เที่ยวอีสานเหนือ แบบไม่มีรถส่วนตัว ตอน 2 บึงกาฬ อุดรธานี

20072
ภูทอก
ภูทอก
Finver Lipmatte ลิป ฟินเวอร์

รีวิว เที่ยวบึงกาฬ เที่ยวอุดรธานี แบบไม่มีรถส่วนตัว แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวบึงกาฬ ภูทอก บึงกาฬ น้ำตกเจ็ดสี สถานที่ท่องเที่ยวอุดรธานี หนองประจักษ์ คำชะโนด ฯลฯ

ความเดิมจากตอนที่แล้วววว…..ไปอ่านเองน๊าา ลิ้งอยู่ข้างล่าง ^__^
ตอนที่ 1http://wp.me/p6BULp-2SK <

หลังจากวันแรก เราได้ไปเที่ยวอุดรธานี กับหนองคาย กันมาแล้วแบบสนุกสุดเหวียง สำหรับวันนี้ จริงๆในโปรแกรมเดิมที จะเป็น คำชะโนด วัดไทย ศาลาแก้วกู่ วัดพระธาตุหล้าหนอง วัดโพธิ์ชัย ซึ่งอยู่ในจังหวัดอุดรธานี และหนองคาย แต่เราอยากไปเที่ยวบึงกาฬ วันนี้เราจะข้ามไปอีก 1 จังหวัด ซึ่งเราเป็นคนบอกพี่แอร์เองว่าอยากไปบึงกาฬ พี่แอร์ก็จัดให้เลย ตามคำขอ เป็นทริปที่สุดยอดมากๆ แต่ไปบึงกาฬต้องเพิ่งค่าน้ำมันให้พี่เขาอีก เพราะมันไกลกว่าเดิมมาก ซึ่งเราก็โอเค ไม่มีปัญหา พร้อมแล้วก็ Let’s Go

อุดรธานี บึงกาฬ

:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : https://www.facebook.com/TripTH.con/
Instagram : https://www.instagram.com/trip_th/
Twitter : https://twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line :  http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2

รายละเอียดเหมารถเที่ยว > http://wp.me/p6BULp-2WE

วันที่ 2

โรงแรม สันติปราณ เพลซ
08.00 น.

สวัสดีเช้าที่สดใส ^__^ หลับสบายมากเมื่อคืน ตื่นสายเลยฮ่าๆ ตั้งใจจะออกแต่เช้า ที่พักหลับสบายเกิน เลยตื่นสายเลย บุ๋ยย… เนียนไปซะ ฮ่าๆ รีบโทรหาพี่แอร์ กระโดดจากเตียง อาบน้ำแต่งตัว รอรถมารับออกเที่ยวต่อวันที่ 2 พี่แอร์กับพี่ลี่เหมือนเดิม คู่เฮฮา ที่จะเป็นไกด์พาเราเที่ยวต่อ

สันติปราณ เพลซ (1)
สันติปราณ เพลซ จองที่พักโทร 0889777548

ก่อนอื่นไปหาอะไรหม่ำก่อน ^__^

หนองประจักษ์ศิลปาคม (หนองประจักษ์)
08.30 น.

ท้องเริ่มหิว พี่เขาเลยหาไปหาอะไรกิน ก่อนออกเดินทาง พี่เขาเลยพาไปกินแถวๆ หนองประจักษ์ ซึ่งที่นี่เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ และเป็นสวนธาธารณะ อยู่ในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี มีมาตั้งแต่ก่อนตั้งเมืองอุดรธานี เดิมเรียกว่า “หนองนาเกลือ” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมือง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “หนองประจักษ์” เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี ตอนเช้าจะมีคนเมืองอุดรมาออกกำลังกายกัน บรรยากาศดีมากๆ

เป็ดเหลือง หนองประจักษ์ (1)
เป็ดเหลือง หนองประจักษ์
เป็ดเหลือง หนองประจักษ์ (3)
เป็ดเหลือง หนองประจักษ์

กลางหนองประจักษ์จะมีเป็ดสีเหลืองตัวใหญ่ น่ารักมาก เห็นได้แต่ไกล เป็นแลนด์มาร์ค ของอุดรธานีไปเลย ด้วยความน่ารักของเป็ด สีเหลืองปากส้ม เป็นสีสันใหม่ของชาวอุดรธานี นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เอาเป็ดยักษ์สีเหลือง ซึ่งคล้ายๆกับเจ้าเป็ดสันติภาพที่อยู่ที่ฮ่องกง The World’s Largest Rubber Duck Arrives in Hong Kong ของ ฟลอเรนท์จิน ฮอฟแมน ศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์ สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ และความสามัคคี

เป็ดเหลือง หนองประจักษ์ (4)
เป็ดเหลือง หนองประจักษ์
เป็ดเหลือง หนองประจักษ์ (2)
เป็ดเหลือง หนองประจักษ์

แต่เป็ดเหลืองยักษ์ ที่อุดรธานี ขนาดเล็กกว่า มีความสูงประมาณ 8 เมตร ลอยน้ำในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เป็นสีสันใหม่ของชาวอุดรธานีไปเลย น่ารักมากๆ เขาว่ามาถึงอุดรธานี ต้องมาดูเป็ดเหลืองตัวนี้ ใครมาเที่ยวที่อุดรธานี ต้องลองมาดูกัน ^__^

เป็ดเหลือง หนองประจักษ์ (5)
เป็ดเหลืองน้อย หนองประจักษ์

ตรงข้ามหนองประจักษ์ มีร้านอาหารเช้าอยู่ ร้านนี้มีโจ๊ก ข้าวเปียก ก๊วยจั๊บ ไข่กะทะ แต่ละอย่างน่ากินมากๆ เราเลยฝากท้องไว้ที่นี่เลย ก่อนออกเดินทางไปต่อที่อำเภอบ้านดุง

ไข่กระทะ
ไข่กระทะ

คำชะโนด (ตำนานผีจ้างหนัง)
10.30 น.

หลับบนรถมาไม่นาน เราก็มาถึง คำชะโนด ก่อนถึง คำชะโนด เราจะเห็นสองข้างทาง มีบายสีขายเต็มสองข้างทาง พี่ลี่เล่าว่า พญานาคจะกินบายสีเป็นอาหารทิพย์ ทำให้มีคนนิยมนำบายสีมาถวายเยอะมาก พี่แอร์กับพี่ลี่บอกว่า ที่นี่ห้ามพลาดเลย ต้องมา คำชะโนดนั้นเป็นเกาะกลางหนองน้ำ ตั้งอยู่ที่ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ตามตำนานว่ากันว่า เกาะคำชะโนดเป็นเมืองของพญานาค และเป็นทางขึ้นลงเมืองบาดาลของพญาศรีสุทโธ ซึ่งชาวอีสานเชื่อว่าเป็นพญานาคผู้ขุดแม่น้ำโขง

ป่าคำชะโนด (4)
ป่าคำชะโนด

และที่นี่มีเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่อง หลายคนคงได้ยินตำนานเรื่องผีจ้างหนัง ซึ่งเป็นเรื่องที่โด่งดังมาก จนถูกนำไปสร้างเป็นหนัง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ เมื่อปี 2532 มีคณะหนังกลางแปลงได้รับว่าจ้างให้ไปจ้างหนังที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งด้วยเงิน 4 พันบาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องฉายหนังให้จบก่อนตี 4 และต้องกลับออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง ตอนออกจากหมู่บ้านห้ามหันหลังไปมอง ซึ่งพอไปถึงวันฉายก็มีเหตุการณ์แปลก ๆ คือ ตอนฉายแรก ๆ ไม่มีคนเลย แม้แต่ร้านขายของก็ไม่มี

ป่าคำชะโนด (8)
ป่าคำชะโนด

จนกระทั่ง 3 ทุ่มก็มีผู้หญิงนุ่งชุดขาว และ ผู้ชายนุ่งผ้าสีดำมาดูหนัง นั่งกันสงบเรียบร้อย ฉายหนังสนุกแค่ไหน ตลกแค่ไหนก็ไม่มีเสียง ซึ่งพอคณะออกจากที่ฉายในตอนรุ่งเช้า ได้แวะซื้อของที่หมู่บ้านข้างทาง ชาวบ้านได้ถามว่าไปฉายที่ไหนมา จึงได้ตอบไปว่าที่หมู่บ้าน แต่ชาวบ้านยืนยันว่าตรงนั้นเป็นดงป่าไม่มีคนอยู่ คนฉายก็เพิ่งรู้ว่าบริเวณดังกล่าวคือ ป่าคำชะโนด และเงินที่ได้รับว่าจ้างมาก็เป็นเงินจริง บางที่ก็ไปเล่าว่าเงินที่ได้มาเป็นใบไม้

ป่าคำชะโนด (5)
ป่าคำชะโนด
ป่าคำชะโนด (6)
ป่าคำชะโนด
ป่าคำชะโนด (7)
ป่าคำชะโนด

แต่ละเรื่อง น่าแปลกทั้งนั้น ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย เราเองก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปข้างใน มีหลายคนที่มาขอโชคขอลาภ ดั้นด้นมาไกล เพื่อมาที่นี่ เข้ามาด้านในเราจะเห็นสะพานรูปพญานาคที่เชื่อมไปคำชะโนด ซึ่งเป็นเกาะกลางน้ำ เข้ามาในป่าคำชะโนด ข้างในจะเย็นมาก ข้างในเป็นต้นชะโนดสูงมากๆ ขึ้นอยู่เต็มพื้นที่ เหมือนป่าดึกดําบรรพ์ หรือป่ายุคไดโนเสาร์ อารมณ์ประมาณนั้น ป่านี้สมบูรณ์มาก เพราะไม่ถูกรบกวนมาก ที่นี่มี 3 จุดหลักๆ ที่จะได้เห็น
คือ ศาลปู่นาค ย่านาค บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และต้นโพธิ์ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของปู่นาค ย่านาค

คำชะโนด (4)
คำชะโนด

ตอนที่เราเข้าไปด้านใน มีคนที่เคยมาขอโชคที่คำชะโนดแห่งนี้แล้วถูกรางวัล 30 ล้าน แล้วมารำแก้บนที่นี่ เป็นรำดนตรีพื้นบ้าน ยืนดูอยู่พักนึ่ง เพลงเพราะดี ^__^

คำชะโนด (1)
คำชะโนด

พวกเราขึ้นไปไหว้ศาลปู่นาค ย่านาค ซึ่งตอนนี้ก็มีคนที่ได้รับโชคกำลังจะสวดแก้บน มีบายสีขนาดใหญ่มากๆ มาถวาย จะมีคนนำสวด เราก็ได้คนนำสวดไปด้วยเลย ^__^ ระหว่างสวดอยู่เราเห็นผู้หญิงชุดแดงที่มานั่งสวดอยู่ มีอาการแปลก คือยิ้มกว้างตาลอยตลอดเวลาขณะสวด เรานี่ขนลุกซุ่เลย พี่ลี่บอกว่าอาจจะเป็นย่านาคกำลังยิ้มดีใจที่ได้บายสีอันใหญ่ เราไม่อยากใช้คำว่า อาจจะมีพลังงานบางอย่าง มันอยู่ที่ความเชื่ออีกเหมือนกัน

คำชะโนด (2)
คำชะโนด

เดินไปตามทางเดิน ไปที่ต้นโพธิ์ใหญ่ถ้าเห็นสีขาวๆรอบต้นโพธิ์ ไม่ต้องแปลกใจเป็นร่องรอยทีนักเสี่ยงโชคทั้งหลายเอาแป้ง มาขุด มาลูบเพื่อขอโชคขอลาภกัน พวกเราก็ไม่พลาดที่จะลองมาลูบดูบ้าง ช่วยกันส่องกันหลายคน เห็นเหมือนกัน ^__^

คำชะโนด อุดรธานี (1)
คำชะโนด อุดรธานี
คำชะโนด อุดรธานี (2)
คำชะโนด อุดรธานี
คำชะโนด อุดรธานี (3)
คำชะโนด อุดรธานี

มาที่นี่ต้องไม่พลาดมาที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ผุดขึ้นมากลางเกาะคำชะโนดแห่งนี้ ที่มีความเชื่อกันว่า ใครได้เอาน้ำในบ่อนี้พรมหัว จะไม่แต่ความโชคดี หายเจ็บหายป่วย ล้างสิ่งไม่ดีออกไป หลายคนเอาใส่ขวดกลับบ้าน เอาไปผสมน้ำอาบก็มี

คำชะโนด (3)
คำชะโนด

ได้มาดู มาเห็น มาขอพร ที่คำชะโนด ได้ฟังตำนานเกี่ยวกับพญานาคของที่นี่ แล้ว รู้สึกว่า ที่นี่ไม่ธรรมดา เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่วิทยาศาสตร์ ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ ทำให้ที่นี่ ยังคงมีมนต์ขลังต่อไป ออกจากคำชะโนด เราจะไปยังป้ายต่อไป โดยจะผ่าน จ.สกลนคร เข้าไปที่ จ.บึงกาฬ เดินทางอีกยาวไกล ไปยังป้ายต่อไป

ภูทอก
13.30 น.

หลังจากเดินทางมาแสนไกลเราก็มาถึง ภูทอก จ.บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ ที่แยกมาจากจังหวัดหนองคาย เราแวะกินข้าวเที่ยงที่หน้าวัดภูทอกเติมพลังก่อน เพราะขึ้นไปด้านบนจะไม่มีของขายแล้ว เข้าไปในวัดภูทอก เราต้องเดินเท้าขึ้นไปด้าบน

วัดภูทอก (1)
วัดภูทอก

ภูทอก เป็นภูเขาขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ที่บ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จ.บึงกาฬ ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว ภูทอก มี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย เราสามารถมองเห็นได้ทั้ง 2 ลูก มองจากด้านล่างขึ้นไปเหนื่อยเลย ฮ่าๆ เอาล่ะมาถึงแล้วสู้ๆ ^__^ ด้านบนภูทอกนั้น มีทั้งหมด 7 ชั้น ก่อนขึ้นไปเราจะเห็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ มันสวยมาก เราก็ไม่พลาด ที่จะแชะภาพเก็บไว้ พร้อมแล้วไปกันเลย ไปพิชิตภูทอกกัน ^__^

วัดภูทอก (2)
วัดภูทอก (2)

ชั้น 1 2 3 4 เมื่อเราเดินเท้าผ่านประตูเข้าไปจากชั้นที่ 1 ขึ้นเรื่อยๆ ตรงทางเข้าจะมีฝูงลิงอยู่บนต้นไม้เยอะมาก ทางเดินเป็นบันไดไม้ ขึ้นไปบนเขา ผ่าน ชั้น 1 2 3 4 ซึ่งเป็นจุดแวะไหว้พระ เราสามารถแวะได้ ขึ้นไปด้านบน จะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ เราจะเจอทางแยก สามารถไปทางไหนก็ได้ เพราะทางจะวนกลับลงมาเหมือนเดิม แต่เราเลือกตรงไป ขึ้นไปตามบันไดไม้ สูงชันมากก

ทางขึ้นภูทอก (1)
ทางขึ้นภูทอก
ทางขึ้นภูทอก (3)
ทางขึ้นภูทอก
ทางขึ้นภูทอก (2)
ทางขึ้นภูทอก

สองข้างทางเราจะเห็นมอส ขึ้นเต็ม ผนัง ก้อนหิน หน้าผา จนไปถึงจุดที่ต้องลอดช่องเล็กของภูเขาขึ้นไปด้านบน เข้าสู่ชั้นที่ 5

ทางขึ้นภูทอก (4)
ทางขึ้นภูทอก (4)
ทางขึ้นภูทอก (5)
ทางขึ้นภูทอก

ชั้นที่ 5 ชั้นนี้จะมี ศาลาขนาดใหญ่ พระพุทธรูป กุฏิพระ ภายในร่มรื่นมาก ปูพื้นกระเบื้องอย่างดี เราสามารถนั่งพักหายเหนื่อยได้ กว่าจะมาถึงชั้นนี้ เล่นเอาเหงื่อท่วมเหมือนกัน ด้านข้างสามารถเดินมาชมวิวได้ นั่งรับลมเย็นๆ

ชั้น 5 ภูทอก (1)
ชั้น 5 ภูทอก
ชั้น 5 ภูทอก (2)
ชั้น 5 ภูทอก (2)
ชั้น 5 ภูทอก (3)
วิวจาก ชั้น 5 ภูทอก

หลายจุดจะมีพระให้เราได้กราบไหว้ หน้าฝนจะมีน้ำที่ไหลมาจากยอดเขาซึ่งไหลมาจากชั้น 7 หยดลงมาตลอดเวลา เราจะเห็นน้ำไหลออกจากช่องหิน ทำให้ที่นี่ชุ่มชื่นมา น้ำก็ได้มาจากน้ำบนเขาแห่งนี้นี่เอง จากตรงนี้ไปทางจะเริ่มหวาดเสียวมากขึ้น

ชั้น 5 วัดภูทอก
ชั้น 5 วัดภูทอก
ชั้น 5 ภูทอก (4)
ชั้น 5 ภูทอก
ชั้น 5 ภูทอก (5)
ชั้น 5 ภูทอก
ทางไปชั้น 6
ระหว่าง ทางไปชั้น 6

เมื่อเดินต่อไปตามทาง ก่อนขึ้นไปชั้น 6 เราจะเห็น วิวตรงนี้งดงามมาก สวยสุดๆ เราสามารถเห็นภูทอกใหญ่ได้เลย ภูเขาใหญ่ ป่าเขียวขจี มีหินรูปร่างแปลกตา ยื่นออกไปจากภูกทอกน้อย

ทางไปชมวิว
ทางไปจุดชมวิว
สะพานไม้ข้ามเหวไป
สะพานไม้ข้ามเหวไป
สูงมาก (2)
สูงมาก

ด้านล่างเป็นเหวลึก มีสะพานไม้เชื่อมเพื่อเดินข้างไป สะพานนั้นสูงมาก ตรงนี้หวาดเสียวมาก ทึ่งในฝีมือช่างของที่นี่เลย ตรงนี้ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ต้องลองมาดูกันวิวสวยมาก

วิวสวย
วิวสวยมาก
ภูทอกน้อย
ภูทอกน้อย
ทางเดินบนหน้าผา ภูทอก
ทางเดินบนหน้าผา ภูทอก
ไปต่อชั้น 6
ไปต่อชั้น 6

ไปต่อที่ชั้น 6

ทางขึ้นชั้น 6
ทางขึ้นชั้น 6
ชมวิวระหว่าง ชั้น 6 ภูทอก (1)
ชมวิวระหว่างทางไป ชั้น 6 ภูทอก
ชมวิวระหว่าง ชั้น 6 ภูทอก (2)
ชมวิวระหว่างทางไป ชั้น 6 ภูทอก
ชมวิวระหว่าง ชั้น 6 ภูทอก (3)
ชมวิวระหว่างทางไป ชั้น 6 ภูทอก

ชั้น 6 ชั้นนี้บอกได้เลยว่า เป็นสุดยอดของที่นี่เลย วิวสวย ลมเย็น หวาดเสียวมาก สิ่งที่เราจะเห็นและทึ่งก็คือ สะพานไม้ ที่สร้างขึ้นเป็นทางเดินสร้างบนหน้าผาเป็นหน้าผาสูงตั้งฉากกับพื้น 90 องศา ยาวกว่า 450 เมตรสร้างเป็นทางเดินบนหน้าผารอบภูทอก ใช้ไม้และน็อตเหล็กขนาดใหญ่ เพิ่มความแข็งแรง แต่ถึงกระนั้น เราเองก็ยังหวาดเสียวมาก เพราะด้านล่างมองลงไปผ่านช่องของไม้ตรงทางเดิน ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่า สูงมากๆ Unseen สุดๆ

สร้างบนหน้าผา
ทางเดินสร้างบนหน้าผา
สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก (1)
สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก
สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก (2)
สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก
สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก (4)
มันสูงมาก สะพานไม้บนหน้าผา ภูทอก
วิวงามมาก
วิวงามมาก
สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก (3)
สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก

เสานั้นใช้ไม้สร้างโดยยึดกับหน้าผา ทึ่งกับฝีมือช่างที่นี่มาก สร้างได้ยังไง เก่งมากๆ ที่นี่ไม่เมาะกับคนที่กลัวความสูงนะ ^__^ ทุกอย่างก้าวจิตตกมาก มันเป็นไม้ อยู่บนหน้าผา สะพานอ่ะแข็งแรง แต่ใจเราอ่ะคิดไปเอง ^__^ ที่นี่ UNseen มาก เป็นสุดยอดวัดบนหน้าผาที่เราคิดว่า น่าทึ่งที่สุดแล้ว

สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก (5)
สุดยอดความหวาดเสียวสะพานไม้ ภูทอก
สูงมาก
สูงมาก

ด้านบนหน้าผาตามทางเดินเราจะเห็นร่องรอยของรังผึ้งอยู่หลายแห่ง เขาเรียกว่าถ้ำผึ้ง สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และน่าชมที่สุดของชั้นนี้คือ ปากทางเข้าเมืองพญานาค ซึ่งอยู่หลังพระปางนาคปรก มีจุดให้สังเกตคือ มีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นรอยถลอกที่เกิดจากท้องพญานาคสัมผัส

ชั้น 6
ชั้น 6

จากตรงนี้ เราจะขึ้นไปชั้นที่ 7 จะไม่มีสะพานแล้ว

ชั้น 7 ชั้นนี้นั้นเป็นป่า ตั้งอยู่ด้านบนสุดของภูทอก ยังไม่มีการทำทางเดินไปชั้นนี้ ทางขึ้นไปเป็นบันไดไม้ พอสุดบันได จะเป็นทางเดินเท้ามีป่ารก มีทางแยก 2 ทางเพื่อขึ้นไปบน ทางแรกเป็นทางชัน ต้องเกาะ เกี่ยวกิ่งไม้และรากไม้เดินลำบาก แถมยังมีป้ายบอกให้ “ระวังงู” ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอยู่มากบนยอดภูแห่งนี้ด้วย เราเลยใช้อีกทาง

ทางขึ้นไปชั้น 7 ภูทอก
ทางขึ้นไปชั้น 7 ภูทอก
ต้นไม้ล้มขวางทางไว้
ระหว่างทางมีต้นไม้ล้มขวางทางไว้

ทางนี้มีต้นไม้ใหญ่ล้มทับเส้นทางไว้ เราก็ไม่ยอมแพ้ ลอดไปจนได้ ฮ่าๆ สายแอดเวนเจอร์อยู่แว้วว ^__^ เดินเวียนไปทางขวาลุยมาสักพัก ก็จะมาถึงด้านบนชั้น 7 หรือดาดฟ้า

ชั้น 7 ภูทอก (3)
ชั้น 7 ภูทอก
ชั้น 7 ภูทอก (2)
ชั้น 7 ภูทอก
ชั้น 7 ภูทอก (1)
ชั้น 7 ภูทอก

ชั้นนี้เป็นจุดสูงสุดของภูทอก หรือชั้นดาดฟ้า เป็นหน้าผาสูง การเดินตรงหน้าผา ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก บนนี้เป็นป่าเขียวขจี เราเดินไปเห็นดอกกระเจียว อยู่ 3 – 4 ต้น เห็นดอกกระเจียวสีขาวสวยเลย นั่งชมวิว ชมความสวยงามของธรรมชาติ พักหายเหนื่อย อยู่กับธรรมชาติ ของบึงกาฬ มันฟินดีจัง ^__^

ชั้น 7 ภูทอก (5)
ชั้น 7 ภูทอก
ชั้น 7 ภูทอก (4)
นั่งเล่นพักเหนื่อยเอาแรง ชั้น 7 ภูทอก

ดื่มด่ำกับธรรมชาติของภูทอกเสร็จ เราก็ต้องกลับลงไป ใช้เวลานานเหมือนกันนะกว่าจะขึ้นมาถึง แต่ขาลงอ่ะแป๊บเดียว ฮ่าๆ ถึงลานจอดรถ ก็ออกเดินทางต่อไปป้ายถัดไป

ทางลง
ทางลง

น้ำตก 7 สี
17.00 น.

ออกจากภูทอกมาไม่ไกล เราก็มาถึง น้ำตก 7 สี เราตั้งใจจะไปชมความสวยงามของน้ำตก 7 สี ก่อนกลับ น้ำตกนี้เป็นน้ำตกอีกแห่งที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดบึงกาฬ เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่ที่สวยงามของบึงกาฬ

น้ำตก 7 สี (1)
น้ำตก 7 สี

เรามาถึงที่ลานจอดรถ เงียบกริบ ไม่มีคนสักคน แม้แต่ร้านขายของก็ไม่มีคนขาย แปลก ยืน งง สักพัก ก็เดินไปทางน้ำตก ได้ยินเสียงน้ำตกกังมาแต่ไกล มองเห็นน้ำตกได้จากระยะไกลเลย น้ำเยอะมาก อยากไปใจจะขาด แต่มันไกล
แล้วตรงที่จอดรถไว้ ไม่มีคนเลยสักคน ไม่มีคนมันก็เรื่องดีนะ ไม่ต้องแย่งกันดู แต่ไม่มีเลยนี่สิ จอดรถไว้โดดๆ คันเดียว เป็นห่วงรถ เราเลยตัดสินใจกลับกัน ได้มา 1 ภาพ ซูมจากระยะไกล น้ำคงเยอะมาก เสียดายไม่ได้ไป ไว้รอบหน้าจะมาใหม่ ^__^

น้ำตก 7 สี (2)
น้ำตก 7 สี

เราคงมาวันธรรมดา คนเลยไม่มี ที่นี่อาจจะคึกคักในวันเสาร์ – อาทิตย์ แต่ฟังจากเสียงน้ำจากระยะไกล มองจากระยะไกล ต้องสวยมากแน่ๆ ไว้รอบหน้าจะมาใหม่ ^__^ เรายังไม่หยุด ไม่มืดไม่ยอมกลับ ฮ่าๆ ไปป้ายสุดท้ายของวันนี้

น้ำตกถ้ำพระ
17.45 น.

ตั้งใจมาชมความสวยงาม น้ำตกถ้ำพระ ตั้งอยู่บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ที่ต้องนั่งเรือออกไป แต่เรามาช้าไป ที่นี่ปิดเวลา 17.00 น. เสียดาย เราตื่นสายเมื่อเช้า ลงไปสอบถาม จนท. บอกว่า ต้องนั้งเรือไป คนละ 20 บาท ไปกลับ อยากกลับตอนไหนก็ได้ เที่ยวสุดท้าย เวลา 17.00 น. แอบเสียดาย รอบหน้ากลับมา จะมาเยี่ยมเธอแน่นอน น้ำตกถ้ำพระ

เอาละมืดพอดี ไม่มืด ไม่กลับ เป็นตามที่พี่แอร์ พี่ลี่บอกจริงๆ 2 วันมานี้ สุดยอดมาก สนุกสุด ได้เที่ยวตั้ง 3 จังหวัด อีสานเหนือ

ได้เวลากลับ ออกจากบึงกาฬ ผ่านบึงโขงหลง ผ่านสกลนคร เข้าอุดร ก่อนกลับที่พัก พี่แอร์ พี่ลี่ พาไปกินข้าว ในตัวเมือง นั่งเม้าส์ มอย กัน  ก่อนพี่แอร์ พี่ลี่จะมาส่งเรากลับไปยังที่พักของเรา

โรงแรม สันติปราณ เพลซ
22.00 น.

วันนี้เราย้ายห้อง จากห้อง Suite มาเป็น ห้อง Standard ราคาถูกลง 450 บาท ห้องสะอาด สะดวกสบาย จองที่พักโทร 0889777548 เหนื่อยมาทั้งวัน วันนี้ขอหลับแบบฟินๆหน่อย ^__^

สันติปราณ เพลซ อุดรธานี (1)
สันติปราณ เพลซ อุดรธานี
สันติปราณ เพลซ อุดรธานี (2)
สันติปราณ เพลซ อุดรธานี
สันติปราณ เพลซ อุดรธานี (3)
สันติปราณ เพลซ อุดรธานี
สันติปราณ เพลซ อุดรธานี (4)
สันติปราณ เพลซ อุดรธานี

เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม 12.00 น. เดินไปทางสีแยกหน้าสถานีรถไฟ ตรงนั้นจะมีตลาด ยูดีทาวน์ กลางคืนที่นี่คึกคักสุดๆ ร้านอาหารเยอะมาก เราไปกินข้าวเที่ยงแถว ยูดีทาวน์ วันที่เรากลับเป็นวันหวยออกพอดี ร้อยวันพันปีไม่คิดอยากซื้อหรอก วันนี้อยากซื้อ เราตั้งใจจะลองเสี่ยงโชคกับตัวเลข ที่เห็นมาจากคำชะโนด พยามเดินหาร้านขายล็อตเตอรี่ตลอดทางแต่ก็ไม่เจอ ต้องกลับแล้วจากตรงนี้มี 2 ตัวเลือก คือกลับ รถไฟ หรือ รถทัวร์

รถไฟกลับกรุงเทพ มีเที่ยวเวลา 07:38 / 18:52 / 19:19 (รถฟรี) / 19:59

เราเลยเลือกกลับรถทัวร์ ซึ่ง บขส. อุดรธานี ก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก เดินไปทางถนนประจักษ์ศิลปาคม ราว 300 เมตร เลี้ยวซ้ายไปตามแยก อีก 200 เมตร ก็จะเจอ บขส. อุดร

บขส. อุดรธานี
13.00 น.

มีรถเข้ากรุงเทพฯ เที่ยว บ่าย 2 โมง สอบถามได้ที่ บขส.อุดรธานี เป็นรถ. ป.2 ราคา 350 บาท

อุดรธานี - กรุงเทพฯ
อุดรธานี – กรุงเทพฯ

ระหว่างทางกลับกรุงเทพ เราเปิดเช็คหวยจากอินเตอร์เน็ต เชื่อม่ะ ออกตัวที่เราได้มาจากคำชะโนดเลย เป๊ะเลย แอบเสียดาย หาซื้อล็อตเตอรี่ไม่ได้ เหมือนที่เขาบอกว่า “บุญมีแต่กรรมบัง” ไว้คราวหน้าจะมาใหม่ ^__^

กรุงเทพฯ
22.00 น.

จบแล้วทริป อีสานเหนือ ในแบบของเรา ไม่ต้องมีรถส่วนตัวก็เที่ยวได้ 2 วัน ได้เที่ยวถึง 3 จังหวัด อีสานเหนือ อุดร หนองคาย บึงกาฬ ใช้งบไม่เยอะ การเดินทางสะดวกสบาย ได้เที่ยวน้ำตก เที่ยววัด ขึ้นเขา ลงห้วย เจอเพื่อนใหม่ ทำอะไรใหม่ๆ ได้มิตรภาพที่ดี สำหรับใครที่อยากไปเที่ยว แต่ไม่รู้จะไปแบบไหน เดินทางยังไง ตามรอยรีวิวของเราไปได้ ^__^ เราอยากให้ทุกคนออกไปเที่ยวกัน ออกไปเที่ยวเมืองไทย ไปดูธรรมชาติที่สวยงามของบ้านเรา อีสานเหนือ น่าเที่ยวกว่าที่คุณคิด แล้วเจอกันทริปต่อไป คอยติดตามด้วยน๊าาา

Goodbye

:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : https://www.facebook.com/TripTH.con/
Instagram : https://www.instagram.com/trip_th/
Twitter : https://twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line :  http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2

สรุปค่าใช้จ่ายแบบนั่งไฟเสียเงิน
– ค่ารถไฟ (รถด่วน) 242 บาท
– ค่าเหมารถ วันละ 2500*2 วัน = 5000 / 4 คน = 1250 / คน
– ที่พักคืนแรก 650 บาท
– ที่พักคืนที่สอง 450 บาท
– ค่าเข้า ภูพระบาท 20 บาท
– บูชาเพชรพญานาค 100 บาท
– ค่ารถทัวร์ขากลับ 350 บาท
– ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตั้งไว้ 800 บาท

รวมทั้งทริป 3862 บาท (ขึ้นอยู่กับบุคคลน๊าา)

คำนวณค่าใช้จ่ายกรณีนั่งไฟนั่งฟรีทั้งขาไปและกลับ และลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออกไป
– ค่ารถไฟ ไป/กลับ ฟรี
– ค่าเหมารถ วันละ 2500*2 วัน = 5000 / 4 คน = 1250 / คน
– ที่พัก 2 คืน 450*2 = 900 บาท
– ค่าเข้า ภูพระบาท 20 บาท
– ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตั้งไว้ 500 บาท

คำนวณทั้งทริป 2670 บาท (เป็นเพียงการคำนวณ ขึ้นอยู่กับบุคคลน๊าา)

เบอร์ติดต่อเหมารถพาเที่ยว : 0946798133
เบอร์ติดต่อที่พัก สันติปราณ เพลส : 0883377548

แผนที่แหล่งท่องเที่ยวของทริปนี้

ภาพและข้อมูลโดย TripTH

เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn

ทบทวนภาพรวม
เที่ยวอีสานเหนือ
Roongnakhon Yodcamtan
ผู้ที่รักการทำ Content เป็นชีวิตจิตใจ ชอบถ่ายภาพ ชอบดำน้ำ ชอบเที่ยวมาก และอยากมอบอะไรดีๆให้กับผู้อื่น
%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b7%e0%b8%ad-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99-2เที่ยวอีสานเหนือ อุดรธานี บึงกาฬ ไปตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอีสานเหนือ