One Way Ticket ไปเสียบกับเครื่อง เหมือนที่ MRT บ้านเรา เสียบเข้าไป ประตูก็จะเปิด Welcome To Lao ^__^ จากนั้นก็ขึ้นรถทัวร์ไปต่อ เพื่อเข้าไปยังนครหลวงเวียงจันทร์
รถทัวร์จะ (แวะตลาดเช้า) ย้ำนะครับ **แค่แวะ** จอดที่ตลาดเช้า คือศูนย์รวมรถเมล์ของเวียงจันทร์ (Khua Din Bus Station) ย้ำนะครับ รถทัวร์ยังไม่สุดสาย แค่มาส่งคน (ผมสอบถามข้อมูลกับคนขับแล้ว ทั้งรถไทย และรถลาว จะไปจอดที่ บขส.สายเหนือหมด)
เมื่อรถมาจอดที่ตลาดเช้า จะมีรถกลุ่มคนขับสามล้อวิ่งกรูมาอัดกันที่ประตู เบียดเสียด แข่งกันแย่งลูกค้า เมื่อประตูเปิดเท่านั้นแหละ วิ่งเบียดขึ้นมาบนรถทัวร์ เพื่อมาถามทุกคน ว่าไปไหน เหมารถตุ๊กไหม รถตู้ไปวังเวียงไหม
**ทำตามที่ผมแนะนำนะครับ ไม่ต้องไปฟังอะไร ตอบไปว่าจะไปลงที่สายเหนือ ลงที่ออฟฟิศของรถทัวร์ หรือตอบอะไรก็ว่าไป ผมไม่รู้ว่าราคารถตู้จากตลาดเช้าเวียงจันทร์ ไปวังเวียง ราคาเท่าไหร่ แต่แนะนำให้ไปขึ้นที่สายเหนือจะดีที่สุด พอเราบอกว่าจะไปลงขนส่งสายเหนือ เขาจะพูดใส่เราว่าที่นั่นไม่มีรถไปวังเวียงหรอก ไม่ต้องไปฟังอะไรนะครับ นั่งบนรถทัวร์ต่อไป ยังไม่ต้องลง รถจะออกจากตลาดเช้า แล้วไปสุดสายที่ขนส่งสายเหนือ
เวียงจันทร์ (ขนส่งสายเหนือ)
08.30 น.
ขนส่งสายเหนือ คือศูนย์รวมรถไปภาคเหนือของลาว เช่นรถไป วังเวียง หลวงพระบาง กาสี ไซยะบุรี ซำเหนือ โพนสะหวัน ทุกสายจะผ่านวังเวียงหมดครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีรถครับ
จากเวียงจันทร์ (ขนส่งสายเหนือ) ไปวังเวียง จะมีรถไปวังเวียงตลอด
รถสองแถว รถทัวร์ รถตู้ มีทุกแบบ แต่ผมแนะนำรถตู้ครับ สะดวก รถวดเร็ว
**แลกเงิน ใครที่ไม่ได้แลกเงินมา ลงจากรถทัวร์ ผมแนะนำว่าให้แลกเงินก่อนเลย แลกสัก 1000 บาทก่อนก็ได้ เอาไว้ค่ารถตู้ สามารถแลกที่ช่องขายตั๋วได้ เรตเท่ากัน แล้วค่อยไปแลกในธนาคารที่วังเวียง
**ซิมการ์ด ก็สามารถซื้อได้ที่ขนส่งสายเหนือได้เลย มีร้านมือถือ แนะนำของ UNITEL ราคา 100 บาท มีเงินในซิม 10,000 kip (40 บาท) เน็ตใช้ดีครับ 3G ไวดี ไม่แพงด้วย ผมสมัครโปร (5 วัน) 2 GB 10,000 kip ใช้ได้จนจบทริปเลย
กดเช็คเงินและเน็ต UNITEL *122#
สมัครโปรเน็ต UNITEL
(24 ชม.) 1 GB 5,000 kip *209*21#
(5 วัน) 2 GB 10,000 kip *209*22# (แนะนำ)
(7 วัน) 1.5 GB 10,000 kip *209*23# (แนะนำ)
(30 วัน) 5.12 GB 50,000 kip *209*24#
(30 วัน) 12 GB 120,000 kip *209*25#
(30 วัน) 12 GB (ใช้ได้ไม่จำกัด) kip *209*26#
รถตู้ไปวังเวียง มีออกตลอดครับ คนเต็มออก มีเรื่อยๆ เรามาทันรอบประมาณ 9 โมง คนกำลังใกล้เต็ม
ค่ารถ 50,000 กีบ / คน (200 บาท) จ่ายเงินบนรถได้เลย
จากเวียงจันทร์ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงวังเวียง
วังเวียง
12.00 น.
เมื่อรถมาถึงวังเวียงรถจะไปจอดที่ท่ารถ (Public Bus Stop) ตรงนี้จะเป็นจุดศูนย์รวมของรถที่ไปยังภาคเหนือเมื่อมาผ่านวังเวียงจะแวะจอดที่นี่ และขากลับเราก็จะมาขึ้นรถที่นี่เช่นกัน
หลังจากลงรถตู้แล้ว เราต้องเดินลัดสนามบิน สนามบินที่ว่าคือลานกว้างๆด้านหลังคิวรถนั่นแหละ เป็นสนามบินเป็นสนามบินสำหรับเครื่องร่อนต่างๆ เราต้องเดินลัดเข้าไปเพื่อไปยังตัวเมือง
ที่พักเราห่างจากคิวรถประมาณ 500 เมตรอยู่ในระยะเดินได้ไม่ไกลมากเดินชมตัวเมืองไปเรื่อยๆก็จะมาถึงที่พัก
วังเวียง การ์เดน บังกะโล (ภูมิใจ เกสเฮ้าส์)
วังเวียง การ์เดน บังกะโล หรือชื่อเดิมภูมิใจ เกสเฮ้าส์ เป็นที่พักราคาประหยัด อยู่ในเมืองวังเวียง ไม่ไกลจากท่ารถประจำทาง การเดินทางสะดวก
เราจองห้องพักแบบบังกะโล คืนละ 424 บาท (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว) 2 คืน ก็ 848 บาท ในห้องมีเครื่องทำน้ำอุ่น มีระเบียงด้านหน้า
เหตุผลที่เราจองที่นี่คือ
1. ราคาถูก
2. อยู่ไม่ไกลจากท่ารถมาก เวลามาและกลับจะได้สะดวกในการเดินทาง
เราจองผ่านแอพ HotelsCombined ซึ่งเป็นแอพเปรียบเทียบราคาโรงแรมจากหลายเว็บไซต์ เพื่อให้เราได้ที่พักราคาถูกที่สุด Backpacker อย่างเราต้องราคาถูกๆไว้ก่อน ^__^
วาร์ปไปดาวน์โหลดแอพ HotelsCombined
Android : http://bit.ly/2tsHe7X
IOS : http://bit.ly/2vQna04
วังเวียง การ์เดน บังกะโล : http://bit.ly/2ggOTEK
เมื่อเช็คอิน เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราจะเดินเข้าไปในเมืองเพื่อไปหาร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ หรือร้านทัวร์ต่างๆไว้ ทางที่เราเดินผ่านมา มีร้านเพียบ
สำหรับราคาเช่ามอเตอร์ไซค์ และจักรยานในเมืองวังเวียง
Full Day (07.00 – 20.00)
– รถเกียร์ 50,000 kip (200 บาท)
– รถออโตเมติก 80,000 kip (320 บาท)
– รถจักรยาน แบบมีเกียร์ 30,000 kip (120 บาท)
– รถจักรยานธรรมดา 15,000 kip (60 บาท)
24 ชั่วโมง เช่าเวลาไหนคืนเวลานั้นของอีกวัน
– รถเกียร์ 70,000 kip (280 บาท)
– รถออโตเมติก 100,000 kip (400 บาท)
แต่ละร้านราคาต่างกันไป (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้)
การเช่ารถในลาวไม่ต้องใช้ใบขับขี่ทางร้านจะยึดพาสปอร์ตไว้ เวลาคืนรถก็มารับพาสปอร์ตคืน
ส่วนเรานั้นเช่ารถเกียร์ธรรมดา 24 ชั่วโมง ในราคา 70,000 kip เช่า 2 วัน ก็ 140,000 kip (560 บาท)
รถเช่าที่นี่จะไม่ค่อยเติมน้ำมันไว้ มีน้ำมันไว้แค่นิดเดียวแค่พอไปปั๊มน้ำมัน เวลาส่งรถคืน เหลือน้ำมันกลับมาเท่าไหร่ก็ได้
**หรือถ้าใครไม่สะดวกที่จะขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว ที่วังเวียงก็จะมีทัวร์แบบจอยทริป ในวังเวียงจะมีโต๊ะทัวร์อยู่แทบทุกที่ ในราคาไม่แพง พาไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ก็เป็นวิธีที่สะดวกดีเช่นกัน มีรถมารับมาส่งถึงที่พักเลย สำหรับวันนี้เราจะเช่ามอเตอร์ไซค์เพื่อสะดวก ส่วนพรุ่งนี้เราจะซื้อทัวร์เพื่อไปล่องห่วงยางและพายเรือคายัค
เมื่อได้รถแล้วก็ออกไปตะลุยกันวันนี้เราจะไปเล่นน้ำ บลูลากูน กันก่อน
สำหรับการเดินทางไปบลูลากูน เราจะต้องข้ามสะพาน ข้ามแม่น้ำซองไป ซึ่งสะพานข้ามน้ำซองจะมีแค่ที่เดียว เราจะต้องเสียเงินทุกครั้งที่ข้ามไป
ค่าข้ามสะพานแม่น้ำซอง
ครั้งละ 5,000 kip (20 บาท)
เพราะฉะนั้นเราควรวางแผนให้ดี ไม่ควรข้ามหลายรอบ เพราะจะเสียเงินเยอะ
ที่วังเวียงจะมีบลูลากูนทั้งหมด 4 แห่ง เรียงตามนี้ 1 2 3 5 เราจะไปที่สวยที่สุดแค่ 2 แห่ง คือ บลูลากูน 1 และบลูลากูน 2
วังเวียง
จุดเด่นของวังเวียงคือจะมีทุ่งนา มีภูเขาหินปูนสูงเสียดฟ้า สูงเด่นเห็นแต่ไกลเป็นวิวที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามมากๆ จนเป็นจุดหมายของนักเดินทางทั่วโลก ที่ใฝ่ฝันอย่างมาเยือนเมืองวังเวียง
ทุ่งนาสีเขียวตัดกับภูเขาสูงทำให้เป็นภาพที่สวยงามมากๆจนได้รับขนานนามว่ากุ้ยหลินเมืองลาว 
ชาวบ้านที่นี่มีชีวิตเรียบง่าย เราจะเห็นเด็กๆชาวลาวตามหมู่บ้านที่ออกมาเล่นน้ำ เป็นภาพที่ดูแล้วมีความสุขชีวิตสโลว์ไลฟ์อย่างแท้จริง 
ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากเมืองวังเวียงมาประมาณ 7 กิโลก็จะมาถึงบลูลากูน 1
บลูลากูน 1 (BlueLagoon 1)
ค่าเข้า
10,000 kip / คน (40 บาท)
สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็จะมีเสื้อชูชีพให้เช่า
เช่าเสื้อชูชีพ 10,000 kip / ตัว (40 บาท)
บลูลากูน 1 เป็นจุดที่มีชื่อเสียงที่สุด และได้รับความนิยมมากที่สุด มาถึงวังเวียงต้องไม่ควรพลาด บลูลากูน 1 แห่งนี้ รอบๆจะมีที่นั่ง มีซุ้มนั่งทานข้าว บรรยากาศดีริมน้ำ สำหรับพักผ่อน 
บริเวณที่เรียกว่า บลูลากูน เราจะเห็น ต้นไม้สีเขียวน้ำสีฟ้าบรรยากาศชุ่มฉ่ำดีจัง น้ำที่ไหลออกมาจากถ้ำ เป็นสีฟ้าใสน่าเล่นมากๆ 
จุดเด่นของบลูลากูน 1 จะมีต้นไม้ที่ยื่นออกไปเหนือน้ำเป็นจุดที่สามารถกระโดดลงมาได้เป็นจุดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่สุด มีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นแรกจะไม่สูงมาก ชั้นที่ 2 เป็นชั้นวัดใจเลยก็ว่าได้ 
เราเองก็ไม่พลาดที่จะไปกระโดดเล่นสักครั้ง เป็นอะไรที่สนุกสุดเหวี่ยงมากน้ำเย็นสดชื่นสุดๆ
เราใช้เวลาเล่นน้ำที่นี่กันเกือบชั่วโมง โดดเล่นกันหลายรอบ จนไม่อยากขึ้นเลย ^__^
เราจะไปต่อกันที่บลูลากูน 2 ซึ่งห่างจากบลูลากูน 1 ประมาณ 7 กิโล
บลูลากูน 2 (Blue Lagoon 2)
ค่าเข้า
10,000 kip / คน (40 บาท)
สำหรับบลูลากูน 2 จะมีแอ่งน้ำใหญ่กว่ากว้างกว่าบลูลากูน 1 ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลมาจากถ้ำเช่นกัน
น้ำบริเวณบลูลากูนที่ไหลออกมา จะใสมากๆ พอออกมาใกล้ๆหน่อยก็จะเริ่มขุ่นลง เพราะคนเริ่มเล่นเยอะ แต่บริเวณปากถ้ำจะใสมากๆ ใสจนมองเห็นพื้นด้านล่างชัดแจ๋วเลย
ที่นี่ก็มีจุดสำหรับกระโดดน้ำเช่นกัน แต่ไม่ใช่ต้นไม้ แต่เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นเอง สูงพอๆกันกระโดดกันมันเลยทีเดียว ^__^ 
จุดไฮไลท์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นบริเวณปากถ้ำที่น้ำไหลออกมา น้ำบริเวณนี้สวยมากๆใส่ราวกับกระจก น้ำใสและเย็นมากๆต้องลองมาดูด้วยตัวเอง ^__^ 
ใช้เวลาเล่นน้ำอยู่ที่นี่เกือบชั่วโมงเช่นกัน ก่อนจะเดินทางกลับไปที่เมืองวังเวียง อาบน้ำเปลี่ยนชุดออกมาเดินเล่นตอนเย็นกัน
วังเวียง ยามค่ำคืน
ในตอนเย็นเราจะเห็นนักท่องเที่ยวทั้ง ฝรั่ง เกาหลี และคนไทยออกมาเดินเล่นกัน คนเกาหลีเยอะมากเยอะจริงๆ จัดได้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของที่นี่เลย
ในเมืองก็จะมี ร้านอาหาร ร้านนั่งชิว มีบาร์ ต่างๆมากมาย
เราต้องไม่ควรพลาดที่จะลองกินแซนด์วิช ซึ่งแซนวิชที่นี่เป็นเอกลักษณ์มากชิ้นเดียวกินได้ 2 มื้อเลย ชิ้นใหญ่มากและอร่อยมากๆผมนี้ติดใจเลย ^__^ อร่อยจริงต้องมาลอง ราคาเริ่มที่ 15,000 kip – 25,000 kip (60 – 100 บาท) อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใส่อะไรบ้าง ต้องมาลองกินสักครั้ง ^__^
วังเวียง จะมีโต๊ะขายทัวร์เยอะมาก เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ มีหลากหลายแบบ เช่นไป blue lagoon ไปถ้ำน้ำ ไปถ้ำจัง ไปพายเรือคายัค ล่องห่วงยางแม่น้ำซอง เล่นซิปไลน์ ขี่ช้าง ขับรถbuggy เดินป่า ไปจุดชมวิว ฯลฯ มีหลากหลายโปรแกรมมาก
โปรแกรมที่เราจะซื้อ คือโปรแกรม ล่องห่วงยางถ้ำน้ำ ดูถ้ำช้าง และพายเรือคายัคแม่น้ำซอง พร้อมอาหารกลางวัน รถรับส่งที่พัก จะมีถุงใส่ของกันน้ำให้ด้วย (Ocean pack)
ราคา 90,000 kip / คน (360 บาท)
กิจกรรมเริ่มเวลา 09.00 น. รถจะมารับ 08.30 ใช้เวลาไม่เกินบ่าย 2 ครึ่ง
จบวันแรกจัดว่า happy พรุ่งนี้รถจะมารับตอนเช้าไปทัวร์กัน ^__^
Day 2
วังเวียง ยามเช้า
เช้าวันที่สองของเราในวังเวียง ทัวร์มารับ 08.30 และไปรับคนอื่นๆรวมๆแล้วประมาณ 10 คนมีคนไทยครึ่งหนึ่ง ที่เหลือเป็นเกาหลี แล้วไกด์จะแจกถุงใส่ของกันน้ำให้ทุกคน พร้อมแล้วออกเดินทางเราจะไปถ้ำน้ำกันก่อน
บรรยากาศยามเช้าของวังเวียง จะมีหมอกเยอะมากๆ หมอกจะลอยตัดผ่านภูเขา เป็นภาพที่สวยงามมากๆอากาศดี หมอกสวย ทุ่งนาสีเขียว มองแล้วเพลินตามีความสุขกับบรรยากาศรอบๆ ^__^ 
นั่งรถออกจากเมืองมาไม่นานเราก็มาถึงทางเข้าถ้ำน้ำ และถ้ำช้าง รถจะมาจอดส่งเราบริเวณสะพาน ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซอง บรรยากาศเช้านี้ดีมากๆ มีหมอกยามเช้าอากาศสดชื่นมาก วิวสวย อากาศบริสุทธิ์ ^__^
เราต้องเดินเท้าเข้าไป โดยจุดแรกจะผ่านถ้ำช้างก่อน
ถ้ำช้าง
ถ้ำช้าง เป็นถ้ำที่ไม่ใหญ่มาก ภายในจะมีหินงอกหินย้อย และมีพระอยู่ภายในถ้ำ 
จุดไฮไลท์ของทัพช้างคือจะมีหินงอก ที่มีลักษณะเป็นรูปช้าง เหมือนช้างมากๆ จนเป็นที่มาของชื่อถ้ำช้าง ซึ่งเกิดจากธรรมชาติ การหยดลงของน้ำเป็นเวลาหลายล้านปี จนเกิดเป็นความสวยงามตามธรรมชาติอย่างที่เราเห็น
หลังจากชมถ้ำช้างเสร็จแล้ว ก็ต้องเดินต่อ เพื่อไปยังถ้ำน้ำ ระหว่างทางเดินผ่านทุ่งนา และภูเขาบรรยากาศรอบๆธรรมชาติสวยงามมากๆ 
ใช้เวลาไม่นานแล้วก็มาถึงถ้ำน้ำ
ล่องห่วงยาง ถ้ำน้ำ (Tham Nam Water Cave)
เมื่อมาถึง ไกด์ก็จะแจกไฟฉาย แจกห่วงยาง พร้อมแนะนำขั้นตอนต่างๆ ก่อนเข้าไปในถ้ำน้ำ ใครที่มีกล้องกันน้ำ มาด้วยไกด์ก็เอาขวดน้ำเปล่าๆมาผูกเพื่อเป็นทุ่นไม่ให้กล้องจมน้ำเวลาหลุดมือ บริการดีมากๆ ^__^ พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย
การเข้าถ้ำน้ำเราจะต้องนั่งบนห่วงยาง ลอยตัวและค่อยๆไต่เชือกเข้าไป น้ำจะไหลตลอดเวลา ควรจับเชือกไว้ตลอดเวลา ค่อยๆไต่เข้าไป น้ำเย็นมากๆ
พอเข้ามาในถ้ำ เริ่มมืดไฟฉายบนหัวต้องเปิดไว้ ไต่เข้าไปเรื่อยๆก็จะเห็นกลุ่มอื่นๆที่สาดน้ำใส่เรา แล้วก็สาดใส่คืนบ้าง ^__^ เป็นความสนุกอีกแบบของการล่องห่วงน้ำยางถ้ำ
เมื่อเข้าไปจนสุด ก็เปลี่ยนเชือก วนกลับมา แล้วก็สาดน้ำใส่คนที่กำลังไต่เข้ามาบ้าง สนุกกันใหญ่เลย ใช้เวลาไม่นานก็กลับออกมาจากถ้ำน้ำ
เป็นประสบการณ์ที่ดี ครั้งหนึ่งในชีวิตในการมาเที่ยวล่องห่วงยางถ้ำน้ำ
ข้อแนะนำ
– ไม่เหมาะสำหรับคนกลัวความมืดหรือที่แคบ
ออกจากถ้ำน้ำเราจะไปทานข้าวเที่ยงกันก่อน 
มื้อเที่ยงจะเป็นข้าวผัด และบาร์บีคิว + ขนมปังชิ้นใหญ่ และกล้วย อร่อยดี ^__^
เมื่อทานข้าวเสร็จแล้วก็พร้อมลงเรือคายัค
พายเรือคายัค แม่น้ำซอง
การพายเรือคายัคจะพายไปตามน้ำของแม่น้ำซอง ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใกด์จะแบ่งให้นั่งลำละ 2 คน ใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชม. ขึ้นกับพายเร็วหรือช้า
พายเรือไปตามกระแสน้ำ เราจะเห็นวิวรอบๆ มีภูเขามีหมอกบรรยากาศดีมากๆ 
มีบางช่วงน้ำแรงความรู้สึกเหมือนล่องแก่ง สนุกเฮฮากันเลยทีเดียว ความสนุกอีกแบบของการพายเรือคายัคคือการได้สาดน้ำใส่เรือลำข้างๆ ใครไม่เปียกก็ต้องโดน ^__^
พายเรือกินลมชมวิวมาเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงวังเวียง เป็นอันจบทัวร์ในครั้งนี้ เป็นทัวร์ที่สนุกและแปลกใหม่ดีต้องมาลองนะครับ ^__^
ไหนๆก็เปียกแล้ว เราจะไปเที่ยวต่อกันเลย เราจะกลับไปที่พัก เพื่อไปเอารถและไปเที่ยวน้ำตก ตาดแก่งยุย
ตาดแก่งยุ้ย (Kaeng Nyui Waterfall)
น้ำตกตาดแก่งยุ้ย อยู่ห่างจากวังเวียงประมาณ 6 กิโลเมตร แต่เป็น 6 กิโลเมตรที่เส้นทางโหดมาก ทางไม่ดีเอาซะเลย 6 กม. ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงทางเข้าน้ำตก
ค่าเข้า
5,000 kip / คน (40 บาท)
ทางเข้าน้ำตก จะมีร้านอาหาร ไก่ย่างส้มตำ ร้านขายของ และมีซุ้มให้นั่งริมลำธารบรรยากาศชิวมากๆ สามารถนั่งพักผ่อนกับครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน บริเวณลำธารตรงนี้ก็สามารถเล่นน้ำได้ บรรยากาศดีมากๆเหมาะสำหรับพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ 
เมื่อเดินเข้าไปด้านใน ก็จะเห็นน้ำตกตามรายทาง เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มากแต่เหมาะสามารถเล่นน้ำได้ 
เมื่อเดินมาถึงชั้นสูงสุดจากทางเข้ามาประมาณ 300 เมตรก็จะมาถึงน้ำตกตาดแก่งยุ้ย
ตาดแก่งยุ้ย เป็นน้ำตกที่สูงมาก และเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในวังเวียง น้ำที่ตกลงมากระทบด้านล่างเป็นละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณพร้อมกับลม 
บรรยากาศรับรอบสดชื่นมากๆ เต็มไปด้วยละอองน้ำ สามารถลงไปเล่นได้ ด้านล่างลมแรงมากละอองน้ำพุ่งกระจายไปทั่ว ลงมาด้านล่างก็จะเป็นจุดที่สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน น้ำไม่ลึกมาก เหมาะสำหรับเล่นน้ำ แช่น้ำเย็นๆ ^__^ สดชื่นฝุดๆ 
ใช้เวลาเล่นน้ำอยู่ประมาณ 40 นาที ก็เดินทางกลับวังเวียง
Smile Beach Bar (Vang Vieng)
Smile Beach Bar ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำ ของแม่น้ำซอง กลางเมืองวังเวียง สำหรับสายบันเทิงสายชิวทั้งหลายไม่ควรพลาดเลย ที่นี่จะเปิดเพลงตลอด เหมาะสำหรับแนวฮิปปี้ และสายชิลทั้งหลาย
บาร์ตั้งอยู่ริมน้ำซอง จะมีที่นั่งเป็นเหมือนเถียงนาเล็กๆ มีเปลให้นอนเล่น ชมบรรยากาศชิวๆ ริมน้ำซอง 
ในตอนเย็นเหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ สำหรับแนวฮิปปี้ และสายชิลทั้งหลายไม่ควรพลาด 
จบวันที่ 2 ของเราในเมืองวังเวียง
Day 3
วันที่ 3 เราจะไปเที่ยวที่สะพานแดง และถ้ำจัง ซึ่งอยู่จุดเดียวกัน ห่างจากตัวเมืองวังเวียงไปทางใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร เนื่องจากที่นี่เป็นเขตของรีสอร์ทเอกชนเราต้องเสียค่าเข้าไป
ค่าเข้า
2,000 kip / คน (8 บาท)
ค่านำรถเข้าไป
– รถยนต์ 5,000 kip / คัน (40 บาท)
– รถมอเตอร์ไซค์ 3,000 kip / คัน (12 บาท)
– รถจักรยาน 2,000 kip / คัน (8 บาท)
เปิด 07.30 – 16.30
เมื่อเข้ามาด้านในก็จะเจอกับสะพานแดง ในตำนาน
สะพานแดง วังเวียง
สะพานแดง วังเวียง เป็นสะพานข้ามน้ำซอง ที่สร้างไว้สำหรับข้ามไปถ้ำจัง เป็นจุดที่ทุกคนนิยมแวะมาถ่ายรูปกันมาก เรียกได้ว่าใครมาเที่ยววังเวียงต้องมาถ่ายรูปที่สะพานนี้กันทุกคน 
เดินไปไม่ไกลก็มาถึงทางเข้าถ้ำจัง
ถ้ำจัง (Tham Chang)
ค่าเข้า
15,000 kip / คน (60 บาท)
ซื้อตั๋วเสร็จแล้วเราต้องเดินขึ้นบันไดไปด้านบนเพื่อไปยังทางเข้าถ้ำจัง 
เมื่อเข้าไปในถ้ำจังเราจะเห็นความยิ่งใหญ่ซึ่งเกิดจากพลังธรรมชาติ ในถ้ำจะมีไฟส่องสว่างให้ตลอด ภายในมีหินงอกหินย้อยสีขาว สีเนื้อ หลากหลายรูปแบบภายในถ้ำมีทางเดินเชื่อมไปยังจุดต่างๆ 
เมื่อเดินไปจนสุดทางเดินก็จะมาโผล่ตรงจุดชมวิว ที่สามารถเห็นวิวภูเขา แม่น้ำซอง และเมืองวังเวียงได้
เที่ยวชมถ้ำจังเสร็จแล้วก็ลงมาด้านล่างได้ยินเสียงในเด็กเล่นน้ำในลองเดินไปดู น้ำใสมากๆ ยิ่งกว่าบลูลากูนอีก อดไม่ได้ที่จะลงเล่นกับเด็กๆ
เล่นน้ำ หน้าถ้ำจัง
จริงๆน้ำตรงนี้ ไม่มีชื่อ ชาวบ้านเรียกว่า “น้ำหน้าถ้ำ” ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลออกมาจากถ้ำจัง เป็นน้ำสีฟ้าใสมากๆ ไหลออกมาเป็นระยะทางสั้นๆก่อนไหลลงแม่น้ำซอง
ขอบอกว่าน้ำใสมากกกกก ใสกว่าบลูลากูนอีก รออะไรละ กระโดดสิ ^__^ เป็นการเล่นน้ำ ก่อนกลับที่สนุกมากๆ เล่นกับเด็กๆชาวลาว ม่วนหลาย มีโอกาสจะมาเล่นใหม่ ^__^ 
เล่นน้ำเสร็จก็กลับไปยังที่พัก เก็บข้าวของเช็คเอ้าท์ เพื่อเดือนทางกลับ เช็คเอ้าท์ก่อนเที่ยงกำลังดี เรากะเวลาต้องออกจากวังเวียงไปถึงเวียงจันทร์ก่อนเวลา 16.00 เพื่อให้ทันรถทัวร์เวียงจันทร์ – กรุงเทพฯ
ขากลับก็ไปขึ้นรถตู้ ตรงที่เราลงรถตอนขามานั้นแหละ (Public Bus Stop) จะมีรถตู้จากวังเวียง ไปเวียงจันทร์ ออกตลอดเรื่อยๆ ค่ารถคนละ 50,000 kip (200 บาท) จ่ายบนรถ 
ใช้เวลาเดินทาง 3 ชัวโมงนิดๆ ไปเวียงจันทร์ (ขนส่งสายเหนือ)
จากเวียงจันทร์ (ขนส่งสายเหนือ) จะมีรถทัวร์ ไปกรุงเทพฯ รอบเวลา 16.00 มีวันละ 1 เที่ยว
ค่ารถคนละ 900 บาท หรือใครจะไปขึ้นรถที่ตลาดเช้าก็ได้ รถจะไปจอดที่นั่นเหมือนกัน ผ่านตม. หลับยาวๆบนรถไปถึงกรุงเทพฯ ก็เช้าอีกวันพอดี
จบเรียบร้อยครับสำหรับทริปเที่ยววังเวียง สปป.ลาว เป็นทริปที่ประทับใจ มีความสุข สนุกกับการเดินทางมากๆ ได้เห็นอะไรใหม่ๆ มากมายในการเดินทางครั้งนี้ เที่ยวต่างประเทศไม่ยากอย่างที่คิดครับ เริ่มที่ลาวก่อนเลย ง่ายๆ ^__^
สำหรับใครที่ต้องการมาเที่ยววังเวียง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไปยังไง ตามรอยรีวิวเรามาได้เลยจ้า ข้อมูล การเดินทาง ที่พัก ที่เที่ยว ครบเลย อย่างที่ผมบอกไว้ตั้งแต่ต้น ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะแนะนำวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว แล้วเจอกันทริปต่อไป
Goodbye
สรุปค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของทริปนี้
– ค่ารถทัวร์กรุงเทพฯ – เวียงจันทร์ ขาไป 900 บาท
– ค่ารถทัวร์เวียงจันทร์ – กรุงเทพฯ ขากลับ 900 บาท
– ค่ารถตู้เวียงจันทร์ – วังเวียง ขาไป 50,000 kip (200 บาท)
– ค่ารถตู้วังเวียง – เวียงจันทร์ ขากลับ 50,000 kip (200 บาท)
– ค่าซื้อบัตร One Way Ticket เข้าประเทศลาว 12,000 กีบ (48 บาท)
– ค่าซิมการ์ด 100 บาท
– ค่าที่พักวังเวียง การ์เดน บังกะโล 2 คืน ก็ 848 บาท (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว)
– เช่ามอเตอร์ไซค์ เช่า 2 วัน ก็ 140,000 kip (560 บาท)
– ค่าข้ามสะพาน 5,000 kip (20 บาท)
– ค่าเข้า บลูลากูน (1) 10,000 kip / คน (40 บาท)
– ค่าเข้า บลูลากูน (2) 10,000 kip / คน (40 บาท)
– ซื้อทัวร์ ถ้ำน้ำ ถ้ำช้าง พายเรือคายัค 90,000 kip / คน (360 บาท)
– ค่าเข้า น้ำตกตาดแก่งยุ้ย 5,000 kip / คน (20 บาท)
– ค่าเข้า สะพานแดง 2,000 kip / คน (8 บาท)
– ค่าเข้า ถ้ำจัง 15,000 kip / คน (60 บาท)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆขึ้นอยู่กับบุคคลเลยน๊าา (แต่ละคนใช้จ่ายไม่เหมือนกัน)
ปล. ค่าใช้จ่ายต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรโทรเช็คก่อน
วาร์ปไปดาวน์โหลดแอพ HotelsCombined
Android : http://bit.ly/2tsHe7X
IOS : http://bit.ly/2vQna04
วาร์ปไปจองตั๋วรถทัวร์
WebSite : http://www.pns-allthai.com/pns_bs/booking_trip_preview.php
LINE@ : @bus999
อย่าติดตามรีวิวดีๆกับเรา ด้วยการกดติดตาม และกดเห็นโพสก่อน ได้ที่เพจ > Tripth ทริปไทยแลนด์ < รับรองว่าจะไม่พลาดทริปดีๆแน่นอนครับ ^^
อ่านรีวิวเที่ยวลาวใต้ > http://bit.ly/2tvn9SL
อ่านรีวิวเที่ยวหลวงพระบาง > http://bit.ly/2vONCGR
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line ID : : @TripTH
Inbox : m.me/TripTH.con/
ภาพและข้อมูลโดย © TripTH
เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn @ TripTH
