รีวิวเขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว

19243
รีวิวเขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล
Finver Lipmatte ลิป ฟินเวอร์
ทริปท้าลมหนาว เขาค้อ ภูทับเบิก ภลมโล 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว รีวิวเขาค้อ รีวิวภูทับเบิก รีวิวภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พร้อมการเดินทาง

สวัสดีครับเจอกันอีกตามเคย แน่นอนผมมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาแนะนำ คนที่ชอบภูเขาอากาศหนาว ไม่ควรพลาดเลย ทรปินี้เราจะไปเที่ยวกันที่ เขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล และอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ผมจะนำมารีวิวให้ดูว่า ไปยังไง ? เดินทางยังไง ? พักที่ไหน ? เที่ยวที่ไหน ? ผมไม่ได้แค่ทำให้คนอย่าออกไปเที่ยวแต่ผมจะสอนวิธีให้คุณเดินทางไปเที่ยว เขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล และอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า  ^__^ (TripTH)

ก่อนเดินทาง

พักที่ไหน ?
ทริปนี้เป็นทริปที่เราจะออกไปหาที่พักกันข้างหน้าเลย ตั้งใจว่าจะหาเช่าเต็นท์นอน ที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เลยไม่ได้จองที่พัก แต่ผมมีเบอร์ไว้ให้ด้วย เผื่อใครหาที่พัก รายละเอียดเพิ่มเติมจะอยู่ในรีวิวนะครับ
เขาค้อ พักที่ ภูอาบหมอก : 0894369426 , 0890169542
ภูทับเบิก พักที่ เดอะเซียร่า รีสอร์ท : 0831648093 , 0882804074
ไปยังไง ?
– โดยรถทัวร์โดยสาร
ทริปนี้เราไปโดรถทัวร์โดยสาร จากกรุงเทพไปหล่มสักมีรถออกจากหมอชิตทุกวัน มีรถออกทุกชั่วโมง ทั้งของ บขส.เอง และ เอกชน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 23.30 ค่ารถคนละ 217 บาท ใช้เวลาเดินทางราวๆ 6 ชั่วโมง
รถทัวร์ไปหล่มสัก เพชรประเสริฐทัวร์ ช่องขายตั๋วหมายเลข 1
โทร : 056 720 720
โดยรถส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ไปถึงจังหวัดสระบุรี ไปจนถึงสวนพฤกษศาสตร์พุแค ถึงกิโลเมตรที่ 125 แยกขวามือเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านอำเภอชัยบาดาล อำเภอศรีเทพ อำเภอวิเชียรบุรี ต่อไปเรื่อยๆ ประมาณ จนถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง
การเดินทางไปเที่ยวในพื้นที่ มีสองวิธีคือ
– เช่ามอเตอร์ไซค์
ทริปนี้เราเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยว เพื่อความคล่องตัว และสะดวกด้วย ที่อำเภอหล่มสัก มีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์อยู่ร้านหนึ่ง อยู่ห่างจากท่ารถเพชรประเสริฐทัวร์ไม่ถึง 100 เมตร
ราคาค่าเช่า : ตั้งแต่วันละ 300 บาท จนถึงวันละ 500 บาทต่อวัน แล้วแต่รุ่น การมัดจำใช้บัตรประชาชน และเงินมัดจำ 1000 บาท
สำหรับคนที่สนใจจะเช่ามอเตอร์ไซค์เขาค้อ ตามเบอร์ด้านล่างนี้เลยครับ
โทร : 097-1725960
โทร : 064-3213352
โทร : 056-704205
– รถนำเที่ยว เขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า 
การใช้บริการรถนำเที่ยวในพื้นที่ก็สะดวกดีเหมือนกัน เพราะไม่ต้องขับ หรือขี่รถเอง คนขับชำนานทาง ราคาไม่แพง เหมาต่อคัน เริ่มที่ 1000 บาท ราคาแล้วแต่เส้นทางนะครับ นั่งได้ 10 คน / คัน
ใครสนใจ รถนำเที่ยว เขาค้อ ภูทับเบิก ผมก็เอาเบอร์มาฝาก จะได้ไม่ต้องไปหาให้ยุ่งยากครับ
โทร : 090-4544676 ,083-6268083 (คุณประสงค์)
โทร : 087-5741548 (คุณกวาง)
รายละเอียดtour-khaokho.blogspot.com/
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทาง ขาดอะไรเราไปหาเอาข้างหน้า ^__^

