รีวิวเชียงดาว เที่ยวเชียงดาว การเดินทางไปเชียงดาว ดอยหลวงเชียงดาว บ้านสายหมอกโฮมสเตย์ เชียงดาว บ้านนาเลา โฮมสเตย์เชียงดาว ถ้ำเชียงดาว ที่เที่ยวเชียงดาว การเดินทางไปบ้านนาเลา การเดินทางไปบ้านสายหมอกโฮมสเตย์
สวัสดี วันนี้เรามีทริปเด็ดๆมาแนะนำเหมือนเคย เป็นทริปสั้นๆ เหมาะสำหรับพักผ่อน ใครที่กำลังต้องการหนีไปพักผ่อนไกลๆ ไปให้สุดขอบโลก ไปสูดอากาศ ชมภูเขา กับสายหมอก หมู่บ้านเล็กๆ กลางขุนเขา แต่ความสวยงามนั้นใหญ่มาก ทริปนี้เราจะไปที่
ดอยหลวงเชียงดาว
เชียงดาวอยู่ที่ไหน ? เดินทางยังไง ? พักที่ไหน ? รีวิวนี้จะพาไปหาคำตอบกัน
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : www.facebook.com/TripTH.con
Instagram : www.instagram.com/trip_th
Twitter : twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2
ก่อนเดินทาง
ดอยหลวงเชียงดาวอยู่ที่ไหน ? ดอยหลวงเชียงดาว อยู่ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว ที่นี่เป็นภูเขาหินแกรนิต ที่มีความสูง เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย สูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นรองจาก ดอยอินทนนท์ ดอยผ้าห่มปก ตามลำดับ เป็นภูเขาสูงเด่น เห็นแต่ไกล ที่นี่มีวิวที่ได้รับการขนานนามว่า สวยงามมากๆ
พักที่ไหน ? ก่อนเดินทางเราได้ไปเจอที่พัก โฮมสเตย์แห่งหนึ่ง ราคาไม่แพง วิวสวย ชื่อว่า บ้านสายหมอกโฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ที่มีวิวสวยอันดับต้นๆของที่นี่ ที่พักคิดเป็นหัว หัวละ 500 บาท พร้อมอาหาร 2 มื้อ เย็น และเช้า เลยจัดการโทรจองไว้ล่วงหน้า
ใครที่สนใจ บ้านสายหมอกโฮมสเตย์ เชียงดาว สามารถโทรจองได้ที่เบอร์นี้เลยจ้า
โทร : 090-760-8819
โทร : 093-181-9507
Facebook :www.facebook.com/BannsaimokHomestay/
เดินทางยังไง ? ทริปนี้เราจะเดินทางโดยรถไฟ รถไฟไปเชียงใหม่ มีออกจากหัวลำโพง วันละ 5 เที่ยว
คือรอบเวลา 08.30 / 13.45 (รถฟรี) / 18.10 / 19.35 / 22.00
สามารถเช็คตารางรถไฟได้ที่ www.railway.co.th/checktime/
โดยเราจะขึ้นรถไฟที่ สถานีหลักสี่ จะเป็นรอบเวลา 14.30 น. ใครสะดวกสถานีไหน ก็จัดไปได้เลยจ้า
รถโดยสารไปเชียงใหม่ มีรถจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ดูรายละเอียดได้ที่
www.transport.co.th
เครื่องบิน มีเที่ยวบินประจำระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน ดูรายละเอียดได้ที่
www.airasia.com
www.thaiairways.com
www.nokair.com
การเดินทางในเชียงใหม่ ไปเชียงดาว มี 3 วิธีคือ
