รีวิวไต้หวัน เที่ยวไต้หวัน 4 วัน 3 คืน แนะนำ ที่เที่ยวไต้หวัน สถานที่ท่องเที่ยวไต้หวัน เที่ยวประเทศไต้หวัน By Mcot Creative Travel
สวัสดีครับ เรามาเจอกันอีกตามเคย ผมเชื่อว่าหลายคนคงมีฝันที่อยากจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ผมเองก็เหมือนกัน และจะไปประเทศไหนดีล่ะ ทริปนี้ผมจะมาแนะนำ ประเทศหนึ่ง ที่อยู่ทางใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีสิ่งน่าสนใจมากมายเลย นั่นคือไต้หวัน
ผมได้รับเชิญจาก Mcot Creative Travel ให้ร่วมเดินทางไปที่ไต้หวัน กับกิจกรรม Miracle of taiwan ทริปนี้จะเดินทางเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน
ผมจะนำมารีวิวให้ดูกันว่า ไปยังไง ? เดินทางยังไง ? พักที่ไหน ? เที่ยวที่ไหน ? ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะสอนให้คุณเดินทางไปเที่ยว ^__^ (TripTH)
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2
สนใจติดต่อ หรือสอบถามข้อมูล การเดินทาง ได้ที่ Mcot Creative Travel
โทร 02-201-6269 , 02-201-6204
Facebook : www.facebook.com/mcotcreativetravel/
ก่อนเดินทาง
สิ่งที่ต้องเตรียม
– พาสสปอร์ต (ห้ามขาด ห้ามหายเลย)
– เสื้อกันหนาว (หน้าหนาว ต้องเตรียมไปเลย)
– เวลาไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ชม.
– แลกเงินเป็นเหรียญไต้หวัน New Taiwan Dollar (NTD)
– ภาษาที่นี่ใช้ภาษาจีนกลาง และมีภาษาฮกเกี้ยน เป็นภาษาถิ่น
– ระบบไฟฟ้าใช้แบบ 110 V แบบขาแบน (ที่ชาร์ทมือถือมือแปลงไฟในตัว ใช้ได้ทั่วโลก)
– พ็อคเก็ต WIFI ชีวิตขาดอะไรได้ แต่ขาด WIFI ไม่ได้ ^__^
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทาง ขาดอะไรเราไปหาเอาข้างหน้า ^__^
เดินทาง
Day 1
สุวรรณภูมิ
ก่อนเดินทางแนะนำให้แลกเงินไว้เลย ที่สุวรรณภูมิมีจุดแลกเงินเยอะแยะมากมายเลย มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปไต้หวันทุกวัน ทริปนี้เราเดินทางโดยสายการบินไทย ออกจากกรุงเทพฯ 07.20 น.
จากกรุงเทพไปใต้หวัน ใช้เวลาบิน 3 – 4 ชั่วโมง บินลัดฟ้ามาไม่นานเราก็มาถึง
สนามบินนานาชาติเถาหยวน (ไต้หวัน)
เดินออกจากเครื่องมาอากาศเปลี่ยนแฮะ มีความหนาววว สิ่งแรกที่แนะนำเลยก็คือ ซื้อซิมสำหรับใช้อินเทอร์เน็ต ชีวิตขาดอะไรได้ แต่ข่ดเน็ตม่ายด้าย อิอิ ที่สนามบินจะร้านขายซิมเยอะแยะมากมาย มีหลายแพ็คเก็จให้เลือกกัน 
ถ้าใครยังไม่แลกเงินจากไทยมา ก็มาแลกที่ไต้หวันได้ ออกจากสนามบิน เราก็จะออกเดินทางโดยรถบัส VIP ก่อนอื่นต้องไปหาอะไรทานกันก่อน
ภัตตาคาร City Suit Buffet
ภัตตาคาร City Suit Buffet อญู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติเถาหยวน เป็นภัตตาคารที่อยู่ในโรงแรม มื้อแรกที่ไต้หวันเราก็จัดเต็มกันเลย อยากชิมอาหารไต้หวัน มื้อแรกสมใจเลย มาเต็ม หอยเป๋าฮื้อ กุ้ง ซุป หมั่นโถว อาหารแบบจีน อาหารจะออกรสจืดๆหน่อย สไตล์ไต้หวัน กินข้าวที่นี่ต้องใช้ตะเกียบครัช ^__^ เคยเห็นแต่ในหนังจีน มาอยู่ที่นี่ ไม่เคยใช้ ก็ต้องใช้
นี่แค่มื้อแรกในไต้หวัน ^__^
จากนั้นก็ออกเดินทางไปเมืองผูหลี่ สองข้างทางเราจะเห็นถึงความเจริญก้าวหน้าของไต้หวัน บรรยากาศสองข้างทางรู้สึกแปลกตาไป จากที่เคยเห็นในบ้านเรา ใช้เวลาเดินทางราวๆ 3 ชั่วโมง
เมืองผูหลี่ ตั้งอยู่ทางภาคกลางของไตหวัน เป็นเมืองอุตสาหกรรมและเมืองท่าเรือที่สำคัญของไตหวันเป็น เมืองที่ไดชื่อว่า น่าอยู่ที่สุดในไตหวัน เนื่องจากเป็นเมืองที่มีอากาศบริสุทธิ์จากการที่มีภูเขาสูง
ล้อมรอบแปดทิศ นอกจากอากาศดีและยังเป็นแหล่งน้ำแร่ที่ดีที่สุดของไต้หวันอีกด้วย
วัดจงไถ่ซานซื่อ
เรามาถึงวัดนี้ก็เกือบเย็นแล้ว วัดนี้เปิดถึง 5 โมงเย็น แค่เห็นจากระยะไกลก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ วัดจงไถฉาน วัดนี้ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสามของโลกรองจากนครวาติกัน และวัดมหายานที่ธิเบต อีกทั้งยังเป็นวัดที่มีการออกแบบใหทันสมัยที่สุดในไต้หวัน มีรูปทรงคล้ายฐานยิงจรวดที่ความสูง150 ม. ออกแบบโดยนาย C.Y. Lee เป็นวิศวกรคนเดียวกับผู้ที่ออกแบบตึกไทเป 101 โดยใช้หินแกรนิตมาเป็นโครงสร้างที่แข็งแกร่ง 
เข้าไปด้านในเราจะได้เห็นถึงความอลังกาฬ ประตูบานขนาดใหญ่มากกกกก สูงอย่างกะตึก เสาขนาดใหญ่แกะสลักเป็นรูปเทพเจ้า ด้วยความวิจิตร งดงาม โอ่อ่า นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของวัดนี้ที่เปิดให้เข้าชม 
ในปี ค.ศ.1999 ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ที่เมืองหนานโถวแผ่นดินแยกและเกิดธรณีสูบกลืนหมู่บ้านหายไป แต่วัดจงไถฉานซื่อกลับไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งเป็นการสร้างความศรัทธาใหกับผู้คนในไตหวันอย่างมาก 
นับว่า เป็นวัดที่ใหญ่โต ทันสมัย ศักดิ์สิทธิ์มากๆ อีกแห่งของไต้หวัน ออกเดินทางไปต่อไปยังที่พัก
โรงแรม Tai Yi Red Maple Resort
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอด เป็นโรงแรมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมมากๆ ห้องพักกว้างขวาง โรงแรมมีพื้นที่กว้างมาก จุดเด่นของโรงแรมนี้ คือมีห้องแช่น้ำแร่ภายในห้องพักเลย แบบส่วนตัว นอนแช่ได้อย่างฟินๆเลย 
ที่ห้องอาหารของโรงแรมจะการแสดงพื้นบ้านของชนเผ่าต่างๆ ในไต้หวัน มาแสดงบนเวที ให้ชมกัน นั่งทานอาหารไป ชมการแสดงไป ได้เห็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนไต้หวันไปในตัว 
นี่แค่วันแรกในไต้หวัน เดี๋ยวมีต่อครัช ^__^
Day 2
โรงแรม Tai Yi Red Maple Resort
เช้าที่สดใส มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ บุฟเฟ่แบบนี้ นี้ต้องมาเต็ม ^__^ บรรยากาศยามเช้ารอบๆโรงแรม อากาศหนาว รอบๆมีสวนดอกไม้ ให้เข้าชมได้ บรรยากาศหมอกลง ให้ความรู้สึกสดชื่นมากๆ อากาศดี ชอบ ^__^ 
จุดหมายแรกของเราในวันนี้คือ
วัดเหวินหวู่
วัดเหวินหวู่ ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาปสุริยันจันทรา เป็นวัดที่สวยงาม ด้านหนาวัดยังมีสิงโตหินอ่อน 2 ตัว ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด ซึ่งมีมลูค่าตัวละ 1 ล้านเหรียญไต้หวัน โอ้โห จะแพงไปไหน ^__^ 
มีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากๆ ด้านในเราสามารถเข้าไปนมัสการศาลเจ้าขงเบ้ง และศาลเจ้ากวนอู ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าแห่งภูมิปัญญาและเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ที่อยู่ภายในวัดแห่งนี้ 
เป็นวัดใหญ่แล้วมีวิวที่สวยมาก ขึ้นไปด้านบนสุดของวัดยังสามารถชมวิวทะเลสาปจากด้านบนได้อีกด้วย 
ออกจากวัดเหวินหวู่ เราไปยังยังจุดหมายต่อไปซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก นั่นคือ
วัดพระถั๋งซัมจั๋ง
หลายคนคงคุ้นชื่อของพระถังซัมจั๋ง จากหนังเรื่องไซอื๋ว ที่ทำเป็นหนังให้ชมกัน แต่พระถังซัมจั๋งในเรื่องจริงๆก็มีแต่ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์เหมือนในหนังที่อัญเชิญพระไตรปิฎก จากอินเดีย ไปจีน 
ที่วัดพระถังซัมจั๋ง จะมีพระอัฐิของพระถังซัมจั๋ง อยู่ภายในวัด ที่อัญเชิญมาจากชมพูทวีป
ด้านบนยังมีจุดชมวิว ที่สามารถนั่งเล่นกินลมชมวิวทะเลสาปได้ 
ท่าเรือ Yidashao ทะเลสาปสริยันจันทรา
ท่าเรือ Yidashao ที่นี่เป็นท่าเรือของทะเลสาปสริยันจันทรา เป็นเมืองที่คึกคักมากๆ มีอาหารการกินเยอะแยะมากมาย เป็นแหล่งที่มีสตรีทฟู๊ด เพียบ ตามสองข้างทาง 
แวะชิมปลาประธานาธิบดี ที่ภัตตาคาร ท่าเรือ Yidashao ก่อนลงเรือล่องทะเลสาป ต้องแวะทานข้าวก่อน เมนูแนะนำของที่นี่ คือปลาประธานาธิบดี ที่เป็นปลาที่มีเพียบที่ ทะเลสาปสริยันจันทรา แห่งนี้เท่านั้น เป็นปลาที่ประธานาธิบดีเจียงไคเช็ค ของไต้หวัน ชอบกินมาก จนได้ชื่อว่า ปลาที่ประธานาธิบดี 
ท่องอิ่มแล้วก็เดินทางต่อ เราจะไปลงเรือกัน ^__^
ล่องเรือทะเลสาปสุริยันจันทรา
มาเที่ยวไต้หวันต้องไม่ควรพลาดการนั่งเรือชมทะเลสาปสุริยันจันทรา เราไปขึ้นเรือ ทะเลสาบสุริยันจันทราเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีความสวยงามมากๆ มีน้ำมีเป็นสีฟ้า ใส มีภูเขาล้อมรอบสลับซับซ้อน อยู่รอบทะเลสาป
มีลักษณะภูมิประเทศที่โดดเด่น ทำให้ตัวทะเลสาบมองแล้วคล้ายพระอาทิตย์และ พระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นที่มาของนามอันไพเราะว่า สุริยันจันทรา 
ทะเลสาบมีความยาวประมาณ 33 กิโลเมตร เราจะล่องเรือไปตามทะเลสาป ชมวิวรอบๆ ทะเลสาป ชมเมืองต่างๆ บรรยากาศดี อากาศดี ฟินเลย ^__^ 
เกาะลาลู (Lalu) เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่กลางทะเลสาปสริยันจันทรา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าบริเวณนั้น
เราจะแวะ 1 จุด คือ วัดพระถังซัมจั๋ง (อีก 1 แห่ง) ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาป ที่นี่เป็นจุดที่เรือทุกลำจะต้องมาแวะ เราต้องเดินเท้าขึ้นไปด้านบน เพื่อขึ้นไปยังวัด ด้านบนจะมีก้อนหิน ที่แกะสลักเป็นภาษาจีน ที่เป็นจุดเด่นของ ที่นี่ มีคนต่อแถวรอถ่ายรูปเป็นสิบ และต้องมานมัสการศาลพระถังซัมจั๋งบนนี้ 
ออกจากที่นี่ กลับไปที่่ท่าเรือ Yidashao เดี๋ยวเราจะแวะไปชิมชา
ชิมชาอู่หลง
ชิมชาอูหลง ชาที่ขึ้นชื่อที่สุดของไต้หวัน ที่มีรสชาติหอม และยังมีสรรพคุณละลายไขมัน และเป็นของฝากที่คนไทยนิยมมากๆชนิดหนึ่ง เปฌนชาคุณภาพ ที่น่าสนใจมากๆ มีวิธีการ ซับซ้อน ในการชง การดื่ม ทำให้น่าสนใจมากๆ 
ออกจากที่นี่ เราจะเดินทางไปยังเมืองไทจง
เมืองไทจง
เมืองไทจง ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของเกาะไต้หวัน เป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 3 ของมณฑลไตหวัน ปัจจุบันเป็นศูนยวัฒนธรรมการศึกษาเศรษฐกิจและการคมนาคมในภาคกลางของเกาะไตหวัน เมืองไทจงเป็นเมืองที่สะอาดเรียบร้อย
จนได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในไต้หวัน
เฟิงเจี่ยไนท์มาร์เก็ต
ที่เมืองไทจงแห่งนี้มีตลาด ย่านการค้าที่มีชื่อเสียงมากๆนั้นคือ เฟิงเจี่ยไนท์มาร์เกต เป็นตลาดคนเดินมีร้านค้าครบครันจำหน่ายสินค้าเยอะมากกก สินค้าแบรนด์เนมเพียบ และอาหารทานเล่นสไตล์ไต้หวัน เป็นย่านที่คึกคักมากๆ บรรยากาศอย่างกับอยู่ชินจุกุ ^__^ 
เรื่องอาหารการกิน ของบอกว่า เพียบเลย เต็มสองข้างทาง มีอาหารทั้งซอย เต็มสองข้างทาง เมนูที่ขึ้นชื่อของที่นี่ได้แก่ ชานมไข่มุก เต้าหู้เหม็น เดินไปกินไป ชมวิถีชีวิตของชาวไต้หวัน 
เป็ดปักกิ่ง เมืองไทจง
ที่เมืองนี้ มีภัตตาคารเป็ดปักกิ่ง ที่ขึ้นชื่อมากๆ ต้องมาต่อคิวรอ ร้านไม่ใหญ่มาก มีคนเข้ามารอคิวตลอด เมนูเด็ดของร้านนี้คือเป็ดปักกิ่ง เป็นเมนูที่ทุกคนที่เข้ามาร้านนี้ต้องสั่ง เป็นทั้งตัว หั่นให้ดูกันแบบทั้งตัว ส่วนอื่นๆ ก็ให้เชฟเอาไปปรุงเป็นเมนูอื่นๆได้ 
ขอบอกว่าเป็นเมนูที่ผมติดใจที่สุดในไต้หวัน อร่อยมากๆ ต้องมาลองกัน ^__^ อิ่มแล้วก็เข้าที่พักกัน
โรงแรมมิราจ (Mirage Hotel)
คืนที่ 2 ในไต้หวัน คืนนี้เราพักที่ โรงแรมมิราจ โรงแรมนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไทจง อยู่ในย่านศูนย์การค้ากลางเมืองไทจง เป็น โรงแรมระดับ 4 ดาว เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในทริปนี้เลยก็ว่าได้ ห้องกว้างมากกก 
นอนก่อนพรุ่งนี้ เราจะเข้าไปเมืองหลวงของไต้หวัน
Day 3
ไทเป เมืองใหญ่ที่สุด และเป็นเมืองหลวงของไต้หวัน ที่นี่เป็นศูนยก์ลางทางด้านต่างๆของไต้หวัน ทั้งการศึกษา การค้า อุตสาหกรรม เทคโนโลยีหรือวัฒนธรรม เมืองไทเป ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเกาะไต้หวัน มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 3 ล้านคน ไทเป เป็นเมืองหลวงที่มีการเติบโตเร็วมาก เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง 
แวะชิม พายสัปปะรด ไต้หวัน
แน่นอนว่าของฝากที่ไม่ควรพลาดของไต้หวันคือสัปปะรด ที่ที่เราจะไปนั้นเป็นโรงงานพายสัปปะรดเลย ก่อนเข้าไปนั้น จะมีการสร้างสตอรี่ให้น่าสนใจ ให้ดูความเป็นมาต่างๆของพายสัปปะรด
เราจะได้เข้าไปชมการผลิต ขั้นตอนต่างๆ เห็นกันแบบสดๆ ที่เด็ดคือจะมีการเอาผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาให้เราชิม เยอะแยะมากมาย ชิมกันจนอิ่มเลยก็ว่าได้ ถูกใจสายแด๊กเลย ^__^
พายสับปะรดไต้หวันไม่เหมือนพาย สับปะรดของที่ไทยเรา พายที่นี่จะมีส่วนผสมของ เนย,แป้ง.ไข่,น้ำตาล,สับปะรด ในไต้หวัน มีชื่อจีนวา (เฟิ้ง หรี่ ซู) รสชาติกจ็ะมีความหวาน มันของเนยแล้วก็จะมีรสเปรี้ยวนิดๆ ของสับปะรด เป็นขนนมที่ขึ้นชื่อ ของเมืองไต้หวัน ที่ควรซื้อกลับบ้านเป็นของฝาก ผมเองก็โดนไป 1 กล่อง แต่ของเค้าอร่อยจริง ไม่งั่นไม่ซื้อ ต้องมาลอง ^__^
ออกจากโรงงานพายสัปปะรด ไปยังจุดหมายต่อไป
วัดหลงซาน
วัดหลงซานเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในไทเป เข้าไปด้านในวัดเราจะเจอกับผลงานการตกแต่งเชิงสถาปัตยกรรมอันละเอียดและปราณีตของจีนได้ที่นี่ การจะเข้าไปด้านในเราจะต้องผ่านประตูทางเข้า 3 ประตู ที่สร้างขึ้นและตกแต่งอย่างสวยงาม
นำทางไปสู่สนามหญ้าที่มีหินถ่วง เรืออายุเก่าแก่เรียงรายอยข้างๆหินเหล่านี้ถูกใช้งานร่วมกับเรือลำใหญ่ที่เคยครั้งหนึ่งเคยขนย้ายผู้อพยพเข้ามานั่นเอง 
ด้านในวัดจะมีจุดให้ไหว้อยู่ 3 จุด ใหญ่ๆ ส่วนด้านในสุดเป็นศาลเทพเจ้า แทบทุกองค์ของจีนที่เราจะนึกได้ ที่นี่มีครบเลย เทพเจ้าแห่งเงินทอง หรือขอเนื้อคู่ก็มี สั่งเกตุเทพเจ้าองค์ไหนมีคนไหว้เยอะๆ ตรงนั้นแหละ ขอเนื้อคู่ ^__^ 
ไหว้พระเสร็จเราก็จะไปหาอะไรทานกัน ^__^
สุกี้ชาบูหม้อเดียว
ร้านนี้เป็นร้านสุกี้ชาบูหม้อเดียว ตั้งอยู่กลางกรุงไทเป เป็นสุกี้แบบบุฟเฟ่หม้อเดียว คือเป็นหม้อของใครของมันเลย ของเยอะมาก มีทุกอย่างให้เลือกสรรค์ ^__^ 
ท้องอิ่มแล้วเราก็ออกไปช็อปกันต่อ
ซีเหมินติง
ซีเหมินติง ที่นี่เปรียบเหมือนกับสยามสแควร์ของบ้านเรา เป็นสถานที่ช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไทเป เป็นศูนย์กลางการค้า ย่านช็อปปิ้ง แฟชั่น ของเมืองนี้ มีร้านค้า, ร้านอาหารต่างๆ เยอะแยะมากมาย ร้านรองเท้าเพียบ รองเท้าไต้หวันขึ้นชื่อเรื่องความถูกอยู่แล้ว 
เป็นอีกหนึ่งแหล่งช็อปปิ้งที่ไม่ควรพลาด ^__^
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค ตั้งอยู่กลางกรุงไทเป ที่นี่เป็นสวนสาธารณะ ของคนไทเป และเป็นหอรําลึกเจียงไคเช็ก ขนาบด้วยสวนแบบจีนโบราณและโถงวัฒนธรรมประจำชาติ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงหนึ่งในผู้นำคนสำคัญที่สุดของโลกในช่วงศตวรรษที่ 20
สวนที่นี่ใหญ่อลังกาฬมาก ตัวอาคารสร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาว มุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีฟ้าตัดกับฉากหลังสีแดง ทั้งสามสีนี้เปรียบเสมือนตัวแทนแห่งธงชาติและคุณค่าของ อิสรภาพ ภราดรภาพ และความเสมอภาค ภายนอกหอรําลึกมีสวนและสนามขนาดใหญ่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทเปให้นักท่องเที่ยว ได้พักผ่อนหย่อนใจ 
ภายใจจะมีพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงประวัติ ความเป็นมาของประเทศไต้หวัน และประวัติของเจียงไคเช็ค ทั้งข้าวของเครื่องใช้ ห้องทำงาน รถกันกระสุน และอื่นๆอีกมากมายให้ได้เข้าชม 
ในส่วนใจกลางของสวนนี้จะมีรูปปั้นของเจียงไคเช็ค ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และจะมีทหารคอยเฝ้า ตลอด 24 ชั่วโมง และทหารจะยืนนิ่งๆ แบบนิ่งมากๆ ตลอด 1 ชั่วโมง ส่วนที่เป็นไฮไลต์ การเปลี่ยนเวรยาม ที่ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไต้หวันอย่างมาก 
มีความเป๊ะมากๆ อลังกาฬ ความสามารถสุดๆ อยากให้มาลองดูกัน ผมนี่อึ้งไปเลย แต่ละท่า สุดยอดมาก ต้องหาเวลามาชมกัน ^__^ 
ออกจากอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค เราจะไปยังจะไฮไลต์ของไต้หวัน นั่นคือ
ตึกไทเป 101
แล้วเราก็มาถึงไฮไลต์ของทริปนี้ ตึกไทเป 101 สัญลักษณ์แห่งเมืองไทเป แค่เห็นจากระยะไกล ก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่มากๆ ตึกไทเป 101 มีความสูงถึง 509 เมตร มีจํานวนทั้งหมด 101 ชั้น (จุดชมวิวชั้น 89) เรียกได้ว่า เป็นความภูมิใจของคนไต้หวันเลยก็ว่าได้
การก่อสร้างตัวอาคารเขาได้แรงบันดาลใจมาจากเจดีย์ของจีนและเป็น ปล้องคล้ายไม้ไผ่ จำนวน 8 ปล้อง และส่วนที่ยื่นออกมาเป็นปล้อง ทุกๆ 8 ชั้นจริงๆแล้วส่วนที่ยื่นออกมา ก็ด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อความปลอดภัยมั่นคงทางสถาปัตยกรรม แต่ในทางฮวงจุ้ยแล้ว เลข 8 ถือเป็นเลขมงคลของคนจีน ที่แทนความร่ำรวยรุ่งเรื่อง โชคลาภ
เข้าไปด้านในของตึกจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ที่เป็นที่นิยมของชาวไทเปและ ชาวต่างชาติมีห้างสรรพสินค้าและช้อปปิ้งมอลล์อยู่ถึงสิบแห่งบริเวณนี้เป็นแหล่ง ช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไต้หวัน เปรียบเสมือนจิมซาจุ่ยของฮ่องกง หรือพารากอนของกรุงเทพฯเลยทีเดียว
ตึกไทเป101 เคยติดอันดับเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกในช่วงปี 2547 – 2550 ก็ยังเคยได้ครอบรอบครองสถิติลิฟท์ที่ เร็วที่สุดด้วย มีความเร็วถึง 60.6 กม./ชม.ก่อนที่ตึก Burj Khalifa ของ Dubai จะมาแย่งชิงตำแหน่งไปในปี 2550 ลิฟท์จากชั้นล่างขึ้นไปชั้น 89 ขอบอกว่าใช้เวลาไม่ถึง 40 วินาที ไวมาก เข้าไปด้านในนี้รู้สึกเร็วมากๆ มีนาฬากาจับเวลาโชว์ในลิฟต์เลย
ด้านบนที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในไทเป วิวยามค่ำคืนสวยงาม อลังกาฬมาก ขึ้นไปด้านบนดาดฟ้า จะมีจุดชมวิวอีกแห่ง ด้านบนจะมีลมพัดตลอดเวลา วิวสวย อากาศดี ^__^ 
ลงไปชั้นที่ 88 ภายในตัวอาคารมีลูกตุ้มขนาดใหญ่หนักกว่า 900 ตัน ทำหน้าที่กั้นการสั่นสะเทือนเวลาที่เกิดแผ่นดินไหว ลูกใหญ่มากกกก
สมเป็นตึกที่มีความทันสมัย ติดอันดับโลกเลย เดี๋ยวเราจะไปทานอาหารร้านดัง ด้านล่างตึกไทเป101
ติ่น ไท่ ฟง เสี่ยวหลงเปา
ร้านนี้ตั้งอยู่ในตึกไทเป101 เป็นที่ร้านที่เขาบอกว่าเป็น สุดยอดของ เสี่ยวหลงเปา คนรอคิวเยอะมากก ต้องจองล่วงหน้า กันเลยทีเดียว เป็นร้านใหญ่ เมนูเด็ด ขึ้นชื่อที่สุดก็ต้องเสี่ยวหลงเปา ต้องลองมาชิมกัน ^__^ 
ในไทเปยังมีอีก ตลาดอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด
ซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต
ที่นี่เป็นตลาดกลางคืนที่คึกคักและน่าสนใจมากๆ ซื่อหลินไนท์มาร์เกต เป็นตลาดคนเดินมีร้านค้าครบครัน ทั้ง สินค้าพื้นเมือง เสื้อผ้ากระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ แยะแยะมากมาย 
ของกินก็เยอะมาก สตรีทฟู๊ด อาหารทานเล่นสไตลไต้หวัน เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ได้แก่ เต้าหู้เหม็น ไก่ทอด น้ำมะละกอปั่น และอื่น ๆ อีกมากมาย เพียบเลย 
ช็อปหนักมาก กลับไปที่พัก
La Maison Hotel
วันนี้เราพักที่โรงแรม La Maison Hotel เป็นโรงแรม ที่อยู่แถวๆ ชานกรุงไทเป เป็นที่พักไม่ใหญ่มาก สบายๆ
วันนี้พอเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ จะไปแถมทะเลบ้าง ^__^
Day 4
วันนี้เราจะไปที่ นครจีหลง เป็นเมืองท่าสำคัญ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะไต้หวัน
วนอุทยานหินเย่หลิ่ว
วนอุทยานหินเย่หลิ่ว (Yehliu Geopark) ตั้งอยู่ริมทะเล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะไต้หวัน ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกที่ มีลักษณะเป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเลการกัดกร่อนของน้ำทะเลลมทะเล จนหินเกิดเป็นรูปร่างต่าง ๆ ที่สวยงาม ดูแปลกตามากๆ เช่น หินเศียรราชินี และรองเท้าเทพธิดา รูปเทียน ดอกเห็ดเต้าหู้รังผึ้ง ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ซึ่งมีชื่อเสียงทั่วทั้งเกาะไต้หวัน และทั่วโลกอีกด้วย 
เที่ยวเสร็จ ท้องก็หิวสิ ^__^
เมนูพิเศษอาหารซีฟู๊ด
มื้อเที่ยงวันนี้ เราจะมาลองทานอาหารทะเล ร้านนี้ตั้งอยู่แถวๆ วนอุทยานหินเย่หลิ่ว เป็นร้านอาหารซีฟู๊ด ที่สดมากๆ จากทะเลจริงๆ อยู่ใกล้ท่าเรือ ใกล้ทะเล หอยเป่าฮื้อ เสิร์ฟกันแบบยังดิ้นอยู่เลย สดจริง ไรจริง ^__^
ออกจากที่นี่เราจะไปอีกจุดที่น่าสนใจมาก นั่นคือ
หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น
หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen)ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่น่าสนใจมากๆ ตั้งอยู่บนเขา เป็นแหล่งเหมืองทองที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ สมัยกษัตริย์กวงสวี้แห่งราชวงศ์ชอง จึงมีนักขุดทองจำนวนมากพาพากันมาขุดทองที่นี่การโหมขุดทองและแร่ธาตุต่างๆ ทำให้จำนวน แร่ลดลงอย่างน่าใจหาย ผู้คนพากันอพยพย้ายออกไป เหลือทิ้งไว้พียงแต่ความทรงจำ
ที่จื่วเฟิ่นเคยใช้เป็นฉากในการถ่ายทำหนังหลายเรื่อง เช่น ” เปยฉิงเฉิงชื่อ”และ”อู๋เหยียนเตอะซันซิว” ทัศนียภาพภูเขาที่สวยงามในฉากภาพยนตร์ ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยว เดินทางมาชื่นชมความงดงามของที่นี่
ที่นี่ยังมีถนนคนเดินเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไต้หวัน เดินช็อปซื้อของกินที่แปลกตา ของกินเพียบ ที่นี่ยังมีบัวลอยเผือกที่โด่งดังที่สุดในไต้หวัน เนื่องจากมีรสชาติแบบดั้งเดิมไม่เหมือนที่ไหน ท่านสามารถซื้อกลับมาเป็น ของฝากได้นอกจากนี้ยังมีสินค้าอีกมากมาย กับถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในหม่บ้านจิ่วเฟิ่น 
ผมอยากแนะนำอันนี้เลย ไอติมถั่วม้วน ไม่มีที่ไหน มีที่นี่ที่เดียว อร่อยมากๆ ต้องมาลอง เป็นการเอาไอติมผสมกับถ่าวตัด แล้วเอามาม้วน หวานมัน หอม อร่อยจริงๆ ต้องมาลอง 
ที่นี่ยังมีจุดชมวิวที่สวยงามมากๆ เป็นหมู่บ้านที่มีพร้อมทุกอย่างเลย สวยงาม มีความเป็นมาที่น่าสนใจ ต้องลองมาสัมผัส หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น ^__^ 
ใกล้เวลากลับแล้ว ออกเดินทางจากจิ่วเฟิ่น ไปยังสนามบิน เตรียมตัวกลับไทย
สนามบินนานาชาติเถาหยวน (ไต้หวัน)
ออกเดินทางโดยสายการบินไทย กลับไปสุวรรณภูมิ ใช้เวลาเดินทางราวๆ 3.5 ชัวโมง ถึงสุวรรณภูมิ
จบเรียบร้อยครับ ทริปไต้หวัน 4 วัน 3 คืน ได้เห็นอะไรเยอะแยะมากมาย ที่นี่มีอะไรน่าสนใจอยู่มากมาย นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของไต้หวัน ผมต้องขอขอบคุณ Mcot Creative Travel จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ให้ เป็นทริปที่สนุกมากๆ สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวใต้หวัน แต่ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ไปตามรอยรีวิวเราได้นะ ^__^ แต่ละที่ไม่ผิดหวังแน่นอน
เดี๋ยวรอชมทริปไต้หวันแบบเต็มทางทีวีได้ทาง รายการ เลดี้ไนน์ ทางช่อง 9 MCOT HD. และรายการ Smart Junior ทางช่อง 14 MCOT Family แล้วคุณจะหลงรักไต้หวัน (Miracle of taiwan)
Goodbye
สนใจติดต่อ หรือสอบถามข้อมูล การเดินทาง ได้ที่
Mcot Creative Travel
สอบถามได้ที่ 02-201-6269 , 02-201-6204
Facebook : www.facebook.com/mcotcreativetravel/
ติดตามชมทริปไต้หวันทางรายการ
Smart junior ทางช่อง 14 MCOT Family
Facebook : www.facebook.com/smartjuniorofficial/
เลดี้ไนน์ ทางช่อง 9 MCOT HD.
Facebook : www.facebook.com/ladynineofficial/
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2
ภาพและข้อมูลโดย © TripTH
เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn @ TripTH