เดินทาง

Day 1

หมอชิต

เช้าที่สดใส เราจากออกจากกรุงเทพฯแต่เช้า ออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถทัวร์ เที่ยวเวลา 06.00 น. จากหมอชิตไปลงที่อำเภอหล่ม สักจังหวัดเพชรบูรณ์ จากหมอชิตมีรถทัวร์ออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 05.00 – 23.30 ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง รถไปหล่มสัก (1)รถไปหล่มสัก (2)
รถทัวร์ไปหล่มสัก เพชรประเสริฐทัวร์ ช่องขายตั๋วหมายเลข 1
โทร : 056 720 720

หล่มสัก

หลังจากเดินทางมา 6 ชั่วโมง เราก็มาถึงอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ แนะนำว่าให้ไปลงที่ท่ารถเพ็ชรประเสริฐในตัวอำเภอหล่มสักเลย เพราะถ้าลงที่ บขส. หล่มสัก จะอยู่ห่างจากร้านเช่ารถไกลมาก ให้ลงที่ท่ารถประเสริฐทัวร์ หรือจำง่ายง่ายลงสุดสายนั่นแหละ
จากท่ารถประเสริฐ ไปที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์อยู่ห่างไม่ถึง 100 เมตรอยู่ ร้านอยู่ติดถนนใหญ่หลังสถานีตำรวจหล่มสักหาไม่ยาก ผมแนบแผนที่มาให้แล้ว หรือถ้าไปไม่ถูกสามารถโทรถามเจ้าของร้านได้ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ หล่มสัก
รถมีหลายรุ่น หลายราคา ให้เราเลือก ทริปนี้เราจัด Honda Moov เพราะประหยัดน้ำมันดี เคยขี่รุ่นนี้แล้วชอบดี ราคาคันละ 300 บาท / วันเช่ามอเตอร์ไซค์ เขาค้อ ภูทับเบิก
ราคาค่าเช่า : ตั้งแต่วันละ 300 บาท จนถึงวันละ 500 บาทต่อวัน แล้วแต่รุ่น การมัดจำใช้บัตรประชาชน และเงินมัดจำ 1000 บาท
สำหรับคนที่สนใจจะเช่ามอเตอร์ไซค์เขาค้อ ตามเบอร์ด้านล่างนี้เลยครับ
โทร : 097-1725960
โทร : 064-3213352
โทร : 056-704205
เอาละเมื่อได้รถแล้วเราจะออกเดินทางไปเที่ยวจุดหมายแรกของเราในทริปนี้ คืออำเภอเขาค้อ

ร้าน Moai (โมอาย)

ร้านนี้เป็นร้านกาแฟตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 12 อยู่ระหว่างทางจากหล่มสักไปเขาค้อ หน้าร้านเราจะเห็นรูปปั้นโมอายขนาดใหญ่มาก ตกแต่งสวยงามมีความชิค เป็นร้านที่คนที่ผ่านไปผ่านมาถ่ายรูป และแวะดื่มกาแฟกัน ร้าน Moai (โมอาย) (4)ร้าน Moai (โมอาย) (2)
ร้าน Moai (โมอาย) (1)
ด้านหลังร้านจุดชมวิวภูเขาสูงวิวดีบรรยากาศน่าจิบกาแฟมากกาแฟไปชมวิวไปฟินส์ สุดสุด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องแวะมาเยือนเมื่อมาเที่ยวเขาค้ร้าน Moai (โมอาย) (3)

วัดผาซ่อนแก้ว

วัดผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ที่ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ วัดนี้จะมีรูปพระขนาดใหญ่สีขาวเห็นได้แต่ไกล จากทางหลวงหมายเลข 12 หรือเส้นทางไปเขาค้อ ตั้งเด่นอยู่กลางภูเขาสวยงามมากจุดเด่นของเส้นทางนี้เลยวัดผาซ้อนแก้ว (4)
ก่อนเข้าไปในวัดเราต้องเสียค่ารถจอดรถ สำหรับมอเตอร์ไซค์ 10 บาท และรถยนต์ 20 บาท
วัดผาซ้อนแก้ว (1)วัดนี้เป็นจุดเด่นของเขาค้อไปแล้ว คือพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ ที่สร้างเรียงซ้อนกันหลายองค์ตั้งแต่องค์เล็กไปจนถึงองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพระพุทธรูปของวัดแห่งนี้ สร้างอยู่บนภูเขาเห็นเด่นชัดมีความสวยงามมากมากจนเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเขาค้อและภูทับเบิกไปเลย ต้องแวะมาเยือนสักครั้ง วัดผาซ้อนแก้ว (2)วัดผาซ้อนแก้ว (3)

ร้าน Pino Latte (พี่โน่ ลาเต้)

ร้าน Pino Latte เป็นร้านกาแฟ ตั้งอยู่เลยวัดพระซ่อนแก้ว เข้าไปด้านใน ร้านนี้เป็นอีกร้านที่น่าสนใจมาก ร้าน Pino Latte (พี่โน่ ลาเต้) (1)ด้านบนเป็นจุดชมวิวที่มีที่นั่งเป็นบาร์ สามารถชมวิวได้ 180 องศาเป็นภูเขาและวิวโดยรอบสวยงามมาก เป็นร้านที่มีวิวเอกลักษณ์และเป็นจุด เช็กอินที่ไม่ควรพลาด ร้าน Pino Latte (พี่โน่ ลาเต้) (4)ร้าน Pino Latte (พี่โน่ ลาเต้) (2)ร้าน Pino Latte (พี่โน่ ลาเต้) (3)ร้าน Pino Latte (พี่โน่ ลาเต้) (5)วิว ร้าน Pino Latte (พี่โน่ ลาเต้)
ออกจาก ร้าน Pino Latte เราจะเข้าไปที่อำเภอเขาค้อ ผ่านแยกแคมป์สน เลี้ยวซ้ายไปทางเขาค้อ ก่อนถึงตัวอำเภอเขาค้อ เราจะเห็นทุ่งหันลมขนาดใหญ่

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ

ที่นี่เป็น ทุ่งกังหันลมขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นได้แต่ระยะไกล สำหรับกังหันลมที่นี่ ตั้งไว้เพื่อผลิตไฟฟ้าและเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งของเขาค้อ เข้าไปด้านใน เราจะเห็นกังหันลมใหญ่มากอากาศที่นี่เย็นสบาย มีลมพัดตลอดเวลา ทุ่งกังหันลม เขาค้อ (4)ทุ่งกังหันลม เขาค้อ (3)
ทุ่งกังหันลม เขาค้อ (1)บริเวณทุ่งกังหันลมจะมีรถรางให้บริการสำหรับเที่ยวชมรอบ ทุ่งกังหันลมค่าบริการคนละ 20 บาทเที่ยว เที่ยวชมรอบทุ่งกังหันลมทุ่งกังหันลม เขาค้อ (2)
ตรงทางเข้าทุ่งกังหันลมจะมีร้านขายของ ขายผักและผลไม้ให้เราเลือกซื้อกันช้าให้เล่น แล้วยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆด้วยทุ่งกังหันลม เขาค้อ (5)
ออกจากทุ่งกังหันลมเราจะเข้าไปที่ตัวอำเภอเขาค้อ

