วัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) แหล่งสักการะบูชาขึ้นชื่อของชาวศรีสะเกษ

2476
วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ
Finver Lipmatte ลิป ฟินเวอร์

…หากจะเอ่ยถึงวัดขึ้นชื่อของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ขอแนะนำวัดขึ้นชื่อของจังหวัดศรีสะเกษค่ะ วัดมีนามว่า วัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) สายบุญ สายวัด สายแสวงหาบุญ สายขอพร หรือสายไหนๆ ก็ไม่ควรพลาดวัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) เพราะวัดนี้มีดีกว่าที่คุณคิด จะมีดีอย่างไรบ้างนั้นตามเรามาเลยค่ะ…

วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ

วัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) วัดสีส้มอิฐ ตั้งอยู่ที่  111 หมู่ 10 ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ ศรีสะเกษ เดิมเป็นที่พำนักของหลวงปู่สรวง นักบุญแห่งดินแดนอีสานใต้ พระผู้บำเพ็ญเพียรตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา อันมีเมตตาบารมีช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจนเป็นที่รักและศรัทธาของผู้คนละแวกนั้น รวมไปถึงลูกศิษย์ลูกหาทั่วไป จนท่านได้ถูกขนานนามว่า “เทวดา เดินดิน” หลังจากที่หลวงปู่ละสังขารไปในปีพุทธศักราช 2542 สรีระสังขารของหลวงปู่ไม่เปื่อยไม่เนา ลูกศิษย์ลูกหาจึงได้นำไปบรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหา รวมไปถึงนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพร และลอดใต้โลงแก้วเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต เมื่อสำเร็จ ก็จะนำของไปถวาย หลวงปู่สรวง อย่างเช่น ไก่ และ ว่าว

วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ
วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ
วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ
วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ

ประวัติโดยย่อของหลวงปู่สรวง(วัดไพรพัฒนา)

หลวงปู่สรวงแต่เดิมเป็นชาวกัมพูชาและได้เดินทางมาอยู่บริเวณอำเภอขุนหาญและอำเภอขุขันธ์ แถบชายแดนตามเชิงเขาพนมดังรัก (พนมดองเร็ก) ซึ่งเป็นเขตกั้นกลางระหว่างประเทศกัมพูชา ท่านเป็นผู้ทรงศีลปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ และได้พักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้านโคก และเวียนไปในที่ต่างๆ นานๆ ก็จะกลับมาให้เห็น ณ ที่เดิมอีก ในสายตาของชาวบ้านในสมัยนั้นมองท่านเป็นผู้มีคุณวิเศษ และเรียกท่านว่า “ลูกเอ็อวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” ซึ่งเป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบสที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำตามป่าเขา หลวงปู่เดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆโดยลำพัง ทำให้ไม่มีใครทราบถิ่นกำเนิดและอายุของหลวงปู่ที่แท้จริง รู้เพียงแต่ว่าหลวงปู่เป็นชาวเขมรต่ำ ได้เข้ามาอาศัยในประเทศไทยนานแล้ว

ชาวบ้านแถบนี้เห็นหลวงปู่บ่อยๆ ที่ป่าบ้านตะเคียนราม วัดตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ แถวบ้านลุมพุก ตำบลกันทรารมย์ อำเภอขุขันธ์ และตามหมู่บ้านอื่นๆ รอบชายแดน บางทีหายไป ๒-๓ ปีก็จะกลับมาใหม่อีกครั้ง ระยะหลังๆพบเห็นหลวงปู่เป็นประจำอยู่ในกระท่อมนาข้างต้นโพธิ์ บ้านขะยอง วัดโคกแก้ว บ้านโคกเจริญ กระท่อมนาระหว่างบ้านละลม กับบ้านจะบก กระท่อมนาบ้านรุน อำเภอบัวเชด และบ้านอื่นๆใกล้เคียง ระยะนี้แต่ละวันจะมีผู้ขับรถเข้ามากราบไหว้หลวงปู่เป็นจำนวนมาก บางคนก็สมหวังมีโอกาสได้กราบนมัสการ บางคนมาไม่พบก็ต้องนั่งรอนอนรอจนกว่าหลวงปู่จะกลับมา ถึงแม้ว่าจะพบความลำบากเพียงไรก็ยอมทนเพียงขอให้มีโอกาสกราบหลวงปู่สักครั้งหนึ่งในชีวิต ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เสมอ จึงมีผู้มากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำ และกลับมาหาหลวงปู่อยู่บ่อยครั้งเท่าที่จะกลับมาหาได้

เมื่อหลวงปู่มีอาการป่วยและฉันอาหารไม่ได้เป็นเวลาหลายวัน ท้ายสุดหลวงปู่ได้มาพักอยู่ที่กระท่อมนาข้างวัดป่าบ้านจะบก ตอนนั้นหลวงปู่ได้สั่งให้ลูกศิษย์ที่รวมกันอยู่ในกระท่อมในขณะนั้นช่วยกันงัดแผ่นกระดานปูกระท่อมที่หลวงปู่นั่งทับอยู่ออกมาหนึ่งแผ่น พองัดออกมาหลวงปู่ได้พนมมือไหว้ทุกทิศ เสร็จแล้วก็ให้ศิษย์หามท่านออกมาจากกระท่อมวางบนพื้นดินด้านทิศเหนืออยู่ระหว่างกระท่อมกับต้นมะขาม โดยตัวท่านเองหันหน้าเข้ากระท่อม  ขณะนั้น มีผู้นำน้ำดื่มบรรจุขวดมาถวายสองขวด หลวงปู่ได้เทราดตนเองจากศีรษะลงมาจนเปียกโชกไปทั้งตัว คล้ายกับเป็นการสรงน้ำครั้งสุดท้าย หลวงปู่ได้บอกให้นายชัยขับรถไปที่กระท่อมบ้านรุนซึ่งอยู่ในอำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์โดยด่วน โดยสั่งว่า “โตวกะตวม โตวกะตวม กะตวม” พอถึงกระท่อมนาก็ได้อุ้มหลวงปู่วางลงบนแคร่ที่ตั้งอยู่ในกระท่อมแล้วช่วยก่อกองไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่หลวงปู่ อาการหลวงปู่ไม่ดีขึ้นจึงได้นำหลวงวปู่ขึ้นรถเพื่อไปโรงพยาบาล เหตุการณ์บนรถในขณะที่กำลังเลี้ยวรถเพื่อจะขับผ่านทุ่งหญ้าออกไปนั้น ได้มีอาการบางอย่างที่เป็นสัญญาณแสดงว่าหลวงปู่จะมรณภาพแน่นอนให้คนที่อยู่บนรถเห็น หลวงปู่เริ่มหายใจแผ่วลง ในที่สุดได้ทอดมือทิ้งลงข้างกายแล้วก็จากไปด้วยความสงบ 

หลวงพ่อพุฒที่ได้เดินทางตามมาได้อธิษฐานว่า “สาธุ ถ้าหากหลวงปู่มีความประสงค์จะให้ลูกหลานได้เป็นผู้บำเพ็ญกุศล ก็ขอให้หลวงปู่ได้กลับมายังวัดด้วยเถิด” พอถึงหน้าวัดป่าบ้านโคกชาติ มีรถหลายคันจอดอยู่ ปรากฏว่าขบวนที่นำร่างหลวงปู่มาบอกว่าจะนำร่างหลวงปู่กลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดไพรพัฒนา หลังจากที่เดินทางกลับมาถึงวัดไพรพัฒนาแล้วหลวงพ่อได้ให้อัญเชิญร่างของหลวงปู่มาไว้ที่ศาลาพร้อมกับจุดธูปอธิษฐานว่า “หากเป็นความประสงค์ของหลวงปู่ที่จะให้ลูกหลานได้บำเพ็ญกุศลในที่นี่จริงก็ขอให้ดำเนินการไปโดยเรียบร้อย และก็ขอให้มีลูกศิษย์ของหลวงปู่เดินทางมาร่วมบำเพ็ญกุศลโดยทั่วกันด้วย”  ต่อจากนั้นก็ได้ดำเนินการบำเพ็ญกุศลให้กับหลวงปู่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน นี่คือเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเหตุใดสรีระหลวงปู่สรวงจึงได้มาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ
วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ
วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ
วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ
วัดหลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ

สอบถามข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ดังนี้

Facebook : หลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา

โทร : 099-625-3859

หมายเหตุ : เปิดบริการทุกวันเวลา 06.00 น. – 20.00 น.

การเดินทางมายังวัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง)สามารถเดินทางมาได้ดังนี้

จากตัวเมืองศรีสะเกษ เดินทางลงไปทางทิศใต้ ไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 220 ไปประมาณ 57 กิโลเมตร ผ่านอำเภอวังหิน ผ่านอำเภอขุขันธ์ และ เดินทางต่อไปอีก ประมาณ 7 กิโลเมตรร แล้วเลี้ยวซ้าย กลับรถไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 24 มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก อีกประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2201 และ 4001 ประมาณ 21 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามถนน 2341ต่อไปอีก ประมาณ 1.2 กิโลเมตร จะพบกับวัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) อยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ

ดิฉันเชื่อว่าทุกคนที่อ่านประวัติโดยย่อของหลวงปู่สรวง(วัดไพรพัฒนา)ข้างต้นแล้ว ต้องรู้สึกลุ้นไปกับเหตุการณ์ต่างๆไปพร้อมๆกันแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นยังรู้สึกถึงความน่าเคารพนับถือ น่าบูชาเลื่อมไสของท่านเป็นอย่างมาก หวังว่าบทความนี้จะนำพาให้ท่านผู้อ่านทุกคนได้ไปสักการะบูชาหลวงปู่สรวง(วัดไพรพัฒนา)กันสักครั้ง เพราะดิฉันที่ได้อ่านประวัติโดยเต็มของท่านแล้ว ดิฉันทั้งลุ้น ทั้งหวังอยากจะให้ท่านดำรงชีพอยู่ต่อ แต่ในเมื่อท่านได้ละโลกนี้ไปแล้ว ดิฉันคงไม่มีโอกาสไปสักการะท่านตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ ดิฉันจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังวัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) เพื่อสักการะบูชาท่านสักครั้งก็ยังดี เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต หวังว่าทุกคนคงจะตามรอยพวกเรากันมานะคะ

ทบทวนภาพรวม
วัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) แหล่งสักการะบูชาขึ้นชื่อของชาวศรีสะเกษ
%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%92%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%87 ...หากจะเอ่ยถึงวัดขึ้นชื่อของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ขอแนะนำวัดขึ้นชื่อของจังหวัดศรีสะเกษค่ะ วัดมีนามว่า วัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) สายบุญ สายวัด สายแสวงหาบุญ สายขอพร หรือสายไหนๆ ก็ไม่ควรพลาดวัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) เพราะวัดนี้มีดีกว่าที่คุณคิด จะมีดีอย่างไรบ้างนั้นตามเรามาเลยค่ะ... วัดไพรพัฒนา(หลวงปู่สรวง) วัดสีส้มอิฐ ตั้งอยู่ที่  111 หมู่ 10 ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ ศรีสะเกษ เดิมเป็นที่พำนักของหลวงปู่สรวง นักบุญแห่งดินแดนอีสานใต้ พระผู้บำเพ็ญเพียรตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา อันมีเมตตาบารมีช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจนเป็นที่รักและศรัทธาของผู้คนละแวกนั้น รวมไปถึงลูกศิษย์ลูกหาทั่วไป จนท่านได้ถูกขนานนามว่า "เทวดา เดินดิน" หลังจากที่หลวงปู่ละสังขารไปในปีพุทธศักราช 2542 สรีระสังขารของหลวงปู่ไม่เปื่อยไม่เนา ลูกศิษย์ลูกหาจึงได้นำไปบรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหา รวมไปถึงนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพร และลอดใต้โลงแก้วเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต...