รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ ด้วยตัวเอง 4 วัน 3 คืน แบบไม่เก่งภาษา แนะนำ การเดินทางเที่ยวสิงคโปร์ สถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์ เที่ยวครบทุกจุดสำคัญ ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่ไม่ควรพลาด
สวัสดีครับ เรามาเจอกันอีกตามเคย ผมเชื่อว่าหลายคนคงมีความฝันอยากลองไปเที่ยวสิงคโปร์สักครั้ง ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆแต่มีความเจริญมากๆ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่เยอะแยะมากมาย
ผมจะนำมารีวิวให้ดูกันว่า ไปยังไง ? เดินทางยังไง ? พักที่ไหน ? เที่ยวที่ไหน ? ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะแนะนำวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว ^__^ (TripTH)
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line ID : : @TripTH
Line TripTH : https://line.me/R/ti/p/%40tripth
Inbox : m.me/TripTH.con/
ก่อนเดินทาง
พักที่ไหน ?
สำหรับในทริปนี้เราจองที่พักผ่าน แอพ HotelsCombined เป็นแอพที่รวบรวม และเปรียบเทียบราคาโรงแรมมากกว่า 8 แสนแห่งทั่วโลก และกว่า 688 แห่งในประเทศสิงคโปร์
ทริปนี้เราพักกันที่ Hotel 165 เป็นที่พักอยู่ใกล้รถไฟใต้ดิน สถานี Farrer Park ใกล้ศูนย์การค้า City Square Mall ใกล้มุสตาฟา การเดินทางสะดวก ราคาไม่แพงมาก เป็นห้องแบบเตียงคู่ คืนละ 1,350 บาท (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว) 3 คืน ก็ 4,050 บาท หรือใครชอบที่พักแบบไหนก็สามารถเลือกจากแอพ HotelsCombined ได้เลยมีหลากหลายแบบหลายราคา
วาร์ปไปดาวน์โหลดแอพ HotelsCombined กดลิ้งด้านล่างนี้เลย
โหลดแอพ > https://app.adjust.com/auck09_1q1rxz?label=PPL_FB_TH_TH-102017-TripTH
ไปยังไง ?
จาก กทม. มีเที่ยวบิน บินตรงไปลงที่ สิงคโปร์ทุกวัน วันละหลายเที่ยว
ใครอยากรู้ว่ามีของสายการบินไหนบ้างกดตรงนี้ได้เลย > http://bit.ly/2k4Xc85
การเดินทางในสิงคโปร์
– บัตร EZ Link เป็นบัตรที่สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้า MTR Monorail Sentosa Express รถเมล์ สามารถใช้ได้หมด โดยใช้แค่บัตรใบเดียว สามารถซื้อได้ตามสถานีรถไฟฟ้า หรือ สนามบิน
การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวสิงคโปร์
– พาสสปอร์ต (เหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน) ลงทะเบียนทำพาสปอร์ต > https://www.passport.in.th/eService/
– สิงคโปร์ใช้เงินดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) เรตที่ 24.55 (1000 บาท แลกได้ 40 ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD)) (เรตเปลี่ยนแปลงตามตลาด)
– ภาษา ที่สิงคโปร์ ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาสากล (ผมเองก็ไม่ได้เก่งภาษา)
– เวลาที่สิงคโปร์จะเร็วกว่าเวลาไทย 1 ชั่วโมง
– การใช้มือถือ และอินเทอร์เน็ตในสิงคโปร์ สามารถซื้อซิมได้ในราคา 15 ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) ใช้เน็ตได้ 1 GB + มีเงินในระบบ 15 ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) หาซื้อได้ตามร้านมือถือ สนามบิน
– ไฟฟ้าใช้คนละแบบกับบ้านเรา ต้องซื้อปลั๊ก 3 ขา Universal plug adapter สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ทั่วไป
– ที่สิงคโปร์ห้ามทิ้งขยะ ห้ามถุยน้ำลาย หรือสูบบุหรี่ตามที่สาธารณะ ห้ามเลย เพราะปรับหนักมาก 5,000 SGD
– บัตร Universal studio singapore ให้ไปซื้อที่สิงคโปร์เลย แถวไชน่าทาวน์ราคาไม่แพง สถานที่ซื้อเดี๋ยวแนะนำในรีวิว
– แอพที่สำคัญในการเดินทางในสิงคโปร์ HotelsCombined , Google Map , Singapore Travel By MRT
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทาง ขาดอะไรเราไปหาเอาข้างหน้า ^__^
เดินทาง
Day 1
สนามบินสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport)
ก่อนเดินทางแนะนำว่าให้แลกเงินจากเมืองไทยไปเลยสามารถแลกได้ที่สนามบิน
จุดเริ่มต้นของการเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์คือผมได้ไปเจอกับโปรโมชั่นราคาแบบช็อคมาก 339 บาท / เที่ยว เลยรีบกดจองโดยไว รวมเบ็ดเสร็จราคารวมภาษี ไป/กลับ ตกคนละ 2,310 บาท จัดว่าดีงาม
จาก กทม. มีเที่ยวบิน บินตรงไปลงที่ สิงคโปร์ทุกวัน วันละหลายเที่ยว
ใครอยากรู้ว่ามีของสายการบินไหนบ้างกดตรงนี้ได้เลย > http://bit.ly/2k4Xc85
บินจากสุวรรณภูมิบินไปสิงคโปร์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงแล้วก็มาถึงสนามบินชางงี
สนามบินชางงี (Changi Airport)
มาถึงสนามบินชางงี (Changi Airport) ผ่านด่าน ตม. ได้ด้วยดีเจ้าหน้าที่ ตม. สิงคโปร์ไม่ถามสักคำ ^__^
เมื่อมาถึงสนามบินชางงี (Changi Airport) อย่างแรกเราต้องไปสถานีรถไฟฟ้าที่ Terminal 2 โดยไปตามป้าย To T2 หรือรถโมโนเรลที่จะพาเราไปที่ Terminal 2 สามารถขึ้นได้ฟรี
เมื่อมาถึง Terminal 2 ก็ไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพื่อไปซื้อบัตร EZ Link หรือ Singapore tourist pass สามารถซื้อได้ตามสถานีรถไฟฟ้า
EZ Link และ Singapore tourist pass ต่างกันยังไง ?
EZ Link : ราคา 12 SGD จะมีเงินในบัตร 7 SGD และ อีก 5 SGD จะเป็นค่าบัตร (ซื้อขาดเป็นของเราเลยเก็บไว้ใช้ต่อได้) สามารถเติมเงินเข้าไปในบัตรได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับคนที่มาหลายวัน เช่น 4 วันขึ้นไป บัตรสามารถใช้ได้หลายปี ถ้ามีเงินในบัตรเหลือ ก็สามารถคืนบัตร และขอเงินที่เหลือในบัตรคืนได้
Singapore tourist pass : แบบ 1 วัน ราคา 20 SGD , 2 วัน ราคา 26 SGD และ 3 วัน ราคา 30 SGD โดยแบ่งเป็นค่ามัดจำบัตร 10 SGD รวมแล้ว เราจะได้เงินค่ามัดจำคืนเมื่อนำบัตรมาคืน สามารถใช้เดินทางได้แบบไม่จำกัด ตลอดระยะเวลาที่อยู่สิงคโปร์ บัตรจะหมดอายุทุกเที่ยวคืนของวัน เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยว 1-3 วัน
ทริปนี้เรามาเที่ยวทั้งหมด 4 วัน 3 คืน เราเลยใช้บัตร EZ Link เพราะจะได้คุ้มหน่อย ราคา ราคา 12 SGD หลังจากซื้อแล้วจะมีเงินในบัตร 7 SGD เราสามารถเติมไว้ได้เลย โดยไปที่ตู้เติมเงิน ตู้เติมเงินจะมีอยู่ทุกสถานี
วิธีเติมเงินบัตร EZ Link ก็ไม่ยุ่งยาก แค่เรานำบัตร EZ Link ไปวางที่แท่นวางบัตร จากนั้นเลือกเติมเงิน add value แล้วเลือกจำนวนเงินที่ต้องการเติมเช่น 10 20 30 SGD เมื่อเลือกแล้วก็ใส่เงินเข้าไป คล้ายๆตู้เติมเงินมือถือของบ้านเรา เราเติมก่อนเลย 30 SGD เราต้องเดินทางไปเที่ยวหลายที่
แอพที่สำคัญในการเดินทางในสิงคโปร์ HotelsCombined สำหรับจองโรงแรม , Google Map แผนที่เวลาหาที่เที่ยว อย่าลืมกดดาวน์โหลดแผนที่สิงคโปร์แบบออฟไลน์ไว้ดูด้วยจะได้สะดวกมากขึ้น , Singapore Travel By MRT แผนที่เส้นทาง MRT
การเดินทางจากสนามบินชางงี ไป Hotel 165 ใช้เวลาประมาณ 50 กว่านาที ให้นั่งรถไฟฟ้าจากสนามบินชางงีไปลงที่สถานี Tanah Merah (EW4) จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย EastWest สีเขียว ไปลงสถานี Paya Lebar (EW8)
จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย Circle Line สีส้ม ไปลงสถานี Serangoon (CE13) จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย NortEast สีม่วง ไปลงที่สถานี Farrer Park (NE8) เดินทางไปทางออก I จะมาโผล่ที่ City Square Mall เดินออกไปด้านหน้าห้าง ก็จะเจอ Hotel 165 เลย อยู่ตรงข้ามห้างเลย
Hotel 165
Hotel 165 ตั้งอยู่ย่าน ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) เป็นโรงแรมราคาประหยัด อยู่ใกล้รถไฟใต้ดิน สถานี Farrer Park ใกล้ศูนย์การค้า City Square Mall ใกล้มุสตาฟา การเดินทางสะดวก ราคาไม่แพงมาก
เป็นห้องแบบเตียงคู่ คืนละ 1,350 บาท (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว) 3 คืน ก็ 4,050 บาท หรือใครชอบที่พักแบบไหนก็สามารถเลือกจากแอพ HotelsCombined ได้เลยมีหลากหลายแบบหลายราคา
วาร์ปไปจองที่พัก Hotel 165 กดลิ้งด้านล่างนี้เลย
Hotel 165 > https://www.hotelscombined.co.th/Hotel/Hotel_165.htm
เข้าไปภายในห้องพัก เป็นห้องไม่ใหญ่มาก มีแอร์ ทีวี Wifi เครื่องทำน้ำอุ่น อ่างอาบน้ำ มีตู้ใส่เสื้อผ้า มีผ้าเช็ดตัวให้ มีแปรงสีฟัน ยาสระผม สบู่ให้ด้วย มีน้ำดื่มให้ทุกวัน วันละ 2 ขวด พนักงานทำความสะอาดห้องให้ทุกวัน
ไฟฟ้าใช้คนละแบบกับบ้านเรา ต้องซื้อปลั๊ก 3 ขา Universal plug adapter สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ทั่วไป แนะนำให้ซื้อมาจากเมืองไทยเลย
ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ พื้นที่ค่อนข้างน้อย ที่พักส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Hostel นอนรวม ห้องแบบเตียงคู่ หรือห้องเดี่ยวจะหายาก ถ้ามีก็จะค่อนข้างแพง เรามาเจอที่นี่ จัดว่าโอเคเลยราคาไม่สูงมาก การเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง ใกล้ศูนย์อาหาร เก็บของเสร็จเราจะออกไปเที่ยวกัน สถานที่แรกคือ เมอร์ไลออน (Merlion) ^__^
การใช้มือถือ และอินเทอร์เน็ตในสิงคโปร์ สามารถหาซื้อได้ตามร้านมือถือ สนามบิน ส่วนเราเรามาซื้อแถวโรงแรม มีร้านมือถืออยู่ใต้ตึกเลย ตรงหัวมุมถนน หรือเดินไปแถวมุสตาฟา หลังโรงแรมก็มีเพียบ ราคา 15 SGD ใช้เน็ตได้ 1 GB + มีเงินในระบบ 15 SGD
ลิ้งสำหรับ เติมเงิน สมัครโปรเน็ต Singtel > www.singtel.com/hi
กดเช็คเงิน Singtel กด*139#
อาหารแนะนำให้ทานตาม Food republic ตามห้าง ตามศูนย์อาหารต่างๆ ราคาจะได้ไม่แพงมาก มีข้าวมันไก่ด้วย ^__^
จาก Hotel 165 ไป เมอร์ไลออน (Merlion) เราจะนั่งรถเมล์สาย 130 ไป โดยไปขึ้นที่ถนน Jln Besar รถเมล์ที่นี่ทันสมัยมาก รถใหม่มีแอร์ทุกคัน ใช้ระบบแตะบัตรหมดทุกคัน การขึ้นรถเมล์สิงคโปร์ เราก็ใช้บัตร EZ Link แตะตอนขึ้น และแตะอีกครั้งตอนลงรถ สิงคโปร์เป็นประเทศที่รถไม่ติดวิ่งได้เรื่อยๆ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง เมอร์ไลออน (Merlion)
เมอร์ไลออน (Merlion)
เมอร์ไลออน (Merlion) สัญลักษณ์ของสิงคโปร์ ตั้งอยู่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต สีขาว ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น สวยเด่นอยู่ริมน้ำ พ่นน้ำทั้งวันทั้งคืน ^__^
แน่นอนว่าเมื่อเรามาเที่ยวสิงคโปร์ต้องไม่ควรพลาดที่จะมาถ่ายรูปกับเมอร์ไลออน (Merlion) เครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์ สิงโตพ่นน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แลนมาร์คที่สำคัญของสิงคโปร์
ด้านหลังมีเมอร์ไลออนตัวเล็กด้วย น่ารักมากมาย ^__^
เปิดให้เข้าชม : ฟรี
การเดินทางไปเมอร์ไลออน (Merlion)
รถไฟฟ้า : สายสีเขียว EastWest , สายสีแดง NortSouth ลงสถานี Raffles Place (EW14)(NS26)
รถเมล์ : สาย 10,10e,,57,70,75,100,107,128,130,131,162,167,196,196e,531,546,590,598,700,850e,951e,971e
ฝั่งตรงข้ามเราจะสามารถมองเห็นตึกมารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina bay sands)
มารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina bay sands)
ตึกมารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina bay sands) เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่อ่าวมารีน่า ตึก 3 ตึก ที่มีเรือตั้งอยู่ด้านบน สูงเด่นสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ ภายในประกอบไปด้วยโรงแรม, ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ, โรงภาพยนตร์, สถานบันเทิง, ภัตตาคารและร้านค้าต่าง ๆ ครบครัน
เป็นจุดที่สามารถถ่ายรูปสวยอีกแห่งเลย ^__^ เดินข้ามสะพาน Esplanade Bridge ข้ามแม่น้ำสิงคโปร์ไป จะเป็นจุดที่สามารถชมวิวเมืองสิงคโปร์
จุดนี้เป็นจุดที่ชมวิวเมืองสิงคโปร์ได้สวยงามมากๆ เราจะเห็นตึกระฟ้าตั้งตระหง่านเรียงราย บ่งบอกถึงความเจริญ มั่งคั่ง และความเป็นเมืองที่ทันสมัย สมกับเป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าของภูมิภาค ริมน้ำจะมีที่นั่ง ให้นั่งเล่นกินลมชมวิว ชมเมืองสิงคโปร์กันได้ เดี๋ยวเราจะนั่งเล่น รอชมความสวยงามยามค่ำคืนของสิงคโปร์
สิงคโปร์ยามค่ำคืน
ตกเย็น ตึกต่างๆในสิงคโปร์จะเริ่มเปิดไฟ ทำให้ภาพที่ออกมาสวยงามมากๆ แสงไฟสีสันต่างๆ แข่งกันอวดโฉม เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหลจริงๆ
ข้างๆจะมี Esplanade Outdoor Theatre ตั้งอยู่ริมน้ำ ตอนเย็นๆ จะมีการแสดงให้ชมกัน สามารถแวะมาชมกันได้ เปิดให้เข้าชมฟรี
จากนี้เราจะไปต่อกันที่ คลาร์กคีย์ (Clarke Quay) จาก เมอร์ไลออน (Merlion) ไป คลาร์กคีย์ (Clarke Quay) สามารถเดินไปได้ เดินลัดเลาะตามแม่น้ำสิงคโปร์ไปเรื่อยๆ บรรยากาศดีมากๆ เห็นตึกสูงตามทาง แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เดินเล่นกินลม ชมวิว ^__^
สิงคโปร์เป็นเมืองที่สะอาดมากๆ ขยะตามถนนแทบไม่มีเลย หรือแม้แต่ขยะในแม่น้ำไม่มีให้เห็นเลย สะอาด และปลอดภัยมากๆ
คลาร์กคีย์ (Clarke Quay)
คลาร์กคีย์ (Clarke Quay) ย่านนี้เป็นแหล่งรวมร้านอาหารดังๆ ผับ บาร์ เป็นร้อยๆ ร้านอาหาร บรรยากาศดีเยี่ยม วิวสวย ริมแม่น้ำสิงคโปร์ เหมาะสำหรับนั่งฟังเพลงชิลล์ๆ ยามค่ำคืน เหมาะสำหรับสายดื่ม สายกิน ร้านชิลล์ๆเยอะมาก
ฝั่งตรงข้ามจะมีที่นั่งเล่นริมน้ำ บรรยากาศชิลล์ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งเล่นกัน บรรยากาศดีมากๆ ^__^
เวลาสั่งอาหารผมเองไปแบบไม่เก่งภาษา ผมอ่านภาษาอังกฤษได้ แต่พูดไม่ค่อยเป็น ได้นิดๆหน่อยๆ สั่งอาหารก็ชี้เอา บอก This One แล้วชี้เอาอย่างเดียวเลย ^__^
การเดินทางไปคลาร์กคีย์ (Clarke Quay)
รถไฟฟ้า : สามารถนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วง NortEast มาลงที่สถานี Clarke Quay (NE5) แล้วออกที่ประตู G
รถเมล์ : สาย 32,54,195,530
นั่งกินลมชมวิวดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองก่อนเดินทางกลับที่พัก
Day 2
ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)
ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) เป็นอีกหนึ่งย่านฮิตของประเทศสิงคโปร์ เป็นย่านของชาวอินเดีย มีร้านค้าขายของต่างๆมากมาย มีตึกสีสันสวยงาม เดินชมวิถีชีวิตชาวสิงคโปร์ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)
การเดินทางไป ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)
รถไฟฟ้า : สายสีเขียว EastWest มาลงที่สถานี Little India (NE7)
รถเมล์ : สาย 23,64,65,66,67,131,139,147,857,NR6
วัดศรี วิรามกาลีอัมมัน (Sri Veeramakaliamman Temple)
วัดศรีวีรมากาลีอัมมัน (Sri Veerama Kaliamman Temple) ตั้งอยู่ในย่าน ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ ซึ่งตั้งอยู่ตรงใจกลางของลิตเติ้ลอินเดีย ทางเข้าวัดแขกจะมีรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นมุมที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูป
เปิดให้เข้าชม : ฟรี
ออกจาก ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) เราจะไปกันที่ ฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park)
ฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park)
ฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park) ที่นี่เป็นสวนสาธารณะอยู่ในย่านใจกลางเมืองของสิงคโปร์ ใกล้กับย่านช้อปปิ้งถนนออร์ชาร์ด เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น ทางเดินขึ้นจะมีบันไดวน ที่มีมุมถ่ยรูปชิคๆ ซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิต
เปิดให้เข้าชม : ฟรี
การเดินทางไป ฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park)
รถไฟฟ้า : สายสีม่วง NortEast สายสีแดง NortSouth สายสีส้ม Circle Line มาลงที่สถานี Dhoby Ghaut (NE6)(NS24)(CC1)
รถเมล์ : สาย 7,14,14e,16,36,65,77,106,111,124,128,162,162m,167,171,174,174e,175,190,700,700a,850e,951e,971e,972
จากนี้เราจะเดินทางไป ไชน่าทาวน์ (Chinatown)
การเดินทางไป ไชน่าทาวน์ (Chinatown)
รถไฟฟ้า : สายสีน้ำเงิน DownTown สายม่วง NortEast มาลงที่สถานี Chinatown (NE4)(DT19)
รถเมล์ : สาย 2,12,33,61,63,80,143,197,961,961c,970,CT8,CT18
ซื้อบัตร (USS) Sea Wheel Travel (People’s Park Centre)
เรามีแพลนจะไปเที่ยว Universal studio Singapore กัน เดี๋ยวเราจะมาซื้อบัตรกันก่อน สำหรับบัตร Universal studio ผมแนะนำให้มาซื้อที่ไชน่าทาวน์ ราคาไม่แพงมาก บัตร Universal studio Singapore สามารถไปซื้อได้ที่ Sea Wheel Travel ตั้งอยู่ใน People’s Park Centre แถวไชน่าทาวน์ ชั้นบนสุด มีพนักงานขายเป็นคนไทยด้วย คุยง่าย แนะนำดี มีขายบัตรแทบทุกอย่าง เช่น Universal studio , Sea aquarium , Singapore flyer , Singapore cable car ฯลฯ เยอะแยะมากมาย ซื้อที่นี่ได้เลย มีครบ
ราคาบัตร Universal studio Singapore 68 SGD หรือประมาณ 1600 บาท ราคานี้รวมคูปองอาหารแล้ว 5 SGD ก็ถือว่าโอเคนะ ได้คูปองอาหารด้วย
ได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อ ^__^
ไชน่าทาวน์ (Chinatown)
ย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) เป็นหนึ่งในย่านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวสิงคโปร์ และชาวต่างชาติ เราจะเห็นตึกเก่าแบบวินเทจอยู่สองข้างทาง
ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในการซื้อของฝากของที่ระลึกต่างๆ เช่น พวงกุญแจ ช็อคโกแลต เสื้อยืด และแม็กเน็ท เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าเล็กๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร, ร้านขนม, โรงแรม, ร้านขายฝากและร้านขายของที่ระลึก
วัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple)
วัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple) อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ ตั้งอยู่ฝั่งถนน South Bridge Road เป็นวัดอินเดียในย่านไชน่าทาวน์แปลกดี วัดนี้เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ ตัวอาคารของวัดทั้งภายในและภายนอก จะมีประติมากรรมรูปปั้นและรูปแกะสลักลงสีสันสดใสของเทพเจ้า เทพธิดา และสัตว์ร้ายในเทพนิยาย
เราได้เดินเข้าไปข้างในเจอ พิธีสำคัญของชาวฮินดูที่กำลังทำพิธีอยู่ มีชาวฮินดูจำนวนมากมาร่วมในพิธีนี้ มีความเชื่อกันว่า หากเราเดินตามเข็มนาฬิการอบพระอุโบสถวัดให้เป็นเลขคี่ จะโชคดี
เปิดให้เข้าชม : ฟรี
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic) อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาด เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระทันตธาตุ หรือ ฟัน ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด เป็นวัดจีนศิลปกรรมสมัยราชวงศ์ถังผสมศิลปะมันดาลา Mandala
ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุทางด้านพระพุทธศาสนาด้วย เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก
เปิดให้เข้าชม : ฟรี
การเดินทางไป ไชน่าทาวน์ (Chinatown) , วัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple) , วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)
รถไฟฟ้า : สายสีน้ำเงิน DownTown สายม่วง NortEast มาลงที่สถานี Chinatown (NE4)(DT19)
รถเมล์ : สาย 2,12,33,61,63,80,143,197,961,961c,970,CT8,CT18
วัดเทียน ฮก เก็ง (Thian Hock Keng Temple)
วัดเทียน ฮก เก็ง (Thian Hock Keng Temple) ตั้งอยู่ถนน Telok Ayer Street บริเวณใกล้กับ Chinatown วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ และเก่าแกที่สุดของประเทศสิงคโปร์ มีชื่อเสียงด้านความสวยงาม ปราณีตของส่วนต่างๆของอาคารวัด ภายในวัดออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงาม
การเดินทางไป วัดเทียน ฮก เก็ง (Thian Hock Keng Temple)
รถไฟฟ้า : สายสีน้ำเงิน DownTown มาลงที่สถานี Telok Ayer Station (DT18) ที่ทางออก A
รถเมล์ : สาย 186 , 970
ออกจาก วัดเทียน ฮก เก็ง (Thian Hock Keng Temple) เดี๋ยวเราจะไปเดินเล่นกันที่ ฮาจิ เลน (Haji Lane) กันต่อ
ฮาจิ เลน (Haji Lane)
ตรอกฮาจิ (Haji Lane) หรือตรอกฮัจญี เป็นถนนเล็กๆแห่งหนึงในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแหล่งศูนย์รวมของวัยรุ่นสิงคโปร์ ซึ่งเต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร ที่มีลวดลายสีสัน มากมาย มีร้านนั่งชิว บาร์ คาเฟ่ฮิปๆเยอะแยะมากมาย
ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่ภาพศิลปะลวดลายต่าง ๆ บนกำแพง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป กันมากๆ
มัสยิส สุลต่าน (Masjid Sultan)
มัสยิดสุลต่าน (Sultan Mosque หรือ Masjid Sultan) จะอยู่ถัดจากถนนอาหรับ(Arab Street) ข้างๆกับ ตรอกฮาจิ (Haji Lane) เป็นมัสยิดเก่าแก่ และสำคัญของชาวมุสลิมสิงคโปร์ โดดเด่นด้วยโดมทองขนาดใหญ่และห้องสวดมนต์อันใหญ่โตโอฬาร เป็นอาคารศาสนสถานที่มีความงดงามอลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์
การเดินทางไป ฮาจิ เลน (Haji Lane) , มัสยิส สุลต่าน (Masjid Sultan)
รถไฟฟ้า : สายสีน้ำเงิน DownTown สายสีเขียว EastWast มาลงที่สถานี Bugis (DT14)(EW12)
รถเมล์ : สาย 2N,4N,48
Suntec City น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง
Suntec City น้ำพุแห่งโชคลาภหรือน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ตั้งอยู่ตรงกลางของกลุ่มอาคาร Suntec City ทั้ง 5 ที่คล้ายกับเป็นนิ้วมือตามหลักฮวงจุ้ย
น้ำพุแห่งนี้ได้ถูกจัดให้เป็นน้ำพุที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงของน้ำพุอยู่ที่ประมาณ 30 เมตร เป็นรูปวงแหวนโดยมีเสาขนาดใหญ่ทั้ง 4 ข้าง แล้วมีน้ำพุ่งขึ้นอยู่ตรงกลางของวงแหวน มีความเชื่อที่ว่าใครได้สัมผัสน้ำพุ จะมีโชคลาภ เป็นมงคล โชคดีตลอดไป
เปิดให้เข้าชม : ฟรี
เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสน้ำพุ เวลา 9.00-12.00 น, 14.00-18.00 น, 19.00-19.50 น, 21.30-22.00 น,
การเดินทางไป Suntec City น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง
รถไฟฟ้า : สายสีน้ำเงิน DownTown สายสีส้ม Circle Line มาลงที่สถานี Promenade Station (DT15)(CC4)
รถเมล์ : สาย 97,97e,107m
เดี๋ยวช่วงเย็น เราจะไปเที่ยว เขื่อนมารีน่า (Marina Barrage) โดยจะไปต่อรถเมล์สาย 400 ที่ ดาวน์ทาวน์ (Downtown)
ดาวน์ทาวน์ (Downtown)
ดาวน์ทาวน์ (Downtown) อยู่ย่านกลางเมืองสิงคโปร์ มีจุดนั่งเล่น ชมตึก มีลานหญ้ากว้างๆให้นั่งเล่นกันด้วย
การเดินทางไป ดาวน์ทาวน์ (Downtown)
รถไฟฟ้า : สายสีน้ำเงิน DownTown มาลงที่สถานี DownTown Station (DT17)
รถเมล์ : สาย 97,97e,106,133,400,402,513,982e
เขื่อนมารีน่า (Marina Barrage)
เขื่อนมารีน่า (Marina Barrage) ที่นี่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่กั้นระหว่างน้ำจืดกับน้ำทะเล อยู่ด้านหลัง Garden by the bay เป็นสถานที่ที่สามารถชมวิวเมืองสิงคโปร์ และถ่ายรูปได้สวยมากๆ เป็นจุดชมวิวที่เราจะเห็นทั้ง Marina Bay Sand, Super Tree Grove และ Singapore Flyer เหมาะสำหรับถ่ายรูปมากๆ
ด้านบนของอ่างเก็บน้ำทำเป็นสนามหญ้าเป็นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามมาก นักท่องเที่ยวนิยมมาปิกนิก เล่นว่าว ถ่ายรูป บรรยากาศดีมาก เป็นสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนกับคนรัก หรือครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน
เปิดให้เข้าชม : ฟรี
การเดินทางไป เขื่อนมารีน่า (Marina Barrage)
รถเมล์ : สาย 400 รถสุดสายที่ Marina barrage
จาก เขื่อนมารีน่า (Marina Barrage) ไป การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Garden by the bay) สามารถเดินไปได้ หรือจะนังรถสาย 400 มา 1 ป้ายก็ถึงแล้ว
การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Garden by the bay)
การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศสิงคโปร์ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 โซน คือ Bay Center Garden, Bay East Garden และ Bay South Garden
ยามค่ำคืนจะโดนเด่นด้วยแสงไฟที่เปลี่ยนสีได้หลายสี ตรงที่เห็นได้เด่นที่สุดคือ Supertree Grove มองเห็นได้ในระยะไกล ต้นไม้ขนาดใหญ่สูง 25 – 50 เมตร เทียบได้กับตึกสูง 9 – 16 ชั้น ที่ด้านบนของต้นไม้ยักษ์มีการติด Solar cell เพื่อใช้เก็บเป็นพลังงานส่องสว่างในเวลากลางคืน ซึ่งมีมากถึง 18 ต้นเรียงรายอยู่ในสวน มีไม้เลื้อยปกคลุมสวยงาม เป็นที่เที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันจำนวนมาก มองดูแล้วสวยงามมาก เหมือนอยู่ในหนังอวตาร อลังการมาก ประทับใจสุดๆ
นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆอีกมากมายให้ชม เช่น อุโมงค์ไฟ ดอกทานตะวัน ฯลฯ
ที่นี่เรียกได้ว่าเราไม่ควรพลาดเลย มาเที่ยวสิงคโปร์ต้องมาที่ การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)
เปิดให้เข้าชม : ฟรี (ถ้าใครจะไปเดินบน Sky Walk ต้องเสียค่าเข้าชม)
การเดินทางไป การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Garden by the bay)
รถไฟฟ้า : สายสีน้ำเงิน DownTown สายสีส้ม Circle Line มาลงที่สถานี Bayfront (DT16)(CE1) ออกมาทาง B
รถเมล์ : สาย 97,97e,106,133,502,502a,518,518a,400
ออกจาก การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) เราจะกลับโดยรถไฟฟ้า โดยจะผ่านตัวตึก มารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina bay sands) สวยงามและ ยิ่งใหญ่มากๆ
ผ่านตึกมารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina bay sands) ข้ามถนนไปตามทาง จะเจอกับช็อปปิ้งมอลล์แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมเพียบ ออกมาด้านหน้า Marina Bay จะมีลานแสดงน้ำพุ เราบังเอิญมาเจอพอดี
การแสดงน้ำพุ สิงคโปร์ (Wonder Full-Light & Water) Marina Bay
การแสดงโชว์แสง สี เสียงและน้ำ ที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia เป็นการแสดงน้ำพุ แสง สี เสียง ที่อลังกาฬมากๆ การแสดงน้ำพุ ยิงภาพ ตัวอักษร เรื่องราว ทาง Video Projectors ออกมาที่ม่านละอองน้ำเป็นภาพ 3 มิติ มีดนตรีประกอบการแสดง การแสดงนี้ จัดขึ้นที่ลาน Promenade หน้า Marina Bay Sands เป็นลานที่นั่งหันหน้าออกทางอ่าว Marina
รอบการแสดงน้ำพุ สิงคโปร์ (Wonder Full-Light & Water)
– วันอาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 20:00 น. , 21:30 น.
– วันศุกร์, เสาร์ เวลา 20:00 น. , 21:30 น. , 23:00 น.
ชมเสียง สี เสียง บรรยากาศความสวยงามของเมือง ก่อนเดินทางกลับที่พัก
Day 3
วันนี้เราจะใช้เวลาทั้งวันที่ Universal Studios Singapore กันเลย ตั้งแต่ เวลา 10.00 – 19.00
การเดินทางไป Universal Studios Singapore
รถไฟฟ้า : สายสีม่วง NortEast สายสีส้ม Circle Line มาลงที่สถานี HarbourFront (NE1)(CC29)
รถเมล์ : สาย 10,30,30e,57,61,65,80,97,97e,100,123,123m,131,143,145,166,855,NR1,NR6
**จากนั้นต่อรถ MonoRail Sentosa Express ไปลงสถานี Waterfront ก็จะถึง Universal Studios Singapore
Universal Studios Singapore
Universal Studios Singapore หรือ เรียกย่อๆ ว่า USS ตั้งอยู่บนเกาะเซนโตซ่า (sentosa) เป็นสวนสนุกในเครือ Universal Studios ที่มีต้นกำเนิดมาจาก Hollywood และ Orlando ในประเทศอเมริกา
สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ แบ่งออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย Hollywood, New York, Sci-Fi City, Ancient Egypt, Lost World, Far Far Away และ Madagascar แต่ละโซนก็จะมีเครื่องเล่น ที่มีธีมที่แตกต่างกันไป ภายในสวนสนุกจะมีเครื่องเล่นและโชว์ต่างๆ ที่มาในธีมของหนังชื่อดังหลายเรื่อง เช่น ทรานสฟอร์มเมอร์ TRANSFORMERS, จูลาสสิคปาร์ค Jurassic Park, มาดากัสก้า Madagascar และอีกหลายเรื่อง
ฮอลลีวูด Hollywood โซนแรกที่เมื่อเข้ามาแล้วจะต้องเจอ เป็นการจำลองเหมือนอยู่ในดินแดน ฮอลลีวูด Hollywood
มาดากัสก้า Madagascar โซน มาดากัสก้า Madagascar เหมาะสำหรับเด็กมากๆ เป็นการนั่งเรือล่องไปตามเส้นทาง ดูเหล่าตัวการ์ตูนจากเรื่องมาดากัสการ์ อย่าง Alex, Marty, Melman และ Gloria เพนกวินจอมแสบ ฯลฯ ที่จะออกมาสร้างสีสันตลอดทาง อันนี้เหมาะสำหรับเด็กมากกว่า ^__^
ดินแดนแห่งเชร็ค Far Far Away (Shrek) เราจะเห็นปราสาท ฟาร์ ฟาร์อเวย์ ( Far Far Away Castle) ปราสาทเชร็ค แห่งแรกของโลก แวะมาถ่ายรูปกันได้ ^__^
ไฮไลต์อยู่ที่ การ์ตูน 4 มิติ Shrek 4-D Adventure ผมชอบมาก ดูเพลินดี สนุก ตลก ฮาด้วย ^__^
เอนชานท์เตดแอร์เวย์ (Enchanted Airways) อันนี้เป็นรถไฟเหาะแบบกลางๆ ไม่เร็วมาก
จูราสสิค พาร์ค Jurassic Park เป็นโซนยุคไดโนเสาร์ จูลาสสิคปาร์ค Jurassic Park
เมืองอียิปต์โบราณ Ancient Egypt ผจญในดินแดนอียิปต์โบราณ กับสุสานฟาโรห์ต้องคำสาป เครื่องเล่นที่ต้องลองก็คือ Revenge of the Mummy รถไฟเหาะที่จะเข้าไปในดินแดนนักรบมัมมี่ อันนี้ออกแนวหลอนๆ มืดมาก เสียวแบบหลอนๆ ต้องมาลอง ^__^
อีกเครื่องเล่นนึงที่น่าเล่นก็คือ ตามล่าหาสมบัตร Treasure Hunters เป็นการขับรถจี๊บเข้าไปในเมืองโบราณเพื่อค้นสมบัติที่ซ่อนอยู่ เด็กๆชอบ ^__^
เมืองแห่งอนาคต Sci-Fi City โซนนี้จะดูล้ำสมัย เป็นเมืองแห่งอนาคต
ทรานสฟอร์มเมอร์ Transformers The Ride เครื่องเล่นยอดฮิตของโซนนี้ เป็นเครื่องเล่น 3D โดยจะมีแว่นให้ใส่ก่อนเริ่มเล่น โดยตัวเราจะสวมบทบาทเป็นออฟติมัส ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับหุ่นยนต์ในหนัง ผมชอบอันนี้ที่สุด ชอบมากๆ คือมันดีย์ ดีมากมาย สุดยอดมากๆ ผมเล่น 2 รอบเลย ติดใจมากๆ
แบทเทิลสตาร์ กาแลคติกา Battlestar galactica เครื่องเล่นสุดยอดของการวัดใจ รถไฟเหาะสุดหวาดเสียว Battlestar Galactica ซึ่งมีขนาดความสูงเท่าตึก 14 ชั้น แบบเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่ง Human และ Cylon เป็นอะไรที่เสียวมากๆ เสียวจนต้องร้องขอชีวิต ต้องมาลองสักครั้ง ^__^
นิวยอร์ก NEW YORK โซนนี้จะรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังเดินอยู่ที่นิวยอร์ค ให้อารมณ์ของความเป็นเมืองใหญ่ร้านค้าต่างๆประดับด้วยป้ายไฟนีออน ดูครึกครื้นเหมือนเดินบนถนนในเมืองพร้อมกับชมแสงไฟยามค่ำคืนที่ไม่เคยเงียบเหงา เหมือนย้อนไปในยุคเก่าของ นิวยอร์ก
เซซามี สตรีท โชว์ Sesame Street Show โชว์ความน่ารักของตัวการ์ตูนจากเซซามี
เที่ยวกันจนถึงเย็นเลย เอาให้คุ้ม จัดว่าคุ้มมากๆ โดยเฉพาะ Transformers The Ride ที่ขอบอกเลยว่าไม่ควรพลาด ^__^
ขากลับก็ขึ้นรถ MonoRail Sentosa Express จากสถานี Waterfront ไปลงสถานี HarbourFront เดี๋ยวลงจะไปเที่ยวกันอีกที่นั่นคือ Henderson Wave Bridge โดยขึ้นรถเมล์สาย 131 จากสถานี HarbourFront
Henderson Wave Bridge
Henderson Wave bridge เป็นสะพานคนเดินที่สูงที่สุดในสิงคโปร์ มีความสูง 36 เมตร สะพานรูปเกลียวคลื่น เป็นสะพานไม้โครงสร้างแข็งแรง ทางขึ้นต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเขา ไม่เกิน 10 นาทีก็ถึง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงาม ตอนกลางคืนก็สวย บรรยากาศเย็นสบาย สงบ ร่มรื่น คนส่วนใหญ่จะมาออกกำลังกายและมาพักผ่อนกัน นอนเล่นด้านบนสะพานขอบอกว่าชิวมากๆ ลมเย็นสบายมากๆ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน เป็นจุดเช็คอิน ที่ไม่ควรพลาด
การเดินทางไป Henderson Wave Bridge
รถเมล์ : สาย 124,131,145,176,273,408
วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ เราจะไปเที่ยวกันต่ออีกวัน ^__^
Day 4
วันนี้เราเช็คเอ้าท์ออกแต่เช้า แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วออกไปเที่ยวต่ออีกหน่อย ที่พักก็ใจดีมากๆ มีโซ่ให้คล้องกระเป๋าด้วยด้วย ฮ่าๆ ^__^
หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ (National Gallery singapore)
พิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์ (Singapore National singapore) เป็นพิพิธภัณท์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม สไตล์ Neo-Classic เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของประเทศ ชนชาติ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆ อาหารและขนมของสิงคโปร์
และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละช่วงเวลาของประวัตศาสตร์ชาติสิงคโปร์
ค่าเข้า National Gallery singapore
– ราคา 20 SGD
แต่เราไม่ได้เข้าไปดูภายใน เข้าชมแค่ส่วนที่ไม่ต้องเสียเงิน ค่าเข้าแพงไป ^__^ ออกจาก หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ (National Gallery singapore) เดินไปไม่ไกลก็จะเจอแม่น้ำสิงคโปร์
เดินเล่น รอบแม่น้ำสิงคโปร์
รอบๆแม่น้ำสิงคโปร์ สามารถมาเดินเล่น กินลมชมวิว ชมเมืองกันได้ มีวิวตึกสวยๆให้ได้ถ่ายรูปกัน เราจะเห็นหนุ่ม สาวออฟฟิศ มานั่งเล่น ทานข้าวกัน บรรยากาศดูชิวๆดี
และจะมีประติมากรรม รูปปั้นคนสำคัญต่างๆ ตลอดริมแม่น้ำสิงคโปร์ให้ได้ชมกันด้วย
เที่ยวเสร็จแล้วก็ นั่งรถไฟฟ้า สายสีม่วง NortEast จากสถานี Clarke Quay เดินทางกลับไปโรงแรม เพื่อเอากระเป๋า พร้อมเดินทางกลับ
การเดินทางไปสนามบินชางงี จาก Hotel 165 นั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วง NortEast จากสถานี Farrer Park (NE8) ไปลงสถานี Serangoon (CE13) จากนั้นเปลี่ยนเป็นสายสีส้ม Circle Line ไปลงสถานี Paya Lebar (EW8) จากนั้นเปลี่ยนเป็นสายสีเขียว EastWest ไปลงสถานี Tanah Merah (EW4) จากนั้นก็เปลี่ยนสายเข้าสนามบินชางงีได้เลย ใช้เวลาราวๆ 50 นาที
สนามบินชางงี (Changi Airport)
มาถึงสนามบิน ก็เอาบัตร Ez Link ไปคืน ตอนซื้อมาในบัตร มีเงิน 7 SGD เติมไป 30 SGD รวมมีในบัตร 37 SGD ใช้ไปเที่ยว 4 วัน เหลือ 15 SGD เท่ากับใช้ไป 22 SGD รับเงินคืน 15 SGD เหลือเยอะเลย ^__^
หากใครต้องการขอคืนภาษี ก็สามารถขอ Refund จุดที่มีป้าย GST Refund
ผมจองไฟล์ทกลับไว้เวลา 19.15 น. เข้าไปเช็คอินเที่ยวบินที่สิงคโปร์ จะมีเครื่องเช็คอินด้วยตัวเอง มีหลายเครื่องมากๆ ใช้ง่าย สะดวกสบายดี ไม่ต้องรอคิวนานๆ ^__^
บินจากสิงคโปร์กลับไทย ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงสุวรรณภูมิ
จบเรียบร้อยครับสำหรับทริปสิงคโปร์ เที่ยวง่ายด้วยตังเอง เมืองนี้ เจริญหูเจริญตา ทันสมัย น่าเที่ยว ปลอดภัย สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆส่วนใหญ่เปิดให้เข้าชมฟรี ไปแบบไม่เก่งภาษาก็เที่ยวได้ ผมพิสูจน์มาแล้ว ^__^
สำหรับใครที่ต้องการมาเที่ยวสิงคโปร์ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไปยังไง ตามรอยรีวิวเรามาได้เลยจ้า ข้อมูล การเดินทาง ที่พัก ที่เที่ยว ครบเลย อย่างที่ผมบอกไว้ตั้งแต่ต้น ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะแนะนำวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว แล้วเจอกันทริปต่อไป
Goodbye
สรุปค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของทริปนี้
– ค่าเครื่องบิน ไป/กลับ คนละ 2,310 บาท (ได้ราคาโปรโมชั่น)
– ค่าที่พัก Hotel 165 คืนละ 1,350 บาท 3 คืน 4,050 บาท (จองผ่านแอพ HotelsCombined รวมภาษี ทุกอย่างแล้ว)
– ค่าบัตร Ez Link 12 SGD
– เติมบัตร Ez Link 30 SGD (เหลือคืน 15 SGD)
– ค่าซิม Singtel 15 SGD
– ซื้อปลั๊ก 3 ขา Universal plug adapter ราคา 200 – 300 บาท
– บัตร Universal studio singapore ราคา 68 SGD
– ค่าอาหารตกมื้อละ 3 – 7 SGD / มื้อ (ขึ้นกับร้านต่างๆ)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆขึ้นอยู่กับบุคคลเลยน๊าา (แต่ละคนใช้จ่ายไม่เหมือนกัน)
ปล. ค่าใช้จ่ายต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรโทรเช็คก่อน
ข้อแนะนำ
– น้ำประปาที่สิงคโปร์สะอาดมาก สามารถดื่มได้
– ซื้อน้ำแนะนำให้ซื้อตามซุ้มเล็กๆ ราคาจะถูกมาก
– 7 ที่สิงคโปร์ ของแพงมาก เช่นน้ำ แพงกว่าร้านข้างนอกมาก
– การเติมบัตร Ez Link เติมแค่ 20 ก็พอ ถ้าหมดก็สามารถเติมได้ตามตู้ได้ทุกสถานี
– อาหารแนะนำให้ทานตาม Food republic จะได้ราคาไม่แพงมาก มีข้าวมันไก่ด้วย ^__^
วาร์ปไปดาวน์โหลดแอพ HotelsCombined กดลิ้งด้านล่างนี้เลย
โหลดแอพ > https://app.adjust.com/auck09_1q1rxz?label=PPL_FB_TH_TH-102017-TripTH
วาร์ปไปจองที่พัก Hotel 165 กดลิ้งด้านล่างนี้เลย
Hotel 165 > https://www.hotelscombined.co.th/Hotel/Hotel_165.htm
อย่าลืมกดติดตามแบบ See First เห็นโพสก่อน จะได้ไม่พลาด รางวัล และที่เที่ยวสวยๆ ที่พักชิคๆ จาก TripTH ทริปไทยแลนด์ กันน๊าา ^__^
วิธีกด See First (เห็นโพสก่อน)
1. ไปที่หน้าเพจ TripTH ทริปไทยแลนด์
2. กดเลือก ติดตาม หรือกำลังติดตาม (Follow)
3. กดเลือก เห็นโพสก่อน (See First)
เพียงเท่านี้ ก็จะไม่พลาดกิจกรรมดีๆ ทริปเจ๋งๆ ที่เที่ยวสวยๆ ที่พักดีๆ จาก TripTH ทริปไทยแลนด์ กันแล้ว ^__^
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line ID : : @TripTH
Line TripTH : https://line.me/R/ti/p/%40tripth
Inbox : m.me/TripTH.con/
ภาพและข้อมูลโดย © TripTH
เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn @ TripTH