เที่ยวลาวใต้ ดินแดนน้ำตก 4 วัน 3 คืน ปากเซ ปากซอง จําปาสัก นากระสัง ดอนคอน

รีวิว เที่ยวลาวใต้ 4 วัน 3 คืน เที่ยว ปากเซ ปากซอง จําปาสัก นากระสัง ดอนคอน แนะนำ ที่เที่ยวลาวใต้ น้ำตกลาวใต้ การเดินทางไปลาวใต้ สถานที่ท่องเที่ยว ลาวใต้

สวัสดีครัช ^^ เรามาเจอกันอีกตามเคย ผมเชื่อว่าหลายคนคงอยากออกไปเที่ยวต่างๆประเทศ แต่ไม่รู้จะเริ่มแบบไหน ที่ไหน ผมมีทริปเที่ยวต่างประเทศ แบบเดินทางง่ายๆ ที่เที่ยวสวยๆเยอะแยะมากมาย ทริปนี้เราจะไปเที่ยวกันที่ ลาวใต้ แพลนในทริปนี้เราจะไปเที่ยวกันที่ ปากเซ จําปาสัก นากระสัง ดอนคอน

ผมจะนำมารีวิวให้ดูกันว่า เตรียมอะไรบ้าง ? ไปยังไง ? เดินทางยังไง ? พักที่ไหน ? เที่ยวที่ไหน ? ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะแนะนำวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว ^__^ (TripTH)

:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : : //ti/p/@miv2982t
Inbox : m.me/TripTH.con/

ก่อนเดินทาง

สิ่งที่ต้องเตรียม ?

ก่อนเดินทางเที่ยวต่างประเทศ สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัว ผมเลยทำลิสต์มาให้แบบคร่าวๆ มีประโยชน์แน่นอนครับ
– พาสสปอร์ต ถ้ามีแล้ว ก็ห้ามขาดเลย (หรือถ้าใครไม่มีก็ไปทำก่อนได้ อยู่ลาวได้ 30 วัน) ลงทะเบียนทำพาสปอร์ต > https://www.passport.in.th/eService/
– บัตรประชาชน (กรณีสำหรับคนไม่มีพาสปอรฺท เอาไว้ทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว อยู่ได้ 3 วัน)
– ลาวใช้เงินกีบ เรตที่ 2.4 (1000 บาท แลกได้ 240,000 กีบ)
– แลกเงิน ควรแลกในธนาคารจะได้เรตดีสุด (แลกธนาคารลาว ควรเอาพาสปอร์ตไปด้วย)
– ซิมโทรศัพท์ ของลาว (ซื้อที่ชายแดนได้เลย มีแนะนำในรีวิว)
– เช่ารถมอเตอร์ไซค์ในลาว ต้องยึดพาสปอร์ตไว้ และไม่ต้องใช้ใบขับขี่ก็เช่าได้
– การขับรถในลาว จะขับเลนส์ขวา ตรงข้ามกับบ้านเรา
– ห้ามถ่ายภาพสถานที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความมั่นคง เช่นกองทัพ ห้ามเลยนะครับ
– เงิน (อันนี้สำคัญมาก)
– ปลั๊กไฟแยก สำหรับใครมีอุปกรณ์เยอะๆ
– ภาษา ที่ลาวก็ภาษาเดียวกับอีสานบ้านเฮา สื่อสารกันเข้าใจ ไม่ยุ่งยาก
– แอพแผนที่ แนะนำ Google Map (สำหรับดูแผนที่เวลาเที่ยว)

พักที่ไหน ?

ทริปนี้เราจองที่พักผ่าน Agoda จะเริ่มต้นที่เมืองปากเซ (สปป.ลาว) เมืองที่เราจะนั่งรถไปลงที่นั่น ที่พักในปากเซมีหลากหลายที่ เราค้นหาอยู่นานใน Agoda ไปเจออยู่ที่นึ่ง อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse)
ราคาไม่แพง คืนละ 500 – 600 คะแนนรีวิวดี อยู่กลางเมือง ใกล้ร้านอาหาร ใกล้ร้านสะดวกซื้อ มีให้เช่ามอเตอร์ไซค์ มีทัวร์ด้วย ถ้าไม่รู้จะพักที่ไหน ก็ตามเราได้

อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse) > www.agoda.com/th-th/alisa-guesthouse/hotel/pakse-la.html
ค้นหาที่พักปากเซ > www.agoda.com/th-th/city/pakse-la.html

ไปยังไง ?

แนะนำให้นั่งรถทัวร์ จะได้ไม่แพงมาก วิ่งตรงถึง ปากเซ (สปป.ลาว) ได้เลย
มีรถทัวร์จาก กรุงเทพฯ (หมอชิต) – ปากเซ (สปป.ลาว) ออกทุกวัน วันละ 2 เที่ยว รอบ 20.00 / 21.00 ค่าตั๋วคนละ 900 บาท ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง ถึงปากเซ (สปป.ลาว)

จองตั๋วรถทัวร์ หมอชิต – ปากเซ (สปป.ลาว) แบบออนไลน์
www.pns-allthai.com/pns_bs/booking_trip_preview.php

บขส.
เบอร์โทร : 0-2872-1777
อีเมล : admin@pns-allthai.com
LINE@ : @bus999

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทาง ขาดอะไรเราไปหาเอาข้างหน้า ^__^

อ่านรีวิวเที่ยววังเวียง > http://bit.ly/2wzkyI0

อ่านรีวิวเที่ยวหลวงพระบาง > http://bit.ly/2vONCGR

เดินทาง

กรุงเทพฯ (หมอชิต)
20.00

ทริปนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพโดยรถทัวร์ จองตั๋วไว้ล่วงหน้า แนะนำให้นั่งรถทัวร์ จะได้ไม่แพงมาก วิ่งตรงถึง ปากเซ (สปป.ลาว) ได้เลย
มีรถทัวร์จาก กรุงเทพฯ (หมอชิต) – ปากเซ (สปป.ลาว) ออกทุกวัน วันละ 2 เที่ยว รอบ 20.00 / 21.00 ค่าตั๋วคนละ 900 บาท

จองตั๋วรถทัวร์ หมอชิต – ปากเซ (สปป.ลาว) แบบออนไลน์
www.pns-allthai.com/pns_bs/booking_trip_preview.php

บขส.
เบอร์โทร : 0-2872-1777
อีเมล : admin@pns-allthai.com
LINE@ : @bus999

เราขึ้นรถเที่ยวเวลา 20.00 ไปถึงที่หมอชิต ไปรับตั๋ว (เค้าเตอร์ บขส. 999) จะอยู่ตรงประตูทางเข้า จำง่ายๆคือ จะอยู่ตรงข้ามกับของเอกชน

ได้ตั๋วแล้วก็ออกเดินทาง รถจอดชานชาลาที่ 100 (อาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่ละวัน)

ใช้เวลาเดินทาง 10 ชั่วโมง ถึงช่องเม็ก อาจจะช้าตรง ตม. บ้าง และอีก 1 ชั่วโมง ถึงปากเซ (สปป.ลาว)

Day 1

ช่องเม็ก
06.30

หลังจากหลับยาวๆ 10 ชั่วโมง เราจะมาถึงช่องเม็กเช้าพอดี เราต้องลงรถทำเอกสารผ่านแดนที่นี่ รถจะส่งเราลงที่ช่องเม็ก แล้วรถทัวร์ไปจอดรอเราที่ตลาดวังเต่า ฝั่งลาว หรือแถว ตม.ลาวนั่นแหละ

เดินไปตามทาง จะมีเจ้าหน้าทีบอก ไปถึง ตม. ก็ทำเรื่องผ่านแดน หรือเดินตามคนลาวไป

สำรับคนที่มีพาสปอร์ต
– กรอกบัตรผ่านแดนขาออก ที่ ตม.ไทย และเดินลอดอุโมงค์ ทะลุไปฝั่งลาวได้เลย

สำหรับคนที่ไม่มีพาสปอร์ต
เอกสารที่ต้องใช้ทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass)
– บัตรประจำตัวประชาชน
– สูติบัตร กรณี มีเด็กยังไม่ทำบัตรประจำตัวประชาชน
– รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว กรณี ไม่ใช่ E-Border Pass
สำหรับหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) ของผู้ที่ไม่มีพาสปอร์ท จะสามารถอยู่ได้ ครั้งละไม่เกิน 3 วัน 2 คืน ครับ

มาถึง ตม.ลาว เราต้องไปปั๊มตราพาสปอร์ต ก่อนเข้าลาว และเสียค่าธรรมเข้าประเทศลาว 200 บาท แอบคิดในใจ เมิงจะแพงไหน ^^ (อันนี้ไม่ต้องไปเถียงอะไรเขา หรืออ่านในเว็บนุ้น เว็บนี้มา เสียแค่ 20 , 50 , 100 ผมแนะนำให้จ่ายไปเถอะครับ ประเทศเขา เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ^^)

** ข้อแนะนำ ถ้าไม่รู้ไปตรงไหน จ่ายเงินตรงไหน ให้เดินตามคนลาว ที่มารถทัวร์คันเดียวกับเรา เขาจะรู้ว่าไปตรงไหน เดินตามๆเขาไป ^^

หลังจากปั๊มตราพาสปอร์ต เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีสาวลาวมาเสนอขายซิมมือถือ และแลกเงินไทย เป็นเงินกีบ (Kip) (จริงๆเจอตั้งแต่ทะลุอุโมงค์มาแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อ เพราะรีบไปปั๊มตราก่อน) ผมลืมบอกว่าผมเป็นคนอีสาน เรื่องภาษาก็ใกล้เคียงกัน เว้าคือกัน ^^ คนลาวก็ฟังไทยรู้เรื่องครับ ไม่ต่างกันมาก และคนลาวชอบดูละครทีวีไทยด้วย

ตรงนี้เงินไทยยังใช้ได้อยู่ น้องเขาเสนอมาเป็นเงินไทย ซิม 100 บาท ใช้เน็ตได้ราวๆ 2000 MB ก็ใช้ได้ราวๆ 3 – 4 วันขึ้นกับการใช้งาน ซิมเป็นของ Unitel จากการใช้งานที่ลาวก็โอเคเลย เร็วใช้ได้

แล้วก็จะมีสาวลาว ที่มาเสนอแลกเงิน ตอนแรกก็ลังเล กลัวได้ถูก พอเห็นคนลาวบนรถแลกกันเยอะ ก็เลยแลกก็แลกฟ่ะ ^^ ได้เรต 1,000 บาท แลกได้ 240,000 กีบ (Kip) แน่นอนเราตื่นเต้นแน่ๆ ถือเงินลาว คิดว่าตัวเองรวยมาก 55+ คิดผิด !!
แค่ตัวเลขเพิ่มขึ้นมาครับ เช่นเราซื้อของต่างๆ อย่างเป๊บซี่กระป๋องละ 8000 กีบ แปลงเป็นเงินไทยก็ 33.92 บาท พอมาคิดเป็นเงินไทย ก็ราคาแพงใช้ได้เลย

แปลงเงินไทย – ลาว > https://th.coinmill.com/LAK_THB.html

**ข้อแนะนำนำถ้าใคร ไม่ได้ซื้อซิม พอมาถึงช่องเม็กก็ควรปิดมือถือ หรือเป็นเป็น FlightMode ไว้เลยจะได้ไม่เสียเงิน นาจา**
**ไม่ต้องกังวลเรื่องซิม หรือแลกเงิน ที่นี่มีเพียบ**
**ที่ลาวก่อนซื้อของอะไร ถามราคาให้ดีก่อนนะครับ**

อันนี้แนะนำคร่าวๆก่อน จากนั้นก็ขึ้นรถออกเดินทางต่อ รถจะไปจอดที่ หลัก 8 (KM.8) ซึ่งอยู่นอกเมืองออกไป

หลัก 8 (KM.8) ปากเซ
09.00

ที่นี่เป็นศูนย์รวมรถของปากเซ หรือเรียกง่ายๆคือสถานีขนส่งนั่นเอง จากที่นี่ เราต้องนั่งรถสามล้อ (สกายแล็ป) ไปต่อ ค่ารถคนละ 20,000 กีบ (Kip) หรือถ้าจ่ายเงินไทยเขาก็เอา คนละ 80 บาท ผมว่ามันก็สมราคาอยู่นะ เพราะจาก หลัก 8 (KM.8) ไปกลางเมือง หรือที่พักเรา ก็ราว 7 – 8 กิโลเลย

แว๊นไปตามทาง เห็นเมืองปากเซ แล้วรู้สึกตื่นเต้น ^^ สักพักก็มาถึงที่พักของเรา

อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse)
09.30

อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse) ที่ซุกหัวนอนของเราในทริป ตั้งอยู่ในย่านกลางเมืองปากเซเลย แหล่งครึกครึ้น มีทุกอย่าง

ราคาไม่แพง คืนละ 500 – 600 คะแนนรีวิวดี อยู่กลางเมือง ใกล้ร้านอาหาร ใกล้ร้านสะดวกซื้อ ข้างๆมีร้านอาหารไทยด้วย มีให้เช่ามอเตอร์ไซค์ มีทัวร์ด้วย มีจองรถไปที่ต่างๆได้ด้วย

เดิมทีเราจองที่พักออนไลน์จาก Agoda มาแค่ 1 คืน เพราะยังไม่มีกำหนดที่แน่นอน ส่วนอีก 1 คืน เรามาจองกับที่พักเลย ราคาถูกกว่าราว 70 บาท แต่ถ้าจองมาห้องไว้เลยก็จะชัวร์กว่า เพราะเราจะได้มั่นใจว่ามีห้องให้เราแน่นอน ถ้า Wlak in ก็ต้องวัดดวงกัน ^^

ถ้าไม่รู้จะพักที่ไหน ก็ตามรีวิวเราได้

อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse) > www.agoda.com/th-th/alisa-guesthouse/hotel/pakse-la.html
ค้นหาที่พักปากเซ > www.agoda.com/th-th/city/pakse-la.html

เราจะเช่ามอเตอร์ไซต์ออกไปเที่ยวกัน กับที่พักได้เลย ราคา วันละ 50,000 กีบ (Kip) หรือตีเป็นเงินไทยก็ วันละ 200 นั่นแหละ ก็ถือว่าไม่แพงนะ เป็นรถ Honda Wave ประหยัดน้ำมันด้วย เช่า 1 ครั้ง ใช้รถได้จนถึงเย็นของวันนั้นๆ
เราเช่า 2 วันเลย รวม 100,000 กีบ (Kip) แบบนี้จะคืนอีกครั้ง ก็วันเช็คเอ้าท์เลย

**การขี่มอเตอร์ไซค์ ในลาวต้องขี่เลนขวา นาจา (ตรงข้ามกับอยู่ไทย)**
**ขี่มอเตอร์ไซค์รถในลาว ไม่จำเป็นต้องมีใบขับขี่ แค่ใส่หมวกกันน็อก จะไม่มีตำรวจลาวมายุ่งกับเรา**
**ถ้าใครขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็น แนะนำให้เหมาไปเที่ยวได้ สอบถามโต๊ะทัวร์แถวๆนั้น มีเยอะมาก**

พร้อมแล้วออกเดินทาง เราจะไปเที่ยวรอบๆปากเซกันก่อน

ริมโขง เมืองปากเซ

เมือกปากเซเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง แม่น้ำสายใหญ่ ที่ไหลผ่านแถบนี้ มีภูเขาล้อมรอบ เป็นเมืองที่สวยมากๆ

จะมีสะพานข้ามน้ำโขง เป็นแลนด์มาร์ค ที่น่าสนใจอีกแห่งของที่นี่ ประตูสู่ปากเซ

เราจะไปจุดที่ไกลที่สุดของทริปนี้ก่อน คือ ปราสาทหินวัดพู อยู่ที่เมืองจำปาสัก แว๊นกันยาวๆ ใครที่เหมารถไปก็สบายหน่อย ระหว่าทางเราจะเห็นวิถีชีวิตคนลาว เห็นเด็กนักเรียน ปั่นจักรยานไปโรงเรียน

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ที่ลาวจะมีแต่เฝอ หรือข้าวเปียก ถ้าไปถามก๋วยเตี๋ยว เขา งง เลย ต้องถาม เฝอ หรือ ข้าวเปียกนะครับ ที่นี่มีเยอะมาก ไปที่ไหนก็เจอ ก็คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา

2 ชาม โดนไป 30,000 กีบ (Kip) หรือ ราวๆ 120 บาท ก็จัดว่าแพงนะ ใครว่าเงินลาวถูก ไม่จริงเลย แค่มี 0 เยอะ ^^

ขี่รถมาไกลพอสมควร ก็มาถึง

ปราสาทหินวัดพู

ปราสาทหินวัดพู หรือ วัดพู เป็น ปราสาทขอม ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองปากเซ มาทางทิศใต้ประมาณ 42 กิโลเมตร ที่นี่เป็นหนึ่งโบราณสถานที่สำคัญในลาวใต้ ซึ่งเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาวค่าเข้าชม
– ชาวต่างชาติ (คนไทย) 50,000 กีบ (Kip) / คน
– ค่าจอดรถ 5,000 กีบ (Kip)

มาถึงเราต้องเสียค่าจอดรถ 5,000 กีบ (Kip) แล้วซื้อตั๋วเข้าไปชมตัวปราสาท อีกคนะละ 50,000 กีบ (Kip)ในราคาชาวต่างชาติ ตกคนละ 200 บาท บ่นแพงเบาๆ ^^ อุตส่าห์ตีเนียนพูดลาว หน้าตาผมก็ชัดเจนไปทางที่ราบสูง แต่เขาก็ดูออก ^^ ไม่เป็นไรบ้านเราก็ยังมีราคาชาวต่างชาติ ราคาคนไทยเหมือนกัน มีทุกที่แหละ มาถึงแล้วต้องไปชม ^^

จะมีรถราง ขับพาไปที่ตัวปราสาท แต่ขอบอกว่าถ้ามาช่วงที่แดดจ้า มันเป็นอะไรที่ร้อนมาก ถ้าใครมีร่ม หรือมีหมวก ก็พกมาด้วย หรือเช่ากับคนขับรถรางได้ ราคา 20 บาท เงินไทย

ก่อนถึงตัวปราสาท เราจะเห็นทางเข้า มีเสาหินเรียงราย เป็นทางเดินเข้าไปที่ตัวปราสาท

ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขาภู หรือเรียกกันว่าภูควาย ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ตัวปราสาทมี 2 จุดหลักๆ ด้านซ้าย และขวาอยู่ตรงข้ามกัน และมีทางขึ้นไปชมภาพสลักด้านบน

สำหรับผมรู้สึกไม่มีอะไรพิเศษ เพราะที่บ้านเราก็มีแบบนี้หลายที่ หลายที่ก็ใหญ่และสมบูรณ์กว่านี้เยอะเลย ค่าเข้าชมก็ถือว่าแพงพอสมควร แต่ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้มาเห็น

เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00
**ข้อแนะนำควรเตรียมร่ม หรือหมวกมาด้วย

ตลอดทางกลับจะเป็นเส้นทางขนานระหว่างแม่น้ำโขง แวะนั่งเล่นริมโขง บรรยากาศชิวๆ ไหว้พระ แล้วก็เดินทางกลับปากเซ

วัดหลวง ปากเซ

วัดหลวง ตั้งอยู่กลางเมืองปากเซ อยู่ห่างจากที่พักของเรา อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse) แค่นิดเดียว เดินไปก็ถึง

ตัววัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซโดน ที่ไหลมาลงแม่น้ำโขง วัดหลวงสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2478 เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญในเมืองปากเซ เป็นอีกสถานที่ที่น่าสนใจของปากเซ

ตลาดดาวเรือง (ดาวเฮือง)

ตลาดดาวเรือง หรือตลาดดาวเฮือง ในภาษาลาว ตั้งอยู่ถนนเส้นเดียวกับสะพานข้ามแม่น้ำโขง ที่นี่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในปากเซ แขวงจำปาสัก มีสินค้าแทบทุกชนิด หลากหลายมากๆ ตั้งแต่อาหาร ผลไม้ อาหารสด ของป่า สินค้านำเข้า ทอง เครื่องประดับ เสื้อผ้า ของป่า และอื่นๆเยอะมาก ใครที่ชอบเดินตลาดไม่ควรพลาด

**ข้อแนะนำ ตลาดนี้ไม่เหมาะสำหรับคนไฮโซ หรือโลกสวย นาจา**

ปากเซ ยามค่ำ

ตกยามเย็น เราก็ไม่ควรพลาด ออกมาทานข้าว นั่งชิวๆกัน ร้านอาหาร ร้านนั่งชิว แถวที่พักเราก็มีหลายร้าน อยู่ไม่ไกลเดินไปก็ถึง ร้านอาหารที่นี่ก็จะมีเยอะหน่อย เพราะเป็นโซนกลางเมืองปากเซ รอบๆที่พักก็จะมีร้านอาหารไทย ร้านอาหารฝรั่ง ร้านสะดวกซื้อ แต่เราไปทานร้านข้างๆ อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse) เป็นร้านอาหาร มีดนตรีสดให้ฟังด้วย อาหารหลากหลาย มีห้องแอร์ และชิวๆริมทาง อาหารมีหลากหลายดี ราคาก็เริ่มที่ 20,000 จนถึง 80,000 กีบ (Kip)

แน่นอนมาถึงเมืองลาวทั้งที ก็อยากลองชิมเบียร์ลาว ผมไม่ใช่คนชอบดื่มนะ แค่อยากลองชิมดูว่ามันต่างจากบ้านเราไหม ^^ ราคา 12,000 กีบ (Kip) (การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ความสามารถในการขับขี่…ลดลง ต่ำกว่า 18 ไม่แนะนำ นาจา)

**ข้อแนะนำ ร้านสะดวกซื้อ ปิดช่วง 21.00 ร้านอาหารปิดไม่เกิน 23.00 **

นี่แค่วันแรกในลาว ฝันดี พรุ่งนี้เราจะไปดูหมอกกัน ^^

Day 2

ชมหมอก รอบเมืองปากเซ ยามเช้า

ตื่นแต่เช้าขี่รถออกไปดูหมอก รอบเมืองปากเซ จะมีภูเขาสูงล้อมรอบ เราจะเห็นหมอกลอยเบาๆ ให้เห็นได้จากตัวเมืองปากเซ จุดที่แนะนำให้ไปชม ที่จะเห็นแน่นอน คือภูเขาทางไปปราสาทหินวัดพู ห่างจากปากเซ ราวๆ 7-8 กิโล
จริงๆเราสามารถดูได้จากเมืองปากเซเลย แต่จะเห็นน้อยกว่า ถ้าไปทางภูเขาทางไปปราสาทหินวัดพู ห่างจากปากเซ ราวๆ 7-8 กิโล จุดนี้เป็นช่องเขาสองลูก หมอกเยอะเลย ผมจำชื่อหมู่บ้านไม่ได้ แต่ห่างจากปากเซ ราวๆ 7-8 กิโล มาแล้วเห็นแน่นอน ขี่รถอยู่เห็นได้แต่ไกลเลย (ช่วงนี้ต้นหน้าฝน) สูดอากาศยามเช่้า สดชื่นมากๆ เห็นวิถีชีวิตคนลาว เรียบง่าย เด็กๆปั่นจักรยานออกไปเรียน อากาศดี มันดีต่อใจจริงๆ นี่แหละรางวัลของคนตื่นเช้า ^^

**ช่วงเวลาแนะนำ สำหรับชมหมอก 07.00 – 09.00**

ขากลับอย่าลืมแวะวัดพูสะเหลา

วัดพูสะเหลา (จุดชมวิวเมืองปากเซ)

วัดพูสะเหลา ตั้งอยู่บนภูเขาใหญ่ริมน้ำโขง ของเมืองปากเซ ห่างจากเมืองป่กเซราว 3-4 กิโล ทางลาดยางอย่างดีตลอดทาง อาจจะมีทางชันบ้าง รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ สามารถขึ้นได้ ทางเข้าวัดอยู่ใกล้กับสะพานข้ามน้ำโขง

เมื่อขึ้นไปถึงตัววัด จะมีพระพุทธรูปสีเหลือง องค์ใหญ่ปางสมาธิ ตั้งอยู่บนยอดเขา หันหน้าไปทางเมืองปากเซ เราสามารถมองเห็นองค์พระ ได้จากเมืองปากเซ

ภายในวัดก็จะมีจุดชมวิว ที่สามารถชมวิวเมือปากเซได้ หลายมุม

รอบๆวัดก็จะมีพระพุทธรูปสีเหลืองอร่าม ตั้งเรียงรายนับร้อยองค์ เป็นอีกสถานที่ ที่น่าสนใจของปากเซ

** วัดนี้เข้าชมฟรี ไม่เสียเงิน
** เปิดให้เข้าชมทุกวัน

จากนั้นก็เข้าเมืองปากเซ ไปหาอะไรหม่ำกันที่ปากเซ มื้อนี้ ชายสี่บะหมี่เกี่ยว มาถึงลาวเลยนะ ^^

หลังจากท้องอิ่มแล้ว จากนี้เราจะไปเที่ยวดินแดนน้ำตกกัน

น้ำตกผาส้วม

จุดหมายแรกของเรา คือ น้ำตกผาส้วม น้ำตกผาส้วม ตั้งอยู่ห่างจากเมืองปากเซ ไปทางทิสเนือ ราวๆ 34 กิโลเมตร การเดินทางสะดวก เป็นถนนลาดยางตลอดทาง

มาถึงเราต้องเสียค่าเข้าชม เป็นราคาชาวต่างชาติ ก็ถือว่าไม่แพง ราวๆ 40 กว่าบาท เงินไทย

ค่าเข้าชม
– ค่าจอดรถ 2,000 กีบ (Kip)
– ชาวต่างชาติ (คนไทย) 10,000 กีบ (Kip) / คน

จะมีทางเดินที่เป็นสะพานไม้ไผ่สาน ข้ามไป รู้สึกถึงความจังเกิ้ล ^^

เข้าไปด้านในจะถึงตัวน้ำตก น้ำตกผาส้วมเป็นน้ำตกขนาดกลาง เป็นน้ำตกที่ไม่สามารถลงเล่นได้ เพราะไม่มีแอ่งหรือจุดตื้นๆ เป็นทางน้ำไหลผ่าย เลยไม่เหมาะสำหรับลงเล่น แต่ก็เหมาะสำหรับนั่งชิวๆ รับละอองน้ำตก

ใกล้ๆกันนั้นยังมีน้ำตกอีก 1 แห่ง ห่างไปราว 100 เมตร

น้ำตกหมากแงว

ทางเดินเข้าไปก็จะเล็กหน่อย ข้ามสะพานไม้เข้าไป ด้านในมีบ้านพักด้วย

น้ำตกหมากแงว อยู่ใกล้ๆ กับน้ำน้ำตกผาส้วม เป็นน้ำตกเล็กๆสามารถลงเล่นได้ บรรยากาศเงียบสงบ ท่ามกลางป่า ท่ามกลางธรรมธรรมชาติ

ออกจากที่นี่เราจะเดินทางไปอีกโซน ไปเที่ยวน้ำตกต่อ แถวเขตเมืองปากซอง

น้ำตกตาดเยือง

น้ำตกตาดเยือง ตั้งอยู่ทางไปเมืองปากซอง ห่างจากเมืองปากเซ ราวๆ 36 กิโลเมตร ก่อนถึงเมืองปากซอง จะเห็นป้ายทางแยกเข้าขวามือ เลี้ยวเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวนี้ตก

เราต้องเสียค่าเข้าชม เป็นราคาชาวต่างชาติ ก็ถือว่าไม่แพง ราวๆ 40 กว่าบาท เงินไทย

ค่าเข้าชม
– ชาวต่างชาติ (คนไทย) 10,000 กีบ (Kip) / คน.

เข้าไปถึงตัวน้ำตก ต้องเดินลงไปด้านล่าง เพื่อไปจุดชมน้ำตก จุดชมวิวนี้ละอองน้ำมาแบบจัดเต็ม

น้ำตกตาดเยือง เป็นน้ำตกใหญ่ ไหลลงมาด้านล่าง จากที่สูง เป็นน้ำตกแฝด มันใหญ่มาก และสวยมากๆ น้ำตกไหลลงมากระทบกับด้านล่าง เปิดเป็นละอองน้ำ และลม มีสายรุ้งด้วย สวยงามมากๆ สดชื่นที่สุด

ด้านล่างน้ำตกยิ่งสุดยอดกว่า ละอองน้ำฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ สามาถลงเล่นน้ำได้ ฟินมากๆ ทั้งลม ทั้งละอองน้ำที่เข้ามาปะทะร่าง ยิ่งทำให้รู้สึกสดชื่นมากๆ เป็นน้ำตกที่สวยงาม และดีต่อใจมากๆ

เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00
** ถ้ามีเสื้อกันฝนมาด้วยจะดีมากๆ**

ขี่รถย้อนกลับไปทางเดิมไม่ไกล ห่างกันราวๆ 1 – 2 กิโล ก็จะไปเจอกับอีกน้ำตก

น้ำตกตาดฟาน

น้ำตกตาดฟาน ตั้งอยู่เขตเมืองปากซอง สปป. ลาว ห่างจากเมืองปากเซ ราวๆ 35 กิโลเมตร

เราต้องเสียค่าเข้าชม เป็นราคาชาวต่างชาติ

ค่าเข้าชม
– ชาวต่างชาติ (คนไทย) 10,000 กีบ (Kip) / คน.
– ค่าฝากรถ (จำไม่ได้)

มีค่าฝากรถ เราขี่มอเตอร์ไซค์ไป แต่ให้บัตรรถ 4 ล้อ มา ^^ มีความ งง ที่นี่เป็นพื้นที่ของ ตาดฟานรีสอร์ท ด้านในจะมีบ้านพักอยู่ใกล้จุดชมวิวด้วย

น้ำตกตาดฟาน เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดลาว มีความสูงประมาณ 120 เมตร สูงมากกก เป็นน้ำตกฝาแฝด น้ำตกที่ไหลมาทั้ง 2 สาย โดยสายน้ำทางซ้ายมือไหลมาจากห้วยผักกูด และทางขวามือเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติดงหัวสาว

ที่นี่เป็นจุดชมวิวมากกว่า เพราะด้านล่างเป็นเหวลึกที่น้ำตกไหลลงไป เราจะได้ยินเสียงน้ำตก ไหลลงไปด้านล่างกระแทกกับหินด้านล่างเสียงดังตลอดเวลา ที่ผมชอบคือ มันใหญ่มาก สูงมากๆ

เราจะสามารถเห็นหมอก ที่เคลื่อนขึ้นมาจากเหว สดชื่นมากๆ ป่าไม้เขียวขจี ชมน้ำตก อากาศเย็นสบายตลอดปี เป็นน้ำตกที่น่าสนใจแกแห่งของปากซอง สปป.ลาว

เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00

ก่อนกลับเราจะแวะอีกหนึ่งน้ำตก ก่อนเข้าไปเราก็แวะกินเฝอข้างทาง เพิ่มพลังกันก่อน มีความหิว ^^

น้ำตกตาดอีตู้

น้ำตกตาดอีตู้ ตั้งอยู่เขตเมืองปากซอง สปป. ลาว ห่างจากเมืองปากเซ ราวๆ 33 กิโลเมตร อยู่ไม่ไกลจาก น้ำตกตาดฟาน และน้ำตกตาดเยือง มากนัก ห่างกันราวๆ 3 กิโลเมตร ที่นี่เป็นรีสอร์ทของคนไทย ชือน้ำตกตาดอีตู้ รีสอร์ท

เราต้องเสียค่าเข้าชม ค่าเข้าชมที่นี่ถูกที่สุด ถูกมากๆ

ค่าเข้าชม 5,000 กีบ (Kip) / คน.

เราต้องเดินลงไปด้านล่าง เพื่อเข้าไปที่ตัวน้ำตก ด้านในมีน้ำตกทั้งหมด 3 ชั้น เราจะไปแค่ชั้นที่ใหญ่สุด เพราะเย็นแล้วมีเวลาน้อย

น้ำตกตาดอีตู้ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สวยงาม เงียบสงบมากๆ เพราะแทบไม่ค่อยมีคนเลย สามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำก็เย็นฝุดๆ ^^

เข้าไปใกล้ๆตัวน้ำตก เราจะเห็นละอองน้ำ ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ทำให้รู้สึดสดชื่นมากๆ เป็นน้ำตกที่ผมอยู่ลงเล่นมากๆ แต่ไม่มีเวลา เพราะใกล้จะเย็นแล้ว เลยเดินเล่นถ่ายรูป นั่งชิวๆกับธรรมชาติก่อนเดินทางกลับ

กลับมาถึงที่พักเย็นพอดี คืนรถมอเตอร์ไซค์ พรุ่งนี้เราจะเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักแต่เช้า เพื่อเดินทางไป นากระสัง

ตั๋วรถไปนากระสัง เราไม่ต้องไปหาไกลเลย ติดต่อสอบถามทจองล่วงหน้าที่เค้าเตอร์ อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse) มีจองรถให้ ไปได้ทุกที่ รถมารับถึงที่พักเลย ไม่ต้องไปต่อรถให้เสียเวลา ราคาก็ไม่แพงมาก

ค่ารถจากปากเซไปนากระสัง รวมค่าเรือไปดอนคอนแล้ว
– คนละ 70,000 กีบ (Kip)

จัดการจองล่วงหน้า 1 คืน เรียบร้อย แนะนำให้จองล่วงหน้า เพราะถ้าเต็มเดี๋ยวจะงานเข้า เราได้จัดการจองที่พักที่ดอนคอน ผ่าน Agoda ไว้เรียบร้อยแล้วเราจะไปพักที่ ปลาข่า เกสต์เฮาส์ (Pa Kha Guesthouse) คืนละ 300 กว่าบาท

วันนี้พักผ่อน พรุ่งนี้รถมารับ 08.00 ฝันดี ^^

Day 3

ปากเซ

วันที่ 3 ของเราใน สปป.ลาว

มื้อเช้าของเรา วันนี้เราจะไปทานที่โรงแรมลานคำ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน เฝอ กับข้าวเปียกตามเคย ^^

วันนี้เราจะไปเที่ยวกันที่นากะสัง จะมีรถมารับที่โรงแรม เวลา 8 โมงเช้า เป็นรถตู้คันเล็กๆ ฝรั่งเต็มคัน

ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ก็มาถึงที่นากะสัง

นากระสัง

รถจะมาส่งเราที่ท่ารถ ของนากะสังที่นี่เป็นศูนย์รวมรถที่จะไปตามที่ต่างๆ รวมทางรถไปอุบลด้วย

เราเลยตัดสินใจจองตั๋วรถกลับอุบลไว้เลย มีวันละ 1 เที่ยว คือช่วงเวลา 12.00

ค่ารถจากนากะสังไปอุบล
– คนละ 100,000 กีบ

ได้ตั๋วรถแล้ว ก็สอบถามคนขายตั๋วก็จะแนะนำว่าให้ไปขึ้นเรือไปดอนคอนที่ท่าเรือ ให้เราเดินไปตามทางจนสุดทางก็จะเจอแม่น้ำโขง และเลี้ยวขวาไป 30 เมตร ก็จะเจอท่าเรือ เราก็เอาใบเสร็จตั๋วรถ+เรือ ที่เราซื้อจาก อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse) ให้คนขายตั๋วดู เพราะตั๋วรถของเรารวมค่าเรือไปดอนคอนแล้ว ไม่ต้องจ่ายค่าเรือเพิ่ม ส่วนใครที่ไม่ได้ซื้อตั๋วรถพร้อมเรือ ก็สามารถมาซื้อตั๋วเรือได้ที่นี่

ค่าตั๋วเรือ
– ไปดอนเดด 15,000 กีบ
– ไปดอนคอน 20,000 กีบ

พร้อมแล้วก็ลงเรือออกเดินทางไปดอนคอน ล่องเรือไปตามลำน้ำโขงผ่านดอนต่างๆ ที่ได้รับขนานนามว่าดินแดนสี่พันดอน

สี่พันดอน

สี่พันดอน หมายถึงดินแดนที่มีเกาะแก่งต่างๆ ตามลำน้ำโขง กว่า 4 พันเกาะ ซึ่งเกาะต่างๆนี้คนลาวเรียกว่าดอน

เราจะเห็นวิถีชีวิตชาวบ้าน ตามลำน้ำโขงล่องเรือหาปลาน่าจะเป็นอาชีพหลักของคนที่นี่ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย

ใช้เวลานั่งเรือ 30 นาที ก็มาถึงดอนคอน

ดอนคอน

แล้วเราก็มาถึงตอนคอน ดอนคอนเป็นเกาะขนาดใหญ่ กลางลำน้ำโขงอยู่ใกล้ๆกับดอนเดด ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะไปพักที่ดอนเดดมากกว่า เพราะที่นั่นเป็นเหมือนศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เปรียบได้เหมือนกับถนนข้าวสารของบ้านเรา แต่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆกลับอยู่ที่ดอนคอนซึ่งเราเลยตัดสินใจพักที่ดอนคอนจะได้ไม่ต้องข้ามไปข้ามมา ถ้าใครกำลังหาที่พักก็แนะนำที่ดอนคอนเลยใกล้แหล่งท่องเที่ยวด้วย

บนดอนคอน จะมีร้านจักรยานให้เช่า และมอเตอร์ไซค์ให้เช่า สำหรับไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เราเลยตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซค์เพราะถ้าปั่นจักรยานคงไม่ไหว ไกลหลายกิโลหรือเหมือนกัน

ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ดอนคอน
– 70,000 กีบ (Kip) / วัน ราคาปกติ
– 50,000 กีบ (Kip) / วัน ราคาต่อรอง

ค่าเช่าจักรยานดอนคอน
– 10,000 กีบ (Kip) / วัน

ผมเช่ามอเตอร์ไซค์ ต่อรองได้ในราคา 50,000 กีบ (Kip) แนะนำให้ลองต่อรองราคาก่อน เพราะเรามาถึงที่นี่ก็เที่ยง แล้วบอกว่ามีเวลาใช้รถแค่ครึ่งวัน จะเอารถมาคืน 6 โมงเย็น อ้อนหน่อย ^^

จากนั้นเราก็ไปที่พักของเรา

ปลาข่า เกสต์เฮาส์ (Pa Kha Guesthouse)

ปลาข่า เกสต์เฮาส์ (Pa Kha Guesthouse) เป็นที่พักชิวๆริมน้ำ ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก ชิวสุดๆ เราจองผ่าน Agoda ราคาคืนละ 300 กว่าบาท ด้านหน้าห้องพัก จะมีระเบียงให้นั่งชิวชิว ชมวิว บรรยากาศดีมาก

เข้าไปด้านในห้องพัก เป็นห้องไม่ใหญ่มาก ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม มีมุ้งให้ ห้องน้ำสะอาดมีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย ส่วนตัวผมชอบนะ ดูแบบบ้านๆ เข้ากับบรรยากาศโดยรอบ

ห้องพักมีปลั๊กเดียว แนะนำให้เตรียมปลั๊กแยกมาด้วย โดยรวมโอเค ราคาไม่แพงมาก

ถ้าไม่รู้จะพักที่ไหน ก็ตามรีวิวเราได้

ปลาข่า เกสต์เฮาส์ (Pa Kha Guesthouse) > www.agoda.com/th-th/pa-kha-guesthouse/hotel/muang-khong-la.html
ค้นหาที่พักดอนคอน > www.agoda.com/th-th/don-khone/maps/muang-khong-la.html

เดี๋ยวจะออกไปเที่ยว รอบๆดอนคอนกัน ก่อนอื่นต้องเติมพลังงานก่อนมื้อนี้เฝอ เหมือนเดิม ^^

สะพาน ดอนคอน – ดอนเดด

สะพาน ดอนคอน – ดอนเดด สะพานนี้เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่าง ดอนคอน – ดอนเดด เป็นสะพานเก่าแก่ของที่นี่ นับเป็นศูนย์รวมที่เชื่อมทั้งสองเกาะเข้าหากัน ในตอนเย็นก็สามารถมานั่งชมพระอาทิตย์ตกได้

เราจะไปเที่ยวน้ำตกกันต่อ

น้ำตกหลี่ผี (ตาดโสมพะมิด)

น้ำตกหลี่ผี หรือตาดโสมพะมิด เป็นน้ำตกใหญ่ตั้งอยู่ห่างจาก ที่พักเรา หรือย่านชุมชน ราวๆ 2 กิโลเมตร ปั่นจักรยานไปได้ แต่ถ้ามอเตอร์ไซค์จะดีกว่า ^^

เราต้องเสียค่าเข้าชม เป็นราคาชาวต่างชาติ มีความแพงงง

ค่าเข้าชม
– ชาวต่างชาติ (คนไทย) 35,000 กีบ (Kip) / คน.

เมื่อเข้าไปด้านในก็จะเจอกับต้นไผ่ซึ่งมีรูปร่างแปลกตาเป็นเหมือนอุโมงค์ สวยงามมาก และก็จะเจอกับน้ำตก

น้ำตกหลี่ผี หรืออีกชื่อคือ ตาดโสมพะมิด แต่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ หลี่ผี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ที่ไหลมาจากแม่น้ำโขง ผ่านเกาะแก่งต่างๆ น้ำมหาศาลไหลผ่านน้ำตกนี้ เราจะได้ยินเสียงน้ำจำนวนมหาศาลไหลผ่านแก่งหินกระทบลงเบื้องล่างเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่มาก

ประวัติ
หลี่ผี คือการเอาคำ 2 คำ มารวมกัน นั่นคือ หลี่ + ผี หลี่คือเครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่ง ผี คือซากศพสมัยก่อน ซึ่งบริเวณน้ำตกหลี่ผีแห่งนี้จะมีกระแสน้ำไหลบ่าตกลงมาเบื้องล่าง บริเวณนี้กระแสน้ำจะไหลมารวมตัวกัน กลายเป็นแอ่งขนาดใหญ่ ทำให้ศพของทหารในสมัยสงครามอินโดจีนในสมัยก่อนจำนวนมากลอยมาติดในหลี่จับปลา ชาวลาวจึงเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า หลี่ผี

เราจะเห็นชาวบ้านที่ข้ามไปหาปลา ตรงกลางดอน ซึ่งมีคำถามหลายคำถามผุดขึ้นมาในหัว ว่าเขาข้ามไปได้ยังไง เพราะกระแสน้ำเเชี่ยวมาก เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงมาก

ออกจากที่นี่เราจะไปกันที่ หาดคลองใหญ่

หาดคลองใหญ่

หาดคลองใหญ่ เป็นห่ดเล็กๆ ของดอนคอน มีร้านอาหาร ฝรั้งชอบมานั่งชิวๆที่นี่

และเป็นจุดศูนย์รวมของเรือชาวที่จะพาไปชมปลาโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตรน้ำโขงด้วย เราก็ไม่พลาดที่จะไปดู

ชมปลาโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตรน้ำโขง

ปลาโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตรน้ำโขง หรือที่ชาวลาวเรียกปลาข่า (ได้ยินครั้งแรก มันมีด้วยหรอ ปลาโลมาในแม่น้ำโขง) ตอนแรกก็ลังเล กลัวไปไม่เจอ จะเสียเงินเปล่า แต่คนขับเรือบอกว่า ถ้าไม่เจอ ไม่เอาเงิน โอเคเลยจัดไป ^^

ค่าเรือชมปลาโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตรน้ำโขง หรือที่ชาวลาวเรียกปลาข่า
– เหมาลำละ 60,000 กีบ (Kip)

**ข้อเสียคือ เรือไม่มีหลังคา**

พร้อมแล้วออกเรือ แดดร้อนมาก ถ้าใครจะมาแนะนำช่วงเย็นนะ เราจะล่องไปตามลำน้ำโขง ไปจนถึงชายแดนเขมร เพราะที่นั่นเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ปลาโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตรน้ำโขง หรือที่ชาวลาวเรียกปลาข่า นั่งเรือชมความสวยงามของดอนต่างๆในแม่น้ำโขง

ใช้เวลา 30 นาทีก็มาถึง

จุดนี้เป็นเขตรอยต่อของประเทศลาวและประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของ ปลาโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตรน้ำโขง หรือที่ชาวลาวเรียกปลาข่า ซึ่งเป็นปลาโลมายังไม่กี่สายพันธุ์ที่สามารถอยู่ได้ในน้ำจืด

นั่งรออยู่พักใหญ่มองหาอยู่นานกลางแดด ไม่นานเจ้าปลาโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตรน้ำโขง หรือที่ชาวลาวเรียกปลาข่า ก็โผล่มาให้เราเห็นตัวเป็นๆ มาพร้อมกับเสียงหายใจที่พ่นน้ำออกมา ทำให้เราตื่นเต้นมากๆ นี่เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตที่ได้เจอปลาโลมา ครั้งแรกเคยเจอที่จังหวัดระนอง ชายแดนพม่า ในปากแม่น้ำกระบุรี
ส่วนครั้งนี้ได้มาเจอในแม่น้ำโขง ซึ่งไม่คิดว่าจะเจอ เพราะอยู่คนข้างไกลจากทะเลมาก เพราะคิดว่าส่วนใหญ่ปลาโลมาจะอยู่แต่ในทะเล การได้มาเจอครั้งนี้ เปิดประสบการณ์ใหม่ และเปลี่ยนความคิดผมไปเลย

เจ้าโลมา หรือปลาข่า อาศัยอยู่เป็นกลุ่ม ซึ่งกลุ่มนี้คาดว่าจะมีอยู่ 3 ตัว ว่ายป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณนี้ ขึ้นมาให้ได้เห็นหลายรอบเลยทีเดียว เป็นสิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในทริปนี้ ^^

อยากจะนั่งดูตอนนั้นนานๆ แต่สู้กับแดดไม่ไหวร้อนมาก เลยตัดสินใจกลับ

กลับมาถึงหาดคลองใหญ่ใกล้เย็นแล้วเราจะไปกันอีก 1 จุด นั่นคือ

น้ำตกคอนผาสร้อย

น้ำตกคอนผาสร้อย ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของดอนคอน ทางมาที่นี่ค่อนข้างลำบากเพราะเป็นทางแคบและค่อนข้างเปรี่ยว

เราต้องเดินข้ามสะพานแขวน ที่สร้างจากไม้ ด้านล่างเป็นน้ำไหลเชี่ยวมาก หวาดเสียวใช้ได้เลย

ที่นี่เป็นแหล่งหาปลาอีกแห่งที่สำคัญ คล้ายๆกับหลี่ผี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่พอกับกับหลี่ผี แต่ไม่สูงเท่าหลี่ผี จะเห็นชาวบ้านมาหาปลากันเยอะมาก เป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่มาก

นับว่าเป็นอีกสถานที่ที่สวยงาม และเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งของลาวใต้ ชมความสวยงามของน้ำตกเสร็จแล้ว ก็ขี่รถกลับดอนคอน

ดอนคอน ยามเย็น

ในตอนเย็นๆ เราจะเห็นวิถีชีวิตของชาวดอนคอน เด็กๆจะมารวมตัวกันที่สะพาน เล่นน้ำและกระโดดน้ำกัน เด็กที่นี่ว่ายน้ำเก่งมาก

และเรายังสามารถชมพระอาทิตย์ตกจากสะพานแห่งนี้ได้ด้วยบรรยากาศสนุกสนานเฮฮากับเด็กชาวลาว

ตกเย็นก็คืนรถมอเตอร์ไซค์ กลับไปนั่งจิบเบียร์ลาวชิวๆ ให้หายเนื่อยที่ที่พักของเรา

ร้านอาหารที่นี่ มีหลากหลายแต่ละร้านมีสไตล์ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเน้นสำหรับฝรั่ง แต่มีอยู่ร้านนึง ที่ผมอยากแนะนำ ไม่ได้รู้จักอะไรกับเค้าเป็นพิเศษ แต่ชอบรสชาติอาหาร และการบริการ

ร้านอาหารฟ้าใส

เป็นร้านอาหาร ที่ผมทานแล้วถูกปากอร่อยมาก หรือเป็นเพราะผมเหนื่อย หรือหิวก็ไม่แน่ใจ เมนูส่วนใหญ่จะเน้นไปทางอาหารฝรั่งที่เหลือจะเป็นอาหารอีสาน

ร้านนี้ยังขายตั๋วเรือ และทัวร์ด้วย เราเลยสอบถามการเดินทางไปน้ำตกคอนพะเพ็งซึ่งเราจะไปวันพรุ่งนี้เจ้าของร้านเลยเสนอราคาตั๋วเรือกลับนากะสัง + ค่ารถสามล้อไปเที่ยวน้ำตกคอนพะเพ็งให้ในราคา 45,000 กีบ / คน 2 คน 90,000 กีบ
ซึ่งเราเคยสอบถามรถสามล้อ ก่อนจะข้ามมาดอนคอน เขาคิดราคาคนละ 50000 กีบ / คน ถ้า 2 คนก็ 100,000 กีบแล้ว ยังไม่รวมค่าเรือด้วย

ตอนแรกก็ลังเลเลยยังไม่ตกลง เลยกลับไปดูภาพที่ถ่ายตารางราคาค่าเรือข้ามมาดอนคอน คนละ 20,000 กีบ ถ้าเหมารถไปคอนพะเพ็งต่างหากขออีกคนละ 5,000 กีบ รวมก็ 70,000 กีบ ต่อคน

แต่ร้านฟ้าใสให้เราคนละ 45,000 กีบ รวมค่าเรือ + ค่าเหมารถสามล้อไปน้ำตกคอนพะเพ็ง ซึ่งดูแล้วถูกกว่า เลยจัดการจองกับร้านนี้เลย

ค่าเรือจากดอนคอนไปนากะสัง + ค่าเหมารถไปชมน้ำตกคอนพะเพ็ง
– คนละ 45,000 กีบ

มีเรือออก 3 เวลา คือช่วง 6 โมงกว่า / 8 โมงกว่า / และ 11 โมงกว่า เราเลือกขึ้นเรือรอบ 8 โมงเพราะจะได้มีเวลาไปเที่ยวน้ำตกคอนพะเพ็ง จากนั้นก็กลับมาเพื่อขึ้นรถกลับอุบลตอนเที่ยง จะลงตัวพอดี

ลงตัวแล้วก็ไปนอนได้ ^^ ฝันดี ^^

Day 4

ดอนคอน ยามเช้า

ตื่นมายามเช้าวันที่ 4 ของเราในประเทศลาวอากาศสดชื่นสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด

ก่อน check out ออกจากที่พักไปเตรียมลงเรือที่ร้านฟ้าใสเพื่อกลับไปนากะสัง

นากระสัง

พอมาถึงที่ท่าเรือนากะสังก็จะมี พี่รถสามล้อมารอรับที่ท่าเรือ พี่เขาจะโทรติดต่อกันไว้แล้ว เราจะขึ้นรถสามล้อเพื่อไปยังน้ำตกคอนพะเพ็ง ระยะทางจากที่นี่ไปน้ำตกคอนพะเพ็งประมาณ 7-8 กิโล

น้ําตกคอนพะเพ็ง

น้ําตกคอนพะเพ็ง ตั้งอยู่ในนากระสัง เมืองโขง แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว เป็นน้ำตกใหญ่ กลางลำน้ำโขง ที่เราไม่ควรพลาด

เราต้องเสียค่าเข้าชม เป็นราคาชาวต่างชาติ มีความแพงงงที่สุดของทริปนี้

ค่าเข้าชม
– ชาวต่างชาติ (คนไทย) 55,000 กีบ (Kip) / คน.
– ค่านำรถเข้าจอด 10,000 กีบ (Kip)

เข้าไปด้านในน้ำตก จะมีจุดชมอยู่ 2 จุด

จุดชมน้ำตกจากด้านบน เป็นจุดแรกที่เราจะได้เจอ เราจะได้ยินเสียงน้ำจำนวนมหาศาล ไหลผ่านไปตามแก่งต่างๆ ลงสู่ด้านล่าง เป็นน้ำตกที่ใหญ่มากๆ

จากนั้นจะมีรถราง ที่จะบริการฟรี พานำไปที่ด้วนล่าง

จุดชมน้ำตกจากด้านล่าง จุดนนี้เป็นจุดชมวิวน้ำตกจากด้านล่าง เราจะเห็นความยิ่งใหญ่ของน้ำตกคอนพะเพ็ง มวลน้ำจำนวนมหารศาลที่ไหลลงมาด้านล่าง เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ

น้ำตกคอนพะเพ็งได้รับฉายาว่า “ไนแอการาแห่งเอเชีย” โดยคำว่า “คอน” หมายถึง “แก่ง” ส่วนคำว่า “พะเพ็ง” หมายถึง “พระจันทร์วันเพ็ญ” เป็นยอดน้ำตกอีกแห่งของลาว และใหญ่อันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้

ออกจากน้ําตกคอนพะเพ็งก็เดินทางกลับ รถสามล้อจะไปส่งเราที่ ที่ท่ารถนากระสัง

ท่ารถนากระสัง

เราจองรถไว้เรียบร้อยตั้งแต่วันที่มา เป็นรถไปอุบลบ้านเรา

ค่ารถจากนากะสังไปอุบล
– คนละ 100,000 กีบ

มีรถออกวันละครั้ง เวลา 12.00 น.

ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึง ปากเซ

ท่ารถทัวร์ ปากเซ

เราต้องมาเปลี่ยนรถที่ปากเซ รถตู้จะมาส่งเราที่ท่ารถทัวร์ ปากเซ เราก็เอาใบเสร็จที่ซื้อตั๋วไว้ พร้อมไาสสปอร์ตไปแสดงที่จุดขายตั๋ว จนท. ก็จะให้ตั๋วรถกับเรา รถทัวร์ออก 15.30 น. เป็นรถบัส

ขากลับก็แวะลงทำเรื่องผ่านแดนที่วังเต่า ชายแดนไทย – ลาว ตรงนี้เราต้องเสียเงินที่ ตม.ลาว อีกคนละ 100 บาท

ใช้เวลาอีก 2 ชั่วโมงก็ถึง บขส.อุบล และบินกลับ กทม.

จบเรียบร้อยครับ ทริปเที่ยวลาวใต้ ด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ ใช้งบไม่เยอะ นับว่าเป็นอีกทริปต่างประเทศที่น่าสนใจ อยู่ไม่ไกลจากไทย เดินทางง่าย ภาษาก็ไม่ยาก แหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ธรรมชาติสมบูรณ์ นับว่าเป็นทริปที่ต้องไปให้ได้ก่อนตาย อีกทริปเลย ^^
สำหรับใครที่ต้องการมาเที่ยว สปป.ลาว แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไปยังไง ตามรอยรีวิวเรามาได้เลยจ้า ข้อมูล การเดินทาง ที่พัก ที่เที่ยว ครบเลย อย่างที่ผมบอกไว้ตั้งแต่ต้น ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะแนะนำวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว แล้วเจอกันทริปต่อไป

Goodbye

สรุปค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของทริปนี้
– ค่าไป กทม. – ปากเซ 900 บาท
– ค่าผ่านแดน ตม ลาว 100 บาท
– ค่าสามล้อ ไปที่พักปากเซ 80 บาท
– ค่าที่พักปากเซ 600 + 500 บาท (2 คืน)
– ค่าเช่ามอเอตร์ไซค์ปากเซ 50,000 กีบ (Kip) / วัน
– ค่าซิมลาว 100 บาท
– ค่าเข้าปราสาทหินวัดพู + ค่าจอดรถ 50,000 + 5,000 กีบ (Kip)
– ค่าเข้าชมน้ำตกผาส้วม + ค่าจอดรถ 10,000 + 2,000 กีบ (Kip)
– ค่าเข้าชมน้ำตกตาดเยือง 10,000 กีบ (Kip)
– ค่าเข้าชมน้ำตกน้ำตกตาดฟาน 10,000 กีบ (Kip)
– ค่าเข้าชมน้ำตกตาดอีตู้ 5,000 กีบ (Kip)
– ค่ารถจากปากเซไปนากระสัง + ค่าเรือไปดอนคอนแล้ว 70,000 กีบ (Kip)
– ค่าที่พักดอนคอน 300 บาท
– ค่าเช่ามอเอตร์ไซค์ดอนคอน 50,000 กีบ (Kip) / วัน
– ค่าเข้าชม น้ำตกหลี่ผี (ตาดโสมพะมิด) 35,000 กีบ (Kip)
– ค่าเรือชมปลาโลมาอิรวดี น้ำโขงเหมาลำละ 60,000 กีบ (Kip)
– ค่าเรือจากดอนคอนไปนากะสัง + ค่าเหมารถไปชมน้ำตกคอนพะเพ็ง คนละ 45,000 กีบ
– ค่าเข้าชมน้ำน้ําตกคอนพะเพ็ง + ค่าจอดรถ 55,000 + 10,000 กีบ (Kip)
– ค่ารถจากนากะสังไปอุบล คนละ 100,000 กีบ (Kip)
– ค่าเครื่อง อุบล – กทม. 890 บาท (จองล่วงหน้า)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆขึ้นอยู่กับบุคคลเลยน๊าา (แต่ละคนใช้จ่ายไม่เหมือนกัน)
ปล. ค่าใช้จ่ายต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรเช็คก่อน

แปลงเงินไทย – ลาว > https://th.coinmill.com/LAK_THB.html

อลิสา เกสต์เฮาส์ (Alisa Guesthouse) > www.agoda.com/th-th/alisa-guesthouse/hotel/pakse-la.html
ค้นหาที่พักปากเซ > www.agoda.com/th-th/city/pakse-la.html

ปลาข่า เกสต์เฮาส์ (Pa Kha Guesthouse) > www.agoda.com/th-th/pa-kha-guesthouse/hotel/muang-khong-la.html
ค้นหาที่พักดอนคอน > www.agoda.com/th-th/don-khone/maps/muang-khong-la.html

จองตั๋วรถทัวร์ หมอชิต – ปากเซ (สปป.ลาว) แบบออนไลน์
www.pns-allthai.com/pns_bs/booking_trip_preview.php

บขส.
เบอร์โทร : 0-2872-1777
อีเมล : admin@pns-allthai.com
LINE@ : @bus999

อย่าติดตามรีวิวดีๆกับเรา ด้วยการกดติดตาม และกดเห็นโพสก่อน ได้ที่เพจ > Tripth ทริปไทยแลนด์ < รับรองว่าจะไม่พลาดทริปดีๆแน่นอนครับ ^^

อ่านรีวิวเที่ยววังเวียง > http://bit.ly/2wzkyI0

อ่านรีวิวเที่ยวหลวงพระบาง > http://bit.ly/2vONCGR

 

:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : : //ti/p/@miv2982t
Inbox : m.me/TripTH.con/

ภาพและข้อมูลโดย © TripTH

เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn @ TripTH