1. รถประจำทาง ขึ้นรถประจำทางที่ขนส่งช้างเผือก นั่งรถเชียงใหม่-เชียงดาว หรือ เชียงใหม่-ท่าตอน ผ่านเหมือนกัน ค่ารถ 40 บาท ไปลงรถที่ โลตัสเชียงดาว จากเชียงดาวไปรอขึ้นสองแถว เชียงดาว- เมืองคอง 50 บาท สามารถถามคนแถวนั้นก็ได้นะ ว่าขึ้นรถอยู่ตรงไหน? (รถมีอยู่แค่ 1-2 เที่ยวต่อวัน รอบรถไม่แน่นอน)
2. เหมารถสองแถวไป ราคาขึ้นอยู่กับการตกลง แต่วิธีนี้จะแพงหน่อย เพราะระยะทางไกล แต่ถ้าไปหลายๆคน คุ้ม
3. เช่ามอเตอร์ไซค์ เราใช่วิธีนี้ เพราะสะดวก ไปไหนก็ได้ไป ตามใจเราเลย ^__^ ที่เชียงใหม่มีรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่าหลายเจ้า ราคาเริ่มที่ 250 บาท (ราคาแล้วแต่รุ่น) มีเจ้านี้เราเคยใช้บริการมาก่อนหลายรอบแล้ว อยากแนะนำ คือ S.K Servive ที่ชอบคือ เขามีบริการมารับ – ส่ง รถฟรี ในแถบตัวเมืองเชียงใหม่ เราโทรนัดให้ไปส่งที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ เวลาทำการ 08.00 – 20.00 น. นอกเวลา คิดค่าส่ง 100 ไม่ใช่ว่าให้มาส่งดึกๆนะ ^__^ ดึกมากเขาก็ไม่ส่งนะ ต้องโทรนัดเวลาล่วงหน้าจ้า เราจัดไปเลย scoopy i วันละ 250 มัดจำ 1000 บาท
ถ้าใครสนใจเช่ามอเอตร์ไซค์โทรตามเบอร์ข้างล่างนี้ได้เลยเจ้า
โทร : 0987532668
โทร : 0895580007
โทร : 0811659998
เอาละทุกอย่างพร้อมก็เริ่มออกเดินทางกันเลย
เริ่มเดินทาง
สถานีรถไฟหลักสี่ / กรุงเทพฯ
14.00 น.
จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ สามารถขึ้นได้หลายสถานี เช่น หัวลำโพง สามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง เราเองเลือกขึ้นที่หลักสี่ เพราะใกล้บ้าน รถไฟออกจากหัวลำโพง เวลา 13.45 น. มาถึง สถานีรถไฟหลักสี่ 14.30 น.
มาถึงเอาบัตรประชาชน ไปรับตั๋วรถไฟ แล้วออกเดินทางได้เลย ขบวนที่ 109 กรุงเทพฯ – ปลายทาง เชียงใหม่
ขึ้นรถหลับยาวๆ
สถานีรถไฟเชียงใหม่
04.30 น.
หลังจากนั่งรถไฟมาอย่างยาวนาน มาถึงเชียงใหม่ตอนเช้ามืด ที่สถานีรถไฟ มีห้องอาบน้ำ คนละ 15 บาท ใครเหนียวตัวกลัวไม่หล่อ ไม่สวย ก็แวะอาบน้ำที่สถานีรถไฟก่อนได้ เรานัดให้รถมอเตอร์ไซค์เช่า มาส่ง ตอน 6 โมงเช้า เพื่อเดินทางไปเชียงดาว
พอรถมอเอตร์ไซค์มาส่ง ก็ทำสัญญา พี่เขาก็จะเขียนรายละเอียด เราแค่เซ็นอย่างเดียว (พี่เขาจะแนะนำให้ถ่ายรูปรถไว้ทุกครั้ง ดูรอยต่างๆให้ดี แล้วถ่ายรูปไว้ กันไว้เฉยๆ จะได้ไม่เกิดปัญหา) น้ำมันตอนเอารถไปมีแค่ไหน กลับมาก็ต้องเติมไว้เหมือนเดิม ได้รถแล้วก็ออกเดินทางสู่เชียงดาว ออกจากเชียงใหม่ 6 โมงครึ่ง จากเชียงใหม่ไปเชียงดาว ระยะทาง 70 กิโลเมตร ขี่มอเตอร์ไซค์แบบไปเรื่อยๆ ก็ ไปถึงเชียงดาว ราวๆ 2 ชั่วโมง
เชียงดาว
08.30 น.
มาถึงเชียงดาว เราจะไม่เข้าตัวเมืองเชียงดาวนะ เราต้องไปทางถ้ำเชียงดาว เลี่ยงเมืองออกไป ผ่านถ้ำเชียงดาว (ขากลับเราจะแวะถ้ำเชียงดาว) ไปจนถึงด่านตรวจของเขตรักษาพันธุ์ป่า เชียงดาว เราต้องเซ็นชื่อเข้าออกที่นี่ และเสียค่าเข้าคนละ 20 บาท
จากนั้นต้องขี่รถเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์ป่า เชียงดาว เข้าไปด้านในอีกราว 17 กิโล ผ่านภูเขาสูง ทางลาดยางคอนกรีตตลาดสาย แต่โค้งเยอะมาก ต้องใช้ความระมัดระวัง ควรบีบแตรทุกโค้ง เพื่อให้สัญญาณกับรถคันอื่นๆด้วย ขึ้นเขามา เกือบ ชม. เราก็มาถึง
บ้านสายหมอก
09.00 น.
บ้านสายหมอก เป็นหนึ่งในโฮมสเตย์ วิวสวย ของเชียงดาว ตั้งอยู่ที่บ้านนาเลา อ.เชียงดาว ด้านหน้าเป็นภูเขาขนาดใหญ่ ของดอยหลวงเชียงดาว ยอดเขาสูงอันดับ 3 ของประเทศ มาถึงตะลึงกับวิวที่สวยงามของที่นี่มาก อากาศเย็นสบาย
เราเข้าไปติดต่อที่เค้าท์เตอร์ มีพี่ตาร์ เป็นคนดูแลอยู่ ลืมบอกไปว่าเรามาวันธรรมดา คนเลยไม่เยอะ มีว่างตั้งหลายหลังเลย เรามาถึงก่อนเวลาเข้าพัก แต่วันนี้ไม่ค่อยมีคน เลยเข้าพักได้เลย
พี่ต้าร์เล่าให้ฟังว่า ที่นี่วันเสาร์คนจะเยอะมาก แนะนำวันธรรมดา หรือถ้าจะมาวันเสาร์ก็ควรจองไว้ล่วงหน้า
ค่าที่พักคิดเป็นหัว
– บ้านโฮมสเตย์ หัวละ 500 บาท รวม อาหาร 2 มื้อ
– นอนเต้นท์ หัวละ 400 บาท รวม อาหาร 2 มื้อ
(เด็กอายุไม่เกิน 7-10 ขวบ คิด 50%)
(เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ เข้าพักฟรี)
– บ้านโฮมสเตย์ เป็นบ้านไม้ไผ่ มุงหลังคาด้วยหญ้า ด้านหน้ามีระเบียง สำหรับนั่งชมวิวภูเขา นั่งทานข้าว มีห้องน้ำในตัว เป็นกระท่อมที่มีที่นอนสำหรับ 2 คน ภายในสะอาด มีมุ้งให้ อากาศเย็นจนรู้สึกหนาวเลยทีเดียว ที่พักเราขอบอกว่าวิวสวยอลังกาฬมากกก ตรงระเบียง นั่งชมวิวภูเขา มีสายหมอกเคลื่อนตัวมาไม่ขาดสาย ลมเย็นๆ ฟินยิ่งนัก
– เต้นท์ ที่นี่ก็มีเต้นท์ สำหรับใครที่อยากนอนเต้นท์ เป็นเต้นอย่างดี กันฝน กันน้ำค้างได้ วิวสวย เป็นอีกทางเลือก นอนดูดาว ชมหมอก
ที่นี่ไม่มีสายไฟฟ้ามาถึง ไฟที่ใช้กันมาจาก พลังแสงอาทิตย์ หรือเครื่องปั่นไป ไฟฟ้าจะเปิดเป็นเวลา คือตอนเย็นหรือเริ่มมืดไปจนถึง 4 ทุ่ม ก็จะปิดไฟ แต่จะมีไฟฟ้าที่เค้าเตอร์ จะมีไฟฟ้าจะพลังงานแสงอาทิตย์ ใช้ได้ตลอดใครต้องการชาร์ทมือถือ ก็มาชาร์ที่เค้าเตอร์ได้ตลอด และตรงนี้มีสัญญาณมือถือด้วย ที่นี่ สัญญาณมือถือ ของทรูมูฟ จะดีที่สุด
จุดชมวิว บ้านสายหมอกโฮมสเตย์ เชียงดาว เป็นจุดที่ทุกคนต้องมา วิวสวย เป็นระเบียงใหญ่ให้เราได้ถ่ายรูปกัน เซลฟี่กัน
พี่ต้าร์แนะนำให้เราไปเดินเล่นในหมู่บ้าน ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน
หมู่บ้านนาเลา
09.30 น.
บ้านนาเลา เป็นชุมชนชาวเขาเผ่าลีซู หรือที่เราเรียกว่าลีซอ ชาวบ้านที่นี่น่ารักมาก รักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างดี ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพปลูกข้าวบนดอย ข้าวโพด และผักต่างๆ และอีกอาชีพคือการทำโฮมสเตย์ ด้วยวิวที่สวยๆงาม ของดอยหลวงเชียงดาว และมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี
บ้านนาเลา มีโฮมสเตย์อยู่หลายแห่ง ซึ่งทุกคนในหมู่บ้าน อยู่กันแบบพี่แบบน้อง ช่วยเหลือกัน ไม่มีการแข่งขันกัน โฮมสเตย์ที่ละบ้าน สามารถเข้าไปเดินเที่ยวชมถ่ายรูปได้ทุกที่ ซึ่งมีอยู่ 10 กว่า แห่ง ที่บ้านนาเลาแห่งนี้ ซึ่งทุกคนก็เป็นเครือญาติกัน
เราสามารถเดินเล่นรอบหมู่บ้าน ไปนั่งกินข้าว ร้านก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ชมววิว ของดอยหลวงเชียงดาว ชมนาบนดอยของชาวบ้านนาเลา
จุดชมวิวบ้านนาเลา
16.00 น.
จุดนี้อยู่ห่างจากบ้านนาเลาไปทางทิศตะวันตก 1 กิโล ซึ่งเราได้รับการแนะนำจากพี่ต้าร์ว่าที่นี่วิวสวย เลยลองมาดู จริงๆที่นี่เป็นไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน แต่ด้วยวิวที่อลังการ มองเป็นทิวเขาไกลสุดลูกหูลูกตา สลับซับซ้อนไปมา บวกทั้งไร่ข้าวโพด สีเขียวยิ่งทำให้เป็นภาพที่สวยงามมาก
ในตอนเย็นๆ ถ้าฟ้าเปิดเราสามารถมาดูพระอาทิตย์ตกได้
บ้านสายหมอก
17.00 น.
กลับมาที่บ้านสายหมอก ตอนเย็น ถึงเวลามื้อค่ำ อาหารจัดมาเป็นขันโตก เข้ากับบรรยากาศโฮมสเตย์มากๆ อาหารแต่ละอย่างน่ากินสุด มี ไข่เจียวหมูสับ ต้มจืด ผัดผัก ไม่อิ่มเติมได้ตลอด และที่ขาดไม่ได้คือน้ำพริกลีซู ที่ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ต้องมาลอง ใครติดใจน้ำพริกลีซู ก็สามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้
นั่งทานข้าวเย็น หน้าระเบียงโฮมสเตย์ ชมวิวบรรยากาศ ภูเขา สายหมอก ลมเย็นๆ บรรยากาศที่ไม่รู้ว่า จะมีที่ไหนฟินแบบนี้อีก เป็นวิวที่มีเอกลักษ์โดดเด่นมาก
ตกเย็นมา ก็เริ่มปั่นไฟ ให้แต่ละบ้านได้ใช้กัน ไฟจะเริ่มเปิดตอนฟ้ามืดไปจนถึง 4 ทุ่มของทุกวัน ใครที่กลัวหนาวแนะนำให้รีบอาบน้ำแต่หัววันเลย ^__^ ยิ่งดึกยิ่งหนาว นั่งจิบเบียร์เย็นๆ ริมระเบียง รอดูดาว บรรยากาศดีสุดๆ
บ้านสายหมอก ยามเช้า
07.00 น.
ยามเช้า ที่นี่จะมีหมอกลง สายมาก เมื่อคืนฝนตก เช้ามาเลยมีหมอกลงหนา พัดมาเรื่อยๆ จากทางทิศตะวันออก ลงหนา บรรยากาศเย็นสดชื่นมาก ลมพัดมาเบาๆ
ตอนนี้พี่เขาจะเสิร์ฟกาแฟกับโอวัลติน ใส่ขันโตกมาวางหน้าระเบียง จิบโอวัลติน กาแฟร้อนๆ ดูหมอกยามเช้า เป็นอะไรที่สดชื่นมาก
มื้อเช้าจะเป็นช้าวต้มร้อนๆ ใส่ขันโตกมา เข้ากับบรรยากาศโฮมสเตย์จริงๆ ไม่อิ่มเติมได้ตลอด
ช่วงนี้เริ่มมีฝนตกลงมาก หมอกลงหนา บรรยากาศน่านอนยิ่งนัก
เป็นที่พักที่บอกได้เลยว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากๆ คนละ 500 พร้อมอาหารอย่างดี 2 มื้อ พักผ่อนแบบฟินๆใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งภูเขา สายหมอก อากาศที่สดชื่น ได้ดูวิถีชีวิตของชาวลีซู และวิวที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ในราคานี้
ต้องลองมาดูกัน ว่าสวยแค่ไหน
เราเช็คเอ้าท์ออกจากบ้านสายหมอก ตอน เที่ยง ว่าจะลงไปที่ถ้ำเชียงดาวต่อ
ถ้ำเชียงดาว
13.00 น.
ถ้ำเชียงดาว อยู่ในพื้นที่บ้านถ้ำ ถนนเชียงใหม่-ฝาง เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นถ้ำที่มีหินงอก หินย้อนอยู่จำนวนมาก เมื่อก่อนที่นี่เป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระธุดงค์และฤาษี เป็นถ้ำที่ใหญ่และลึกมากแห่งหนึ่งในประเทศไทย
เราต้องเสียค่าเข้าก่อนเข้าไปในถ้ำ คนละ 20 บาท เมื่อเข้าไปด้านในจะมี 2 ทางให้เลือก คือแบบเสียเงิน และไม่เสียเงิน
– แบบเสียเงิน เราต้องจ่ายบำรุงไฟฟ้า เช่าตะเกียง อีก 100 บาท โดยจะมีไกด์นำทาง ให้เรา และเราต้องจ่ายค่านำทางไกด์ อันนี้อยู่ที่เราจะให้
– ส่วนแบบไม่เสียเงิน เป็นเส้นทางสั้นๆ เข้าไปไหว้พระแล้วกลับออกมา
เราเลือกเส้นทางที่เข้าไปในถ้ำลึก ยาวกว่า 750 อยากไปดูไปเห็นว่าข้างในเป็นยังไง เข้าไปด้านในจะไม่มีไฟแสงสว่าง นอกจาก แสงจากตะเกียงจากไกด์นำทาง ด้านในมีหินงอก หินย้อย รูปร่างแปลกตา มีชื่อไปตามความเชื่อ ในพระพุทธศาสนา
มีจุดที่ต้องลอดช่องเล็กๆ เข้าไป ไกด์ก็จะแนะนำ และเล่าความเป็นมาให้เราฟังตลอดทาง
ด้านในเป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวจำนวนมาก มีค้างคาวนอนอยู่บนผนังถ้ำเพียบเลย
ออกมาด้านนอก ก็จะมีสระน้ำที่น้ำใสมากๆ เป็นน้ำที่ไหลออกมาจากถ้ำใต้ภูเขาของดอยหลวงเชียงดาว เหมือนมีการกรองผ่านชั้นหินแล้วไหลออกมา เป็นน้ำสีฟ้า น้ำใสสะอาดมากๆ มีปลาเพียบเลย เห็นแล้วอยากลงไปเล่นมาก น้ำใสมากจริงๆ
ออกจากถ้ำเชียงดาว เราก็มุ่งหน้าสู่เมืองเชียงใหม่
สถานีรถไฟเชียงใหม่
17.00 น.
ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ เราก็โทรแจ้ง เจ้าของรถเช่าให้มารับรับที่สถานีรถไฟ คืนรถ รับเงินมัดจำคืน โดยเราจะกลับกรุงเทพฯ โดยรถไฟเหมือนเดิม แต่รอบนี้ไม่ใช่รถฟรี รถไฟฟรีนั้นจะมีเที่ยวเดียวคือตอนเช้า เวลา 06.30 น. ของทุกวัน ซึ่งเรารอไม่ไหว
อีกอย่างอยากนอนแบบสบายๆ ไปตื่นอีกทีกรุงเทพฯ เลย เราเลยจะกลับรถนอน เที่ยว 18.00 น. ชั้นบน คนละ 786 บาท ที่นอนอย่างดี มีแอร์ สะดวกสบาย หลับยาวๆ บนรถไฟ
ถึงกรุงเทพฯ 6 โมงเช้า
จบแล้วทริปเชียงดาวแบบฟินๆ ต้องบอกเลยว่าทริปนี้เป็นทริปที่คุ้มมาก ค่าใช้จ่ายไม่แพง วิวสวย ได้เห็นภูเขา สายหมอก ของดอยหลวงเชียงดาว มันรู้สึกสดชื่นได้ชาร์ทพลังขึ้นมามากเลยทีเดียว ได้มานอนโฮมสเตย์แบบพื้นบ้านของชาวลีซู ได้อยู่กับชาวบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน สัมผัสบรรยากาศ ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ต้องมาเที่ยวสักครั้ง ถึงจะเข้าใจ ว่ามันสวยแค่ไหน ใครมาไม่ถูก มาตามรอยรีวิวของเราได้ มีรายละเอียดการเดินทางให้ครบ แล้วคุณจะหลงรักเชียงดาว เจอกันทริปหน้าน๊าา
GooBye
สรุปค่าใช้จ่ายต่างๆในทริปนี้
– ค่ารถไฟขาไป ฟรี
– ค่ารถไฟขากลับ รถนอน ปรับอากาศ 768 บาท
– ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 2 วัน 500 บาท
– ค่าโฮมสเตย์ บ้านสายหมอก 500 บาท (รวมอาหาร 2 มื้อ)
– ค่าน้ำมัน100 บาท
– ค่าเข้าถ้ำเชียงดาว 20 บาท
– ค่าเช่าตะเกียง + ไกด์นำทาง ถ้ำเชียงดาว 100 บาท
– ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ขึ้นอยู่กับบุคล ตามสะดวกเลยจ้า
รวมค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ราวๆ 1988 บาท (ขึ้นอยู่กับบุคคลน๊าา)
ค่าใช้จ่ายต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้จ้าควรเช็คออกออกเดินทางจ้า
ใครที่สนใจ บ้านสายหมอกโฮมสเตย์ เชียงดาว สามารถโทรจองได้ที่เบอร์นี้เลยจ้า
โทร : 090-760-8819
โทร : 093-181-9507
Facebook : www.facebook.com/BannsaimokHomestay/
ถ้าใครสนใจเช่ามอเอตร์ไซค์โทรตามเบอร์ข้างล่างนี้ได้เลยเจ้า
โทร : 0987532668
โทร : 0895580007
โทร : 0811659998
เช็คตารางรถไฟได้ที่ www.railway.co.th/checktime/
เช็คตารางรถทัวร์ www.transport.co.th
เครื่องบิน มีเที่ยวบินประจำระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน ดูรายละเอียดได้ที่
www.airasia.com
www.thaiairways.com
www.nokair.com
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : www.facebook.com/TripTH.con
Instagram : www.instagram.com/trip_th
Twitter : twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2
ภาพและข้อมูลโดย TripTH
เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn