เที่ยวหลวงพระบาง สปป.ลาว เมืองมรดกโลก รีวิวหลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน แนะนำ ที่เที่ยวหลวงพระบาง การเดินทางไปหลวงพระบาง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในหลวงพระบาง
สวัสดีครับ เรามาเจอกันอีกตามเคย ^__^ สปป.ลาว มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายอยู่ทั่ว หลายเมือง เมืองที่เราคงคุ้นหูกันดี คงหนีไม่พ้นหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย และน่าสนใจมากมาย
ผมจะนำมารีวิวให้ดูกันว่า หลวงพระบาง ไปยังไง ? เดินทางยังไง ? พักที่ไหน ? เที่ยวที่ไหน ? ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะแนะนำวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว ^__^ (TripTH)
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line ID : : @TripTH
Inbox : m.me/TripTH.con/
ก่อนเดินทาง
พักที่ไหน ?
สำหรับในทริปนี้เราจองที่พักผ่าน แอพ HotelsCombined เป็นแอพที่รวบรวม และเปรียบเทียบราคาโรงแรมมากกว่า 8 แสนแห่งทั่วโลก และกว่า 1600 แห่งในลาว
ทริปนี้เราพักกันที่ วิว แคมโขง เกสท์เฮาส์ (View Khemkhong Guesthouse) ตั้งอยู่บนถนนริมน้ำแม่น้ำโขงเลย อยู่กลางเมืองหลวงพระบาง ใกล้ตลาดมืด วัง วัดต่างๆ จัดว่าทำเลดีมากๆ ห้องพักคืนละ 20 USD (700 บาท) (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว) 2 คืน ก็ 1,400 บาท หรือใครชอบที่พักแบบไหนก็สามารถเลือกจากแอพ HotelsCombined ได้เลยมีหลากหลายแบบหลายราคา
วาร์ปไปดาวน์โหลดแอพ HotelsCombined
Android : http://bit.ly/2tsHe7X
IOS : http://bit.ly/2vQna04
วิว แคมโขง เกสท์เฮาส์ : http://bit.ly/2enBoix
ไปยังไง ?
วิธีการเดินทางไปหลวงพระบาง วิธีที่สะดวกที่สุด คงหนีไม่พ้นการนั่งเครื่อง ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมง มีเที่ยวบิน บินตรงจาก กทม. บินตรงไปลงที่ หลวงพระบาง สปป.ลาว ทุกวันวันละหลายเที่ยว
ใครอยากรู้ว่ามีของสายการบินไหนบ้างกดตรงนี้ได้เลย > http://bit.ly/2wl3Auw
**ไม่แนะนำให้นั่งรถไปเพราะใช้เวลาข้ามวันข้ามคืนเลย ต่อรถหลายต่อ ยุ่งยากมาก
การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวหลวงพระบาง
– พาสสปอร์ต (เหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน) ลงทะเบียนทำพาสปอร์ต > https://www.passport.in.th/eService/
– ลาวใช้เงินกีบ เรตที่ 2.4 (1000 บาท แลกได้ 240,000 กีบ)
– แลกเงิน ควรแลกในธนาคารจะได้เรตดีสุด (แลกธนาคารลาว ควรเอาพาสปอร์ตไปด้วย)
– ลาวใช้เงินไทยซื้อของได้ (ในเมือง)
– จ่ายเงินด้วยเงินกีบ จะดีที่สุด และคุ้มกว่าจ่ายด้วยเงินไทย
– ภาษา ที่ลาวก็ภาษาเดียวกับอีสานบ้านเฮา สื่อสารกันเข้าใจ ไม่ยุ่งยาก
– เช่ารถมอเตอร์ไซค์ในลาว ต้องยึดพาสปอร์ตไว้ และไม่ต้องใช้ใบขับขี่ก็เช่าได้
– การขับรถในลาว จะขับเลนส์ขวา ตรงข้ามกับบ้านเรา
– ห้ามถ่ายภาพสถานที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความมั่นคง เช่นกองทัพ ห้ามเลยนะครับ
– ไม่ควรเปรียบเทียบ อย่างเช่น ที่ลาวอยู่นุ้น ที่ไทยอย่างนี้ ไม่ควรครับ เคารพกันและกัน
– กล้องกันน้ำ ไม่ควรลืม เพราะหลวงพระบางต้องเจองน้ำตก เปียกแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่มีกล้องกันน้ำ วาร์ปไปรีวิวกล้องกันน้ำ > http://bit.ly/2nTA0aF กล้องกันน้ำอื่นๆ > http://bit.ly/2w3t8hh
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทาง ขาดอะไรเราไปหาเอาข้างหน้า ^__^
ผมอาจจะเล่าละเอียดหน่อย ^__^ เพื่อเป็นไกด์ไลน์สำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยวหลวงพระบาง
อ่านรีวิวเที่ยววังเวียง > http://bit.ly/2wzkyI0
อ่านรีวิวเที่ยวลาวใต้ > http://bit.ly/2tvn9SL
เดินทาง
Day 1
กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)
14.30 น.
จาก กทม.มีเที่ยวบิน บินตรงไปลงที่ หลวงพระบาง สปป.ลาว ทุกวันวันละหลายเที่ยว
ใครอยากรู้ว่ามีของสายการบินไหนบ้างกดตรงนี้ได้เลย > http://bit.ly/2wl3Auw
นั่งเครื่องจากดอนเมือง ไฟล์ท 14.30 น. หรือที่สุวรรณภูมิก็มี ขึ้นกับว่าของบริษัทไหน ใช้เวลา ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึง หลวงพระบาง
หลวงพระบาง สปป.ลาว
16.00 น
มาถึงสนามบินหลวงพระบาง ผ่าน ตม. ถ้าใครยังไม่แลกเงิน ผมแนะนำว่าให้แลกเงินก่อนเลย
**แลกเงิน ที่สนามบิน มีจุดแลกเงินอยู่ 2-3 จุด เพราะถ้าใช้เงินไทยซื้อ จะแพงกว่าใช้เงินกีบ เรตการแลกเงินอยู่ที่ 2.4 หรือ 1,000 บาท แลกได้ 240,000 กีบ เหมือนรวยมาก ^__^ เมื่อได้เงินกีบมาแล้ว ก็ไปซื้อซิม
**ซิมการ์ด ก็สามารถซื้อได้จากสนามบินเลย แนะนำของ UNITEL เน็ตใช้ดีครับ 3G ไวดี ถ้ามาไม่นานแนะนำให้ใช้โปรสั้นพอ ไม่เน้นโทร เอาแบบถูกสุดก็พอ หรือจะรอเข้าเมือง ไปซื้อในเมืองหลวงพระบางก็ได้ แล้วแต่สะดวก
กดเช็คเงินและเน็ต UNITEL *122#
สมัครโปรเน็ต UNITEL
(24 ชม.) 1 GB 5,000 kip *209*21#
(5 วัน) 2 GB 10,000 kip *209*22# (แนะนำ)
(7 วัน) 1.5 GB 10,000 kip *209*23# (แนะนำ)
(30 วัน) 5.12 GB 50,000 kip *209*24#
(30 วัน) 12 GB 120,000 kip *209*25#
(30 วัน) 12 GB (ใช้ได้ไม่จำกัด) kip *209*26#
(4 วัน) 4 GB 5 USD *209*33#
**นั่งรถเข้าเมือง จากสนามบินหลวงพระบาง จะมีบริการ Taxi เข้าเมือง อยู่ตรงประตูทางออกสนามบินเลย
นั่งรถจากสนามบินเข้าเมือง 50,000 กีบ / 3 คน (200 บาท)
เป็นรถ Van อย่างดีเลย ส่งถึงที่พักเลย ^__^
จากสนามบิน เข้าเมือง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึงที่พักของเรา
วิว แคมโขง เกสท์เฮาส์ (View Khemkhong Guesthouse)
16.30 น.
วิว แคมโขง เกสท์เฮาส์ (View Khemkhong Guesthouse) ตั้งอยู่บนถนนริมน้ำแม่น้ำโขงเลย ริมโขงก็มีร้านอาหาร บรรยากาศดีๆริมน้ำ อยู่หน้าที่พักเลย อยู่กลางเมืองหลวงพระบาง ใกล้ตลาดมืด วัง วัดต่างๆ จัดว่าทำเลดีมากๆ
เราจองที่พักผ่าน แอพ HotelsCombined เป็นแอพที่รวบรวม และเปรียบเทียบราคาโรงแรมมากกว่า 8 แสนแห่งทั่วโลก และกว่า 1,600 แห่งในลาว ห้องพักคืนละ 20 USD (700 บาท) (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว) 2 คืน ก็ 1,400 บาท สามารถมาจ่ายเงินตอนมาเลยก็ได้ เราก็เลือกมาจ่ายเงินวันเข้าพัก ดีงามมาก ^__^ หรือใครชอบที่พักแบบไหนในหลวงพระบาง ก็สามารถเลือกจากแอพ HotelsCombined ได้เลยมีหลากหลายแบบหลายราคา
วาร์ปไปดาวน์โหลดแอพ HotelsCombined
Android : http://bit.ly/2tsHe7X
IOS : http://bit.ly/2vQna04
วิว แคมโขง เกสท์เฮาส์ : http://bit.ly/2enBoix
เช็คอินเข้าที่พัก ภายในห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลย ทีวี แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น WIFI
เช็คอินเก็บของเสร็จ เดี๋ยวเย็นนี้เราจะขึ้นไปจุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ตกบนวัดพูสีกัน ซึ่งอยู่ด้านหลังที่พักเรานี่เอง บริเวณเดียวกับตลาดมืด สามารถเดินไปได้
วัดพูสี (พระธาตุพูสี)
17.30 น.
ค่าเข้า
– 20,000 กีบ (80 บาท)
พูสี หรือยอดเขาพูสี เป็นยอดเขาที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง สูงจากพื้นดินประมาณ 150 เมตร ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง คำว่า “พูสี” หมายถึง ภูเขาของพระฤาษี ครับ เดิมเขาลูกนี้ชื่อว่า “ภูสรวง” ต่อมาก็มีฤาษีมาอาศัยอยู่บนเขาลูกนี้ ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ภูฤาษี” หรือ ภูษี มาจนถึงปัจจุบัน ทางขึ้นจะอยู่บริเวณเดียวกับตลาดมืด ตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง จะมีบันไดขึ้นไป ประมาณ 328 ขั้น อาจจะหอบเบาๆ เหนื่อยหน่อย ใช้เวลาเดินไม่นานก็มาถึงยอดพูสี
ด้านบนจะมี พระธาตุพูสี หรือพระธาตุจอมสี เป็นพระธาตุองค์เล็กๆแต่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ตั้งสูงเด่นอยู่กลางเมืองหลวงพระบาง
เราสามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบาง แม่น้ำโขง และแม่น้ำคานได้รอบทิศทาง มีมุมมหาชนสำหรับถ่ายรูป เซลฟี่เพียบ เห็นวิวเมืองหลวงพระบางได้สวยงามมากๆ
มีนักท่องเที่ยวทั้งฝรั่ง เกาหลี เพียบ ที่มารอชมพระอาทิตย์ตก พอถึงตอนพระอาทิตย์ใกล้ตก ขอบอกว่าสวยมากๆ ทุกคนจะหยิมมือถือ หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกัน มาเที่ยวหลวงพระบาง ไม่ควรพลาดที่นี่เลย
**ข้อแนะนำ ควรมาจองที่ไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวขึ้นมาช้า เต็มหมด
พอชมพระอาทิตย์ตกเสร็จ ก็มือพอดี ด้านล่างมีตลาดมืดให้ได้เดินเที่ยวกัน ^__^
ตลาดมืด หลวงพระบาง (Night Market)
18.30 น.
ตลาดมืดจะเริ่มเปิดตั้งแต่ 18.00 – 22.00 (เปิดทุกวัน)
ตลาดมืด หลวงพระบาง หรือ Night Market ตั้งอยู่บนถนน Sisavangvong ทางเข้าพระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง หรือทางขึ้นพูสี เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าเยอะแยะมากมาย ให้ได้เลือกซื้อกัน
ในตลาดจะมีสินค้าหลากหลายแบบให้ได้เลือกช็อปกัน ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าแฮนด์เมด สินค้าพื้นบ้าน เยอะแยะมากมาย เสื้อผ้า ผ้าไหมทอมือ เหมาะสำหรับเป็นของฝาก มีเยอะมาก ตลอดถนน
เดินมาจนสุดถนน ก่อนถึงสี่แยก สังเกตุตรงที่มีคนเยอะ จะมีซอยเล็กๆ ก็จะเจอกับ
Night Market Food
Night Market Food เป็นซอยเล็กๆ ที่มีของกินเพียบ อาหารหลากหลายรูปแบบ สำหรับคนชอบกิน ไม่ควรพลาดเลย
ราคาอาหารก็ประมาณนี้
ปลานิลน้ำโขง ตัวล่ะ 30,000 กีบ (120 บาท)
ไก่ย่าง ไม้ละ 15,000 กีบ (60 บาท)
น้ำเปล่า ขวดละ 3,000 กีบ (12 บาท)
น้ำโค้ก กระป๋องละ 5,000 กีบ (20 บาท)
และมีไฮไลต์ที่น่าสนใจคือ บุฟเฟ่ต์อาหาร ราคา 15,000 กีบ (60 บาท) เป็นอาหารหลากหลายแบบ คนเยอะมากกก มีชามให้ 1 ใบ พร้อมกับตะเกียบ ให้เราเดินตักกันได้ตามใจ 1 ครั้ง จนเต็มชาม ใครที่ชอบแบบจัดหนักต้องมาลอ
ผมไปลองมา เรื่องรสชาติ อันนี้ผมว่าไม่โอเคเลย แต่ได้เยอะจริงๆ แปลกใหม่ดี มาลองกันได้ ^__^
กิน ช็อปเสร็จแล้วก็กลับไปที่พัก ผ่านไปกับวันแรกในหลวงพระบาง พรุ่งนี้ลุยต่อ ^__^
Day 2
ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง
05.30 น.
การตักบาตรข้าวเหนียว ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวหลวงพระบาง ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ทุกเช้าจะมีพระจากวัดต่างๆ เดินออกมาบิณฑบาตตามถนน ถนนเส้นเดียวกับตลาดมืด หลวงพระบาง ประเพณีนี้ได้กลายเป็นจุดดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
สำหรับของที่จะใส่บาตร จะมีขาย ราคาชุดละ 20,000 กีบ (80 บาท)
พระจะออกมาบิณฑบาต เวลา 05.30 – 06.30
เราจะเห็นชาวหลวงพระบาง และนักท่องเที่ยว มารอใส่บาตรยามเช้า โดยพระ ภิกษุ และสามเณร จากวัดต่างๆ จะทยอยออกมาบิณฑบาตเรื่อยๆ แถวยาวเหยียด เดินเรียงเป็นแถวตามอาวุโส เป็นภาพที่สวยงามมากๆ
ถ้ามาหลวงพระบาง แล้วไม่ได้มาตักบาตร ข้าวเหนียว เดี๋ยวเขาว่ามาไม่ถึงหลวงพระบางกันน๊าา ^__^ หลังจากตักบาตรเสร็จ เราจะไปเดิมชมเมืองเก่าหลวงพระบาง และเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เพื่อเที่ยวกัน
เมืองหลวงพระบาง
เมืองหลวงพระบาง เป็นเมืองเอกของแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว อยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง และแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกันบริเวณนั้นเรียกว่า ปากคาน เป็นเมืองที่องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลกด้วย หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้วยเหตุผล คือ มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย
ในย่านเมืองเก่า จะมีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์ เราจะเห็นบ้านเก่าๆ ที่สวยงาม อยู่ทั่วเมือง ถูกอนุรักษ์ไว้ในสภาพดีมาก มีมนต์เสน่ห์น่ามาเยือนมากๆ
บริเวณนี้ก็มีจุดขายทัวร์ ร้านเช่ารถ อยู่เพียบ เลือกหากันได้เลย
สำหรับราคาเช่ามอเตอร์ไซค์ในเมืองหลวงพระบาง
– รถเกียร์ออโต้ 120,000 กีบ (481 บาท) / 24 ชั่วโมง
– รถเกียร์ปกติ วันละ 100,000 กีบ (400 บาท) / 24 ชั่วโมง
**เช่ามอเตอร์ไซค์ควรเตรียมพาสสปอร์ตมาด้วย
**สำหรับคนที่ไม่สะดวกขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว ก็สามารถซื้อทัวร์ไปเที่ยวตามที่ต่างๆได้ มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน หรือเหมารถเที่ยวก็ได้เช่นกัน
เมื่อได้รถแล้วก็พร้อมลุยกันเลย ออกเช้าๆ จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะ สถานที่แรกของเราคือ ถ้ำติ่ง
ถ้ำติ่ง
ถ้ำติ่ง อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางประมาณ 30 กิโลเมตร
การเดินทางไปถ้ำติ่ง มี 2 วิธี
– ขี่รถไปเอง ไปตามทางหลวงหมายเลข 13 เหนือ ผ่านหมู่บ้านซ่างไห จนถึงหมู่บ้านปากอู ค่าจอดรถถ้ำติ่ง 2,000 กีบ (8 บาท) แล้วไปนั่งเรือข้ามไปยังถ้ำติ่ง ค่าเรือคนละ 13,000 กีบ (52 บาท)
– นั่งเรือไป สามารถนั่งเรือที่ท่าเรือ วัดเชียงทอง ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำโขง หากนั่งเรือจากในตัวเมืองจะเป็นการนั่งทวนน้ำ ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง ขากลับจะล่องตามน้ำใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ ราคาประมาณ 60,000 กีบ (240 บาท)
สำหรับเราอยากขี่รถไปเอง เพราะจะได้คล่องตัวกว่า และประหยัดกว่า
จากหลวงพระบาง ไปตามทางหลวงหมายเลข 13 เหนือ ผ่านหมู่บ้านซ่างไห แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนลูกรัง ขอบอกว่าทางโหดมากๆ เด้งกันมันน์เลย ใช้เวลา จนถึงหมู่บ้านปากอู เป็นหมู่บ้านที่อยู่ตรงข้ามกับถ้ำติ่ง
**ข้อแนะนำ ถ้าไม่สตรองจริง ไม่แนะนำให้ขี่รถมาเอง เพราะทางไม่ดีเลย
เมื่อมาถึงทางเข้าบ้านปากอู ก็จะมีชาวบ้านมาโบกรถ ตรงทางเข้าหมู่บ้านเลย เพื่อซื้อตั๋วเรือข้ามฟาก ทุกคนต้องซื้อตั๋วจากตรงนี้ และมีจุดจอดรถ ฝากรถด้วย
ค่าจอดรถบ้านปากอู 2,000 กีบ (8 บาท)
ค่าเรือไปถ้ำติ่ง 13,000 กีบ / คน (52 บาท)
เมื่อได้ตั๋วเราแล้ว ก็เดินเข้าไปในหมู่บ้าน ตามทางไปประมาณ 100 เมตร ก็จะมาถึงแม่น้ำโขง จุดที่เราจะต้องขึ้นเรือข้ามฟากไปถ้ำติ่ง
ตรงท่าเรือก็จะมีร้านอาหาร เห็นวิวแม่น้ำโขง วิวภูเขารอบๆถ้ำติ่งได้สวยมาก
เป็นเรือขนาดเล็ก ไม่มีหลังคา ของชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันให้บริการไปถ้ำติ่ง โดยเรือจะไปส่งเราที่ถ้ำติ่ง และจะรอรับกลับด้วย พร้อมแล้วก็ลงเรือกัน
ลงเรือข้ามแม่น้ำโขง เราจะเห็นภูเขาขนาดใหญ่เบื้องหน้า เป็นหน้าผาสูงนั่นคือถ้ำติ่ง
หลังจากเรือมาส่งถึงทางเข้าเราก็ต้องเสียค่าธรรมเนียม เพื่อเข้าไปในถ้ำติ่ง
ค่าเข้าถ้ำติ่ง
– 20,000 กีบ / คน (80 บาท)
ถ้ำติ่ง ประกอบไปด้วย 2 ถ้ำ แยกขวาไปถ้ำลุ่ม (ล่าง) แยกซ้ายไปถ้ำเทิง (บน) โดยเราจะไปถ้ำลุ่ม (ล่าง) กันก่อน
ถ้ำลุ่ม (ล่าง) จะอยู่ใกล้จุดที่เราลงเรือมากที่สุด เมื่อเข้าไปภายใน ก็จะเจอถ้ำที่มีลักษณะเป็นโพรงถ้ำตื้นๆ เป็นถ้ำเล็กๆ ริมน้ำโขง มีหินงอกหินย้อยเล็กน้อย ภายในถ้ำที่มีพระพุทธรูปจำนวนมากหลายขนาด ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ความสำคัญของถ้ำติ่งในสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง เราสามารถมากราบไหว้ขอพรกันได้ และเสี่ยงเซียมซีกันได้
ถ้ำเทิง (บน) เราต้องเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ตลอดทางจะมีเด็กชาวลาวเอาของมาขาย ขนม อ้อย ปลาย่าง น้ำ และอ้อนให้เราช่วยซื้อ ^__^ กว่าจะขึ้นมาถึงเล่นเอาเหงื่อออกเหมือนกัน
มื้อมาถึงถ้ำเทิง (บน) ที่ปากถ้ำมีไฟฉายให้เช่าสำหรับเข้าไปส่องดูภายในถ้ำ แต่เราไม่อยากเช่าให้เสียเงิน เราเลยเอามือถือเปิดแฟลชเข้าไป ^__^
เข้าไปภายในลักษณะเป็นปากถ้ำไม่ลึกมาก ด้านใน มีพระพุทธรูปอยู่ภายในถ้ำแต่ไม่เยอะเท่าถ้ำติ่งล่าง ไม่ค่อยมีอะไรมากมาย เป็นถ้ำไม่ลึกมาก มืดด้วย
ชมเสร็จแล้วก็กลับลงไปด้านล่าง เพื่อขึ้นเรือกลับ
สำหรับผมคิดว่าถ้ำติ่งไม่ค่อยมีอะไร จุดเด่นคือวิวรอบๆ ภูเขาและแม่น้ำโขง ตอนนั่งเรือไป ที่มีวิวสวยมากๆ
เรือก็จะมาส่งที่บ้านปากอู ก็กลับไปเอารถ เดินทางกลับหลวงพระบาง
กลับไปที่พัก เปิดแอร์นั่งพักให้หายเหนื่อยสักแปบ
พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง)
พระราชวังหลวงพระบาง และพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ตั้งอยู่ตรงข้ามทางขึ้นพระธาตุพูสี
เปิดให้เข้าชม 2 ช่วง
– ตอนเช้า 08.00 น. – 11.30 น.
– ตอนบ่าย 13.30 น. – 16.00 น.
ปิดขายบัตรเข้าชมสำหรับภาคเช้าเวลา 11.00 น. – 13.30 น.
ค่าเข้าชม 30.000 กีบ (120 บาท)
ส่วนเราแค่เข้าไปชมรอบๆ ไม่ได้เข้าไปภายในพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง เพราะกำลังจะปิดรอบเช้า (ค่าตั๋วแพงด้วย เลยไม่อยากเข้า ^__^)
พระราชวังหลวงพระบางเป็นอาคารแบบฝรั่งแต่หลังคาเป็นแบบทรงลาว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง หันหน้าเข้าสู่พระธาตุพูสี ตัวพระราชวังเป็นอาคารชั้นเดียว ตั้งอยู่บนพื้นยกสูง มีความงดงามลงตัวของศิลปะยุคอาณานิคม ผสมกับศิลปะแบบล้านช้าง รัฐบาลลาวได้เปลี่ยนพระราชวังหลวงมาเป็น “หอพิพิธภัณฑ์”
เดี๋ยวเราจะไปเที่ยวน้ำตกตาดกวางสีกันต่อ
น้ำตกตาดกวางสี
น้ำตกตาดกวางสี อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางตลอดทาง จากหลวงพระบาง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็มาถึงทางเข้าน้ำตก
เมื่อถึงลานจอดรถ เราต้องเสีย ค่าจอดรถมอเตอร์ไซค์ 2,000 กีบ (8 บาท)
ค่าเข้าตาดกวางสี
– 20,000 กีบ / คน (80 บาท)
เมื่อเข้าไปด้านใน เดินไปตามทาง เราก็จะเจอกับ ศูนย์อนุรักษ์หมี ที่มีหมีให้ได้ชมความน่ารักกัน ซึ่งเป็นหมีที่ถูกช่วยเหลือจาก จนท. บางตัวแขนขาด จนท. ก็ช่วยเหลือไว้ ให้มาอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์นี้ มีกันหลายตัวเลย ^__^
ต้องเดินขึ้นไป เรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะเจอน้ำตกชั้นต่างๆตามรายทาง สามารถลงเล่นได้ แต่เอาไว้เวลาเดินกลับ เดี๋ยวเราจะไปชมน้ำตกชั้นที่สวยที่สุดกันก่อน
จากจุดขายตั๋ว จนมาถึงน้ำตกชั้นบนสุด ระยะทางประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตกชั้นใหญ่ และสวยที่สุด
น้ำตกตาดกวางสี หรือกวางซี เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ สูงหลายสิบเมตร มีสายน้ำไหลอาบมาตามหน้าผาผ่านโขดหินน้อยใหญ่ รูปทรงแปลกตาลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เป็นน้ำตกที่สวยมากๆ มีน้ำตลอดปี แต่ในฤดูร้อนน้ำค่อนข้างน้อย แต่จะใสเป็นฟ้าสวยเลย
ด้านล่างมีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตกและที่นั่งให้ชมวิวทิวทัศน์ รวมทั้งมีห้องสำหรับเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวสำหรับคนที่ต้องการลงเล่นน้ำตกอีกด้วย แต่ช่วงนี้น้ำเยอะ ตรงนี้เลยไม่เหมาะสำหรับเล่นน้ำ เดี๋ยวเราลงไปเล่นน้ำด้านล่างกัน ^__^
น้ำตกระหว่างทาง มีจุดที่เหมาะสำหรับลงเล่นอยู่หลายจุด เราเองมาถึงน้ำตกตาดกวางสี จะพลาดได้ไง ^__^ ขอบอกว่าน้ำเย็นมาก
กระโดดน้ำเล่นกับฝรั่งกันมันส์เลย
โดดให้หนำใจ ก็เดินทางกลับ เดี๋ยวยังจะไปอีกหนึ่งน้ำตกที่จัดว่าสวยงาม และไม่ควรพลาดเลย
น้ํ้ำตกตาดแส้
น้ํ้ำตกตาดแส้ อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปทางทิศใต้ ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร
ไปตามเส้นทางสายหลวงพระบาง – เวียงจันทน์ (ถนนสาย 13 เหนือ) เมื่อเจอวงเวียนสังเกตุปั้มปตท. เลยปั๊มปตท. ไปนิดเดียว ไม่ถึง 30 เมตร ก็จะเห็นป้ายทางเข้า น้ําตกตาดแส้ หรือบ้านแอน
เมื่อมาถึงบ้านแอน ก็จะถึงจัดที่ต้องฝากรถ แล้วต้องเดินเข้าไป (แต่ถ้าหากแถวท่าเรือมีที่จอด เขาก็จะให้ไปจอดที่ท่าเรือได้เลย)
ค่าจอดรถ 5,000 กีบ (20 บาท)
มาถึงท่าเรือ ก็ต้องมาซื้อตั๋วเรือ เพื่อข้ามแม่น้ำคานไปน้ำตกตาดแส้ จ่ายครั้งเดียว ขากลับจะมีเรือคอยรับคนกลับตลอด
ค่าเรือไปน้ําตกตาดแส้
– 10,000 กีบ / คน (40 บาท)
มีเรือออกตลอด เป็นเรือของชาวบ้าน ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 10 นาที ก็มาถึงทางเข้าน้ำตกตาดแส้
ทางเข้าน้ำตกจะมีสถานที่สำหรับจัดแสดงโชว์ช้างแสนรู้ จะทำการแสดง 2 รอบ / วัน เวลา 11.00 น. และ 15.00 น. (เวลาสามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้อีกครั้ง)
ค่าเข้าน้ำตก
– 15,000 กีบ / คน (60 บาท)
น้ำตกตาดแส้เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลาง ชั้นของน้ำตกอาจไม่สูงชันมากนักเมื่อเทียบกับน้ำตกตาดกวางซี แต่ความสวยงามของน้ำตกตาดแส้ อยู่ตรงสายน้ำที่ไหลอาบมาตามลานหินกว้างลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ คล้ายกับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นของบ้านเรา
น้ำตกจะไหลลดหลั่นลงสู่แอ่งด้านล่าง เหมือนเป็นสระว่ายน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำมากเป็นพิเศษ น่าเล่นแบบนี้ รออะไรล่ะ กระโดดอีกตามเคย ^__^ น้ำตกที่นี่เหมาะสำหรับเล่นน้ำมากๆ น้ำไม่ลึก มีแอ่งกว้าง เหมาะสำหรับเล่นน้ำมากๆ
บริเวณน้ำตก ก็จะมีร้านกาแฟชิวๆ ชื่อ Mai Coffee ที่สร้างอยู่เหนือน้ำตก บรรยากาศชิวๆ เห็นน้ำตกได้แบบฟินๆ จัดว่าเหมาะมากๆ
รอบๆก็จะมีซุ้มที่นั่งริมน้ำ บรรยากาศชิวๆให้ได้นั่งเล่นกันด้วย
ตอนเย็นๆเราจะเห็นช้างลงมาอาบน้ำที่น้ำตก เป็นช้างที่ขี้เล่นมากๆ ^__^ สามารถเข้าไปถ่ายรูปกันได้ และหากใครอยากจะลองขี่ช้าง ก็มีบริการเช่นกัน
เป็นน้ำตกที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับเล่นน้ำ พักผ่อนมากๆ เล่นน้ำกันพักใหญ่ ก็เดินทางกลับหลวงพระบาง
ชมพระอาทิตย์ตก ริมโขง
ในตอนเย็น ริมแม่น้ำโขงก็สามารถเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม ไม่แพ้ที่อื่นๆ ไม่ต้องไปไหนไกล หน้าที่พักเราเลย มีร้านอาหาร ริมน้ำ สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกได้สวยงามเช่นกัน
วันนี้ จัดว่าเหนื่อยมาก แต่ก็สนุกสุดเหวี่ยงกับการเล่นน้ำ ^__^ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปต่อ
Day 3
วันที่ 3 ในหลวงพระบาง วันนี้เราจะตระเวนเที่ยวตามวัดต่างๆรอบหลวงพระบางกัน ^__^
วัดใหม่สุวรรณภูมาราม
ค่าเข้าชม
– 10,000 กีบ / คน (40 บาท)
วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือวัดใหม่ ตั้งอยู่บนถนนศรีสว่างวงศ์ ไม่ไกลจากพระราชวังหลวงพระบาง ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว
ด้านหน้าทางเข้าพระอุโบสถตกแต่งด้วยภาพลงรักปิดทองดูเหลืองอร่ามเต็มผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก สวยงามมากๆ
ภายในมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดค่อนข้างใหญ่ประดิษฐานอยู่ สามารถเข้าไปกราบไหว้กันได้
เปิดเวลา 07.00 – 18.00
วัดแสนสุขาราม
เข้าชมฟรี
วัดแสนสุขาราม ตั้งอยู่บนถนนศรีสว่างวงศ์ เส้นเดียวกับวัดวัดใหม่สุวรรณภูมาราม สร้างขึ้นในคริสศตวรรษที่ 15 ตามประวัติศาสตร์เล่ากันว่าชื่อของวัดมาจากเงินจำนวน 100,000 กีบ (401 บาท)ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนในการก่อสร้าง เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังนครหลวงพระบางแยกออกจากนครเวียงจันทน์เป็นอีกอาณาจักรหนึ่ง
เป็นอีกวัดเก่าแก่ของหลวงพระบางที่ควรมาเยือน
วัดเชียงทอง
ค่าเข้าชม
– 20,000 กีบ / คน (80 บาท)
วัดเชียงทอง วัดที่ทุกคนต้องมาเยือน เมื่อมาเที่ยว ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง หรือปากคาน
วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งเป็นวัดเป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญและมีความงดงามที่สุดแห่งนี้ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว
เปิดเวลา 06.00 – 17.30
เป็นวัดเก่าแก่ ที่สวยงาม และเป็นแลนด์มาร์คของเมืองหลวงพระบาง
แม่น้ำสองสี หลวงพระบาง
แม่น้ำสองสี หลวงพระบาง ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับท่าเรือวัดเชียงทอง หรือปากคาน ซึ่งเกิดจากแม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง แม่น้ำคานสีเขียวอ่อน มรกต ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขงสีเหลืองแดง จนเกิดเป็นแม่น้ำสองสี ที่เห็นได้ชัดเจน และสวยงามมากๆ
ก่อนไหลรวมกับแม่น้ำโขง จนกลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่
เป็นอีกไฮไลต์ที่น่าสนใจของหลวงพระบาง
เดี๋ยวเราจะกลับไปโรงแรม เช็คเอ้าท์ไว้ก่อน แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม เพราะเรากลับ เรากลับไฟล์ทประมาณ 16.00 เดี๋ยวประมาณบ่าย 2 กว่าๆ ค่อยไปสนามบิน เดี๋ยวเราจะไปเที่ยวกันต่อ
วัดจุมฆ้อง
เข้าชมฟรี
ตั้งอยู่ ข้างๆกับวัดเชียงม่วน สร้างในปี พ.ศ. 2386 ในรัชสมัยพระเจ้าสุขเกษม ปัจจุบันพระอุโบสถยังคงสภาพเดิมอยู่ มีศิลปะแบบหลวงพระบาง
เมื่อมาถึงทางเข้าพระอุโบสถจะสังเกตเห็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนวัดใดในหลวงพระบาง คือมีรูปสลักลักษณะคล้ายเทพเจ้าของจีน สูงประมาณ 50 ซม. ตั้งอยู่เหนือราวบันไดทางขึ้นพระอุโบสถ ทั้งสองข้าง ซึ่งพระเจ้าจักรพรรดิของจีนถวายแก่พระเจ้าจันทราชแห่งนครหลวงพระบาง
วัดเชียงม่วน
เข้าชมฟรี
ตั้งอยู่ ข้างๆกับวัดวัดจุมฆ้อง อยู่ด้านหลังวิว แคมโขง เกสท์เฮาส์
สร้างในปีพ.ศ. 2396 ในรัชสมัยพระเจ้าจันทราช โดยเฉพาะฝาผนังทั้งสองข้างและผนังด้านหน้า ปัจจุบันยังคงสภาพโครงสร้างดั้งเดิมเอาไว้ ผนังด้านนอกทางหน้าสิม (อุโบสถ) มีภาพวาดที่สวยงาม
วัดวิชุลนราช
เข้าชมฟรี
ตั้งอยู่ที่ถนนวิชุลนราช ข้างๆวัดอาฮาม ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง เป็นวัดที่ดูแปลกตาที่สุด ด้วยพระธาตุเจดีย์รูปร่างโค้งมนเหมือนแตงโม โดดเด่นมองเห็นแต่ไกล จนมีชื่อเรียกขานเล่นๆ ของชาวหลวงพระบางว่า “วัดพระธาตุหมากโม”
เปิดเวลา 07.00 – 17.00
ด้านข้างวัดวัดวิชุลนราชมีประตูเล็กๆสามารถเดินเพื่อเข้าไปชม วัดอาฮาม ได้
วัดอาฮาม
เข้าชมฟรี
ตั้งอยู่ที่ถนนวิชุลนราช ข้างๆกับวัดวิชุลนราช เป็นวัดเล็กๆ พระอุโบสถวัดอาฮามสร้างในปี พ.ศ. 2365 หลังคามีลักษณะซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น ตรงกลางสันหลังคามีช่อฟ้า รูปทรงแปลกตาจากวัดทั่วไปในหลวงพระบาง
เที่ยวเสร็จก็ไปรับกระเป๋าที่โรงแรม จากนั้นก็ไปคืนรถมอเตอร์ไซค์ที่เช่ามา พร้อมรับพาสปอร์ตคืน
การเดินทางจากเมืองหลวงพระบางไปสนามบิน แนะนำเหมารถสามล้อ มีอยู่ทั่วไปในหลวงพระบาง เป็นรถสามล้อคันใหญ่ นั่งได้หลายคนเลย ราคา 50,000 กีบ / คัน (ราคามาตรฐาน) (200 บาท)
สนามบินหลวงพระบาง
เมื่อมาถึงสนามบิน เช็คอิน รอขึ้นเครื่อง
ใช้เวลาบิน ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึง กทม.
จบเรียบร้อยครับสำหรับทริปเที่ยวหลวงพระบาง สปป.ลาว ที่นี่มีอะไรที่น่าสนใจเยอะแยะมากมาย เป็นทริปที่ประทับใจ มีความสุข สนุกกับการเดินทางมากๆ ได้เห็นอะไรใหม่ๆ มากมายในการเดินทางครั้งนี้ เที่ยวต่างประเทศไม่ยากอย่างที่คิดครับ เริ่มที่ลาวก่อนเลย ง่ายๆ ^__^
สำหรับใครที่ต้องการมาเที่ยวหลวงพระบาง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไปยังไง ตามรอยรีวิวเรามาได้เลยจ้า ข้อมูล การเดินทาง ที่พัก ที่เที่ยว ครบเลย อย่างที่ผมบอกไว้ตั้งแต่ต้น ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะแนะนำวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว แล้วเจอกันทริปต่อไป
Goodbye
สรุปค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของทริปนี้
– ค่าเครื่องกรุงเทพฯ – หลวงพระบาง ไป/กลับ 4,400 บาท
– ค่ารถจากสนามบินเข้าเมืองหลวงพระบาง 50,000 กีบ (200 บาท)
– ค่าซิมการ์ด 5 USD
– ค่าที่พัก วิว แคมโขง เกสท์เฮาส์ 20 USD (700 บาท) / คืน
– ค่าเข้าวัดพูสี (พระธาตุพูสี) 20,000 กีบ (80 บาท)
– ชุดตักบาตรข้าวเหนียว 20,000 กีบ (80 บาท)
– เช่ามอเตอร์ไซค์ รถเกียร์ออโต้ 120,000 กีบ / 24 ชั่วโมง (480 บาท)
– ค่าที่พักวิว แคมโขง เกสท์เฮาส์ 2 คืน ก็ 1400 บาท (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว)
– ค่าจอดรถบ้านปากอู 2,000 กีบ (8 บาท)
– ค่าเรือไปถ้ำติ่ง 13,000 กีบ / คน (52 บาท)
– ค่าเข้าถ้ำติ่ง 20,000 กีบ / คน (80 บาท)
– ค่าเข้าตาดกวางสี 20,000 กีบ / คน (80 บาท)
– ค่าเรือไปน้ําตกตาดแส้ 10,000 กีบ / คน (40 บาท)
– ค่าเข้าชมวัดใหม่สุวรรณภูมาราม 10,000 กีบ / คน (40 บาท)
– ค่าเข้าชมวัดเชียงทอง 20,000 กีบ / คน (80 บาท)
– ค่าเข้า น้ำตกตาดแก่งยุ้ย 5,000 kip / คน (20 บาท)
– ค่าเข้า สะพานแดง 2,000 kip / คน (8 บาท)
– ค่ารถเหมาสามล้อ 50,000 กีบ / คัน (200 บาท)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆขึ้นอยู่กับบุคคลเลยน๊าา (แต่ละคนใช้จ่ายไม่เหมือนกัน)
ปล. ค่าใช้จ่ายต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรโทรเช็คก่อน
วาร์ปไปดาวน์โหลดแอพ HotelsCombined
Android : http://bit.ly/2tsHe7X
IOS : http://bit.ly/2vQna04
วิว แคมโขง เกสท์เฮาส์ : http://bit.ly/2enBoix
อย่าติดตามรีวิวดีๆกับเรา ด้วยการกดติดตาม และกดเห็นโพสก่อน ได้ที่เพจ > Tripth ทริปไทยแลนด์ < รับรองว่าจะไม่พลาดทริปดีๆแน่นอนครับ ^^
อ่านรีวิวเที่ยววังเวียง > http://bit.ly/2wzkyI0
อ่านรีวิวเที่ยวลาวใต้ > http://bit.ly/2tvn9SL
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line ID : : @TripTH
Inbox : m.me/TripTH.con/
ภาพและข้อมูลโดย © TripTH
เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn @ TripTH