เต็มอิ่มกับท้องไร้ทุ่งนา วัดวาอาราม ในอำเภอปัว จังหวัดน่าน

1096
อำเภอปัว จังหวัดน่าน
Finver Lipmatte ลิป ฟินเวอร์

“จังหวัดน่านไม่จำเป็นต้องเที่ยวภูเขา คาเฟ่เสมอไปใช่ไหมคะทุกคน แต่ทุกคนก็คงสงสัยว่าถ้าไม่ให้ไปเที่ยวภูเขา ดอย คาเฟ่ แล้วจะไปที่ไหนได้อีก ที่นี้มีคำตอบค่ะ เราจะพาทุกคนไปยังอำเภอ อำเภอนึงในจังหวัดน่าน นั้นก็คืออำเภอปัวนั้นเองค่ะ แต่จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นตามชมได้เลยค่ะ”

อำเภอปัว จังหวัดน่าน

อำเภอปัว  เป็นอำเภอศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดน่านตอนเหนือ  โดยห่างจากตัวอำเภอเมืองน่าน 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า  เป็นเมืองสีเขียวที่มองแล้วสบายตาสบายใจสุดๆที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติแสนงดงามเกินจะบรรยาย เป็นที่อยู่ของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งคนไทลื้อ ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง เมี่ยน และลัวะ แต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อที่มีประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแต่งกายแบบพื้นบ้านอย่างเช่น ผ้าทอไทลื้อ ที่สร้างชื่อมาช้านานกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอำเภอนี้

อำเภอปัว จังหวัดน่าน
อำเภอปัว จังหวัดน่าน
อำเภอปัว จังหวัดน่าน
อำเภอปัว จังหวัดน่าน

ในช่วงฤดูทำนาเราจะได้เห็นไร่นาเขียวขจีห้อมล้อมด้วยขุนเขาพร้อมสายหมอกบาง  ในฤดูหนาวก็จะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นอีกด้วย เมืองปัวเป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเที่ยวหน้าหนาวดีกว่าอากาศหนาวเย็นสบาย  แต่ถ้าอยากเห็นเมืองปัวในแบบที่สวยที่สุดควรมาหน้าฝนช่วงฤดูทำนาตั้งแต่กลางเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม เพราะ ถ้ามาหน้าหนาวก็จะไม่ได้เห็นทิวทัศน์ทุ่งนาเขียวขจีเต็มเมืองปัว ซึ่งวิวทุ่งนาและเขาเขียวขจีนี้แหละเป็นจุดเด่นอีกอย่างของเมืองปัวเลยล่ะค่ะ พื้นที่ของอำเภอปัวเกือบทั้งเมืองประชากรประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ตลอดสองข้างเต็มไปด้วยแปลงคันนา 

อำเภอปัว จังหวัดน่าน
อำเภอปัว จังหวัดน่าน
อำเภอปัว จังหวัดน่าน
อำเภอปัว จังหวัดน่าน

วัดภูเก็ต ถือว่าเป็นวัดที่มีภูมิทัศน์และวิวที่สวยงาม จุดเด่น คือ มีระเบียงชมวิวซึ่งมองเห็นทุ่งนาที่กว้างไกลพร้อมด้วยฉากหลังเป็นภูเขาของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ช่วงเวลาเช้าวัดภูเก็ตเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของจะหวัดน่านก็ว่าได้ ถ้าอยากเห็นบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้นเคล้าสายหมอกก็ต้องมากันแต่เช้าประมาณ 6 โมงค่ะ  แต่ถ้าอยากมาถ่ายภาพทุ่งนาในบรรยากาศแบบไม่ย้อนแสงแล้วตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าคราม แนะนำให้มามาช่วงบ่าย แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศทุ่งนาที่สีเขียวตัดสีส้มของตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าก็ต้องมาสัก6โมงเย็นค่ะ ที่วัดภูเก็ตมีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์และจิตรกรรมฝาผนังสามมิติ เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา” ที่ศักดิ์สิทธิ์หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก

อำเภอปัว จังหวัดน่าน

ด้านล่างจะมีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นน้ำซับซึมมาจากใต้ดินไหลรวมกันเป็นลำธารให้ฝูงปลาและสัตว์เล็กสัตว์น้อยดำรงชีพกัน และทางวัดได้จัดให้เขตนี้เป็นเขตอภัยทาน นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารจากลานข้างบนผ่านท่อไหลลงไปให้กับฝูงปลาได้ และสามารถมองเห็นฝูงปลาที่อยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจนเช่นกันค่ะ

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีโรงแรมธรรมะ เป็นอาคารที่พักสำหรับผู้ที่มาปฎิบัติธรรมหรือนักนักท่องเที่ยวที่สนใจ  อาคารซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดชมวิว สามารถเห็นวิว ทุ่งนาเขียวขจีได้ ตัวโรงแรมจะสร้างอยู่ใต้โบสถ์ของวัดภูเก็ต เนื่องจากวัดภูเก็ตสร้างอยู่บนเนินเขา และมีการสร้างโรงแรมขึ้นบริเวณเชิงเขาด้านล่าง ของโบสถ์ ทำให้บริเวณลานโบสถ์กลายเป็นดาดฟ้าของโรงแรม และการที่เรียกว่าโรงแรมธรรมะ เพราะมีการจัดห้องพักในลักษณะ เดียวกับโรงแรม ซึ่งผู้ที่เข้ามาพักจะได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมร่วมกับการพักผ่อน โรงแรมธรรมะของวัดภูเก็ตถือเป็นแห่งแรก ในประเทศไทยอีกด้วยค่ะ

อำเภอปัว จังหวัดน่าน

ถือว่าอิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มสุขกันถ้วนหน้ากันเลยใช่ไหมคะ ลองเปลี่ยนจังหวัดน่านในอุดมคติของทุกคนดูนะคะ จังหวัดน่านไม่ได้มีดีแค่ทะเลหมอก ภูเขา เหล่าดอย แต่ยังมีวัดวาอาราม ทุ่งนาเขียวขจี ให้ชื่นอกชื่นใจอีกด้วย ทางเราไปมาครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนมุมมองจังหวัดน่านใหม่กันเลยล่ะค่ะ และรับรองถ้ามีโอกาสจะมาหาอีกนะ อำเภอปัว จังหวัดน่าน

ทบทวนภาพรวม
เต็มอิ่มกับท้องไร้ทุ่งนา วัดวาอาราม ในอำเภอปัว จังหวัดน่าน
pua-district "จังหวัดน่านไม่จำเป็นต้องเที่ยวภูเขา คาเฟ่เสมอไปใช่ไหมคะทุกคน แต่ทุกคนก็คงสงสัยว่าถ้าไม่ให้ไปเที่ยวภูเขา ดอย คาเฟ่ แล้วจะไปที่ไหนได้อีก ที่นี้มีคำตอบค่ะ เราจะพาทุกคนไปยังอำเภอ อำเภอนึงในจังหวัดน่าน นั้นก็คืออำเภอปัวนั้นเองค่ะ แต่จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นตามชมได้เลยค่ะ" อำเภอปัว  เป็นอำเภอศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดน่านตอนเหนือ  โดยห่างจากตัวอำเภอเมืองน่าน 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า  เป็นเมืองสีเขียวที่มองแล้วสบายตาสบายใจสุดๆที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติแสนงดงามเกินจะบรรยาย เป็นที่อยู่ของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งคนไทลื้อ ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง เมี่ยน และลัวะ แต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อที่มีประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแต่งกายแบบพื้นบ้านอย่างเช่น ผ้าทอไทลื้อ ที่สร้างชื่อมาช้านานกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอำเภอนี้ ในช่วงฤดูทำนาเราจะได้เห็นไร่นาเขียวขจีห้อมล้อมด้วยขุนเขาพร้อมสายหมอกบาง  ในฤดูหนาวก็จะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นอีกด้วย ...