เขาค้อ

ตัวอำเภอเขาค้อ มีที่พักและลานกางเต้นอยู่เยอะมาก จุดที่นิยมที่สุดคงนี้ไม่พ้น ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ ที่นี่วิวสวยและสามารถชมทะเลหมอกได้ด้วย
– เอาเต็นท์มาเอง เสียค่ากางเต็นคนละ 50 บาท
– เช่าเต้นท์ขนาดกลาง ราคา 300 บาท นอนได้ 2 คน พร้อมเครื่องนอน
– เช่าเต้นท์ขนาดใหญ่ ราคา 600 บาท นอนได้ 4 คน พร้อมเครื่องนอน
– เช่าเต้นท์เปล่า (ไม่มีเครื่องนอน) ขนาดกลาง 120 บาท ขนาดใหญ่ 240 บาท
– บ้านพักราคา 1500 บาท นอนได้ 6 คน
ไปรษณีย์เขาค้อโทร : 056-728071 , 091-7723704 091-7723711 080-7915980
เราจะแวะชมวิวที่ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ ที่นี่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามมากๆผมเก็บภาพมาฝากไปดูกันว่าสวยแค่ไหน ไปรษณีย์เขาค้อ (1)ไปรษณีย์เขาค้อ (2)
ไปรษณีย์เขาค้อ (3)ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อคนเยอะ เรื่องห้องน้ำอาจจะไม่เพียงพอเราเลยยังไม่เลือกพักที่นี่  เพราะช่วงนี้อากาศหนาวมากเรื่องอาบน้ำจึงสำคัญมาก 55+ เราเลยอยากได้ที่พัก ที่เป็นลานกางเต้นท์และมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วย ขี่รถหาอยู่นานไปเจออยู่ที่หนึ่ง ที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วย

ภูอาบหมอก

เหตุผลที่เลือกที่พักที่นี่เพราะมีเครื่องทำน้ำอุ่น หน้าหนาวการอาบน้ำเป็นอุปสรรคมาก ที่พักหรือลานกางเต็นที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น จะทำให้การอาบน้ำเป็นเรื่องสนุกได้ ^__^ ที่นี่เราสามารถเช่าเต้นท์ได้ มีเครื่องทำน้ำอุ่น จัดไปเลยภูอาบหมอก เขาค้อ (1)
ราคา 600 บาท / เต้น นอนได้ 2 คน พร้อมอาหารเช้า พร้อมเครื่องนอน มีเครื่องทำน้ำ เป็นเต้นกันน้ำอย่างดี
ภูอาบหมอก เขาค้อ (2)ผมเอาเบอร์ที่พักมาไว้ให้ด้วยเผื่อใครสนใจไปพัก
ภูอาบหมอก
โทร : 0894369426 , 0890169542
อากาศหนาวๆ ต้องกินหมูกระทะเข้ากันมากมาย ทำไม่ไม่รู้ มาเที่ยว อากาศหนาวๆชิวๆต้องกินหมูกระทะทุกทีเลยใครเป็นแบบเราไหม ^__^หมูกระทะ
นี่แค่วันแรกในเขาค้อ ^__^

Day 2

เช้านี้ตั้งใจจะไปดูทะเลหมอกแต่รอบนี้เราไม่โชคดีความชื้นไม่ค่อยมีลมแรงมากเลยไม่มา แต่บรรยากาศยามเช้าอากาศหนาวสุดชื่นมาก เขาค้อ (1)เขาค้อ (2)
อาบน้ำแต่งตัวทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เราก็เก็บของ ข้อดีของการมีเครื่องทำน้ำอุ่นคือเราไม่ต้องกลัวเรื่องการอาบนตอนเช้า ^__^ภูอาบหมอก เขาค้อ (3)
วันนี้จะเดินทางไปเที่ยวต่อรอบเขาค้อ เดี๋ยวจะฝากกระเป๋าไว้ที่ที่พัก แล้วค่อยกลับมาเอา ป้าก็ใจดีมากมาย ขอบคุณจากใจเลยครับ ^__^เช่ามอเตอร์ไซค์ เขาค้อ ภูทับเบิก

สวนสตรอเบอรี่ เขาค้อ

ในเขาค้อมีไร่สตรอเบอรี่อยู่เยอะมาก เนื่องจากสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี ทำให้เหมาะสำหรับการสตรอเบอรี่ ที่นี่เราสามารถเข้าไปเก็บสตรอเบอรี่ในไร่ แบบสดๆจากต้นได้เลย มีอยู่หลายไร่ให้เลือกตลอดสองข้างทาง มีเยอะมาก สีแดง สดๆจากต้น น่าหม่ำมาก ^__^ สวนสตรอเบอรี่ เขาค้อ (1)สวนสตรอเบอรี่ เขาค้อ (2)
  สวนสตรอเบอรี่ เขาค้อ (3)สวนสตรอเบอรี่ เขาค้อ (4)

พระตำหนักเขาค้อ

พระตำหนักเขาค้อ เป็นพระตำหนักที่ตั้งอยู่บนเขาสูงอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1100 เมตร รอบๆพระตำหนักจะมีต้นสนจำนวนมาก เราสามารถเดินเล่นชมวิวรอบๆ พระตำหนักได้ แต่ภายในพระตำหนักไม่สามารถเข้าไปได้ พระตำหนักเขาค้อ (1)พระตำหนักเขาค้อ (2)
พระตำหนักเขาค้อ (3)พระตำหนักเขาค้อ (4)ที่นี่อากาศเย็นสบายตลอดปีมีจุดชมวิวที่สามารถชมวิวได้ 180 องศา ลมหนาวพักมาเบาๆ สดชื่นสุดๆ จุดชมวิว พระตำหนักเขาค้อ (1)จุดชมวิว พระตำหนักเขาค้อ (2)
ออกจากพระตำหนักเขาค้อ

เขาตะเคียนโง๊ะ

เขาตะเคียนโง๊ะ อยู่ถัดจากพระตำหนักเขาค้อราว 10 กิโลเมตร เราต้องเสียค่าเข้าคนละ 10 บาท ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถชมวิวได้ 360 องศา เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเต้นชมทะเลหมอกที่นี่ลมแรงมากเหมาะสำหรับคนที่ชอบท้าลมหนาว เป็นอีกสถานที่ที่เหมาะสำหรับ ชมทะเลหมอกที่เขาค้อ เขาตะเคียนโง๊ะ (1)เขาตะเคียนโง๊ะ (4)เขาตะเคียนโง๊ะ (3)เขาตะเคียนโง๊ะ (2)
ออกจากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะเราจะขี่รถย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อไปยังจุดต่อไป

พิพิธภัณฑ์อาวุธและการสู้รบเขาค้อ (ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ)

ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ เป็น พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการสู้รบกับคอมมิวนิสต์บริเวณพื้นที่เขาค้อ เราต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาท ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ (1)ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ (2)
ข้างในมีปืนใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ และปืนยิงสนับสนุน ให้ชมอยู่จำนวนมาก มีนิทรรศการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของการสู้รบในยุทธภูมิเขาค้อ ที่ตั้งอยู่บนเขาสูงอากาศดี มีจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ (3)ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ (5)ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ (4)จุดชมวิว ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ
ใกล้กันนั้นยังมีอีกหนึ่งสถานที่ นั่นคือ

อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ

อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรบุรุษ และผู้เสียสละที่เสียชีวิตจากการสู้รบในยุทธภูมิเขาค้อ ตั้งอยู่บนเขาสูง อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ (1)อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ (3)
ก็ใกล้กันนั้นยังมีฐานกรุงเทพ ที่เป็นฐานยิงสนับสนุน ที่สามารถเห็นวิวได้รอบทิศทาง เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งของเขาค้ฐานกรุงเทพ (3)ฐานกรุงเทพ (2)ฐานกรุงเทพ (1)ทุ่งกังหันลม

พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก

ตั้งอยู่กลางเมืองเขาค้ออย่าลืมแวะมากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับการเดินทางด้วยน๊าาพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก
เที่ยวเสร็จแล้วก็ไปเอากระเป๋าออกเดินทางต่อไปของเรานั่นคือภูทับเบิก
จากเขาค้อ เราจะเดินทางไกลไปที่ภูทับเบิกระยะทางราว 70 กิโลเมตร เป็นทางขึ้นเขา ควรเช็ครถให้ดีก่อนขึ้นไป และเช็คน้ำมันให้เรียบร้อย ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะผ่านโค้งหลายจุดทางชันมาก

ภูทับเบิก

สำหรับภูทับเบิก ที่นี่เป็นภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1758 เมตร การเดินทางขึ้นมาบนนี้ มีทางลาดยางตลอดเส้นทางเป็นเส้นทางที่มีโค้งเยอะ และลาดชันมากต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างมาก ภูทับเบิก (1)ภูทับเบิก (2)
เมื่อขึ้นมาข้างบนเราจะสามารถเห็นวิวได้สวยงามมาก วิวที่จะเป็นแบบพาโนรามาได้รอบทิศทาง ในช่วงที่เหมาะสมเราจะเห็นหมอกระหว่างทางอยู่เป็นจำนวนมาก ภูทับเบิก (3)ภูทับเบิก (5)ภูทับเบิก (4)
บนภูทับเบิกจะมีที่พักอยู่เยอะแยะมากมายไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว จะมีทั้งบ้านพักเป็นหลัง และพื้นที่สำหรับกางเต้นท์ และเต้นท์ให้เช่า เราเองก็ไม่ได้จองที่พักมาล่วงหน้า จึงใช้เวลาหาที่พักอยู่นาน จนไปเจออยู่ที่หนึ่งราคาไม่แพงตั้งอยู่ห่างไกลกลางสวนผัก ดูท่าทางเงียบสงบดี มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย ^__^

เดอะเซียร่า รีสอร์ท ภูทับเบิก

ที่นี่ไม่มีบ้านพักเป็นหลังแต่เป็นเต็นท์สำหรับให้เช่าและเป็น พื้นที่กลางเต็นท์ ที่นี่ตั้งอยู่ห่างจากรีสอร์ทอื่นๆ จึงทำให้เงียบสงบ วิวสวย บรรยากาศดีมาก และห้องน้ำทุกห้องก็มีเครื่องทำน้ำอุ่นไว้รองรับด้วยเดอะเซียร่า รีสอร์ท ภูทับเบิก (1)เดอะเซียร่า รีสอร์ท ภูทับเบิก (4)
ราคาค่าเช่าเต้นท์
– เต้นท์เล็ก ราคา 600 บาท / เต้นท์ นอนได้ 2 คน พร้อมอาหารเช้า
– เต้นท์ใหญ่ ราคา 1000 บาท / เต้นท์ นอนได้ 4 คน พร้อมอาหารเช้า เดอะเซียร่า รีสอร์ท ภูทับเบิก (3)เดอะเซียร่า รีสอร์ท ภูทับเบิก (2)
เป็นที่พักที่น่าสนใจเลยทีเดียวราคาไม่แพงมากมีเครื่องทำน้ำอุ่นและเงียบสงบอีกด้วย
ผมเอาเบอร์โทรมาไว้ให้ด้วยเผื่อใครสนใจ
เดอะเซียร่า รีสอร์ท
โทร : 0831648093 , 0882804074
เมื่อได้ที่พักแล้ว เราจะออกไปเที่ยวรอบๆภูทับเบิกกัน

วัดป่าภูทับเบิก

วัดป่าภูทับเบิก ตั้งอยู่บนภูทับเบิก เราจะเห็นวัดแห่งนี้ได้แต่ระยะไกล จะมีเจดีย์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนยอดเขาเห็นได้จากระยะไกลมาก วัดป่าภูทับเบิก (1)วัดป่าภูทับเบิก (3)วัดป่าภูทับเบิก (2)

เราก็เข้าไปกราบพระภายในวัด ทำบุญกัน บนนี้เงียบสงบมาก อากาศก็ดี เป็นสถานที่ที่ดีมาก

ไร่กะหล่ำภูทับเบิก

บนภูทับเบิกเราจะเห็นไร่กะหล่ำอยู่เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นของชาวบ้านที่ทำเกษตรปลูกพืชผัก จนเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญเบิกของภูทับเบิกไปเลย ที่นี่อากาศหนาวเย็นตลอดปีทำให้เหมาะกับการปลูก อากาศดีและสดชื่นมาก ไร่กะหล่ำภูทับเบิก ภูทับเบิก(4)ไร่กะหล่ำภูทับเบิก ภูทับเบิก(3)ไร่กะหล่ำภูทับเบิก ภูทับเบิก(2)ไร่กะหล่ำภูทับเบิก ภูทับเบิก(1)
ยังมีสวนดอกไม้ สีสันสดใส ตั้งอยู่บนเขาสูงอากาศเย็นสบาย สวยงามมากๆ และไร่สตอเบอรี่เยอะอีกด้วย ดอกไม้ ภูทับเบิก (1)ดอกไม้ ภูทับเบิก (2)
กลับมายังที่พัก ในตอนเย็นเราสามารถสั่งหมูกระทะมานั่งกินได้ ราคาชุดละ 350 บาท สั่งกับที่พักเลยจะได้ราคาไม่แพง ถ้าไปสั่งด้านนอกจะตกชุดละ 400 บาท นั่งกินหมูกระทะหน้าเต็นท์ลมเย็นๆพัด เข้ามาบรรยากาศชิวมาก
วันที่สองของทริปนี้ พรุ่งนี้เราจะไปลุยต่อ

Day 3

เช้าวันที่สาม ตื่นเช้าขึ้นมา รอชมพระอาทิตย์ขึ้น เป็นเช้าที่สดใสพระอาทิตย์ขึ้นสวยมาก อากาศดีพระอาทิตย์ขึ้น ภูทับเบิก (1)
ตั้งหน้าตั้งตารอ จะพบกับทะเลหมอก ในที่สุดเราก็ได้เห็นทะเลหมอกเช้านี้ ลมแรงหมอกก็พอมีบ้างอาจจะไม่เยอะมากแต่ก็ยังมีพอให้เห็น บรรยากาศยามเช้าสดชื่นมาก เห็นอายหมอกไกลสุดลูกหูลูกตา วิวภูเขากับทะเลหมอก ได้เห็นแค่นี้ก็สุขใจมากแล้ว ทะเลหมอก ภูทับเบิก (1)ทะเลหมอก ภูทับเบิก (3)ทะเลหมอก ภูทับเบิก (2)พระอาทิตย์ขึ้น ภูทับเบิก (3)ทะเลหมอก ภูทับเบิก (4)
พระอาทิตย์ขึ้น ภูทับเบิก (2)ชมวิวภูทับเบิกทานอาหารเช้าเสร็จ เก็บของเก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทาง กระเป๋าเราจะฝากไว้ที่ที่พักเหมือนเดิม ผมเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์พกกระเป๋าไปด้วย จะเกะกะได้ต้องขอฝากไว้ที่ที่พัก พี่เจ้าของก็ใจดีรับฝากให้ ^__^
วันนี้เราจะเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย และจังหวัดพิษณุโลก ที่นี่มีที่เที่ยวเยอะแยะมากมาย ได้แก่ ภูแผงม้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า ลานหินปุ่ม และผาชูธง เดี๋ยวเราจะพาไปเที่ยวชมให้หมดเลยอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ค่าเข้าอุทยาน
– ผู้ใหญ่ 40 บาท
– เด็ก 20 บาท
– ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 500 บาท
– เด็กชาวต่างชาติ 300 บาท
– มอเตอร์ไซค์ 20 บาท
– รถเก่งรถปิ๊กอัพรถตู้ 30 บาท
– รถหกล้อ 100 บาท
– รถมากกว่า 6 ล้อ ขึ้นไป 200 บาท

ภูแผงม้า

ภูแผงม้า เป็นจุดแรกที่เราจะต้องผ่าน ถ้าเข้าจากทางภูทับเบิก อยู่ถัดจากด่านเก็บเงินไม่เกิน 200 เมตร จะมีป้ายทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือ ขี่รถขึ้นเขาเข้าไปด้านในอีกภูแผงม้า (1)
ภูแผงม้า (4)ภูแผงม้า เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆของภูทับเบิก อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1775 เมตรสามารถมองเห็นวิวได้เกือบ 360 องศา เห็นวิวของภูทับเบิกสวยงาม มีภูเขายื่นออกไปทำให้วิวยิ่งสวยมากๆ บรรยากาศด้านบนลมแรง อากาศดี หากมีอากาศที่เหมาะสม เราจะเห็นทะเลหมอกไกลสุดลูกหูลูกตา ภูแผงม้า (2)ภูแผงม้า (3)
นับว่าเป็นจุดชมวิวที่ผมชอบและคิดว่าสวยงามที่สุดของภูทับเบิก
จากนี้เราจะออกเดินทางไกล 23 กิโลเมตร ไปยังบ้านร่องกล้า เพื่อต่อรถขึ้นไปยังภูลมโล

บ้านร่องกล้า

บ้านร่องกล้า ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เป็นชุมชนเล็กๆตั้งอยู่บนพื้นที่สูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดปีที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางที่จะต่อรถไปยังภูลมโลบ้านร่องกล้า
การเดินทางไปยังภูลมโลจะไม่สามารถนำรถส่วนตัวเข้าไปได้เนื่องจากเส้นทางแคปชัน ฝุ่นค่อนข้างเยอะ จะต้องเหมารถที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ เพื่อขึ้นไปยังภูลมโลรถขึ้นภูลมโล
อัตราค่าบริการรถบริการท่องเที่ยวภูลมโล
– ราคา 1000 บาท ต่อ 1 คัน นั่งได้ไม่เกิน 10 คนต่อคัน (10 คน ตกคนละ 100 บาท)
**สำหรับใคร ที่มาไม่ถึง 10 คน หรือมาสองคน สามคน แต่ไม่อยากเหมาก็รอไปกับกลุ่มอื่นได้ ซึ่งจะมีหลายคนที่มาน้อย แล้วมารวมกับคนอื่นๆ จะได้แชร์ค่ารถกันให้ถูกลง เบ็ดเสร็จ 10 คนตกคนละ 100 บาท อย่างของเราใช้เวลารวบรวมไม่ถึง 10 นาทีเพราะจะมีคนที่มาติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่อย เราก็แค่นั่งรอแถวนั้น

ภูลมโล

รถจะพาเราเที่ยว 4 จุด
1. ทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง
2. ทางขึ้นยอดภูลมโลจุดชมวิว
3. จุดชมวิวระหว่างทาง
4. ป้ายภูลมโลจุดชมวิว
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ผ้าปิดปากแว่นตาหรือหมวกเพราะระหว่างทางจะมีฝุ่นเยอะมาก
2. เสื้อกันหนาวใส่เสื้อกันหนาวไปด้วยเพราะลมแรงมากอากาศหนาว
3. การเดินทางทั้งหมดจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงควรกินข้าวดื่มน้ำให้เรียบร้อยเพราะระหว่างเที่ยวชมไม่มีร้านค้าร้านอาหารจนกว่าจะกลับมาที่บ้าน ร่องกล้า
จากบ้านร่องกล้าไปยังจุดแรกระยะทางค่อนข้างไกล จะใช้เวลาเดินทางราวราว 20 นาที ระหว่างทางจะมีฝุ่นเยอะมาก ผ้าปิดปากและแว่นสำคัญมากรถขึ้นภูลมโล
001 ทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง
ที่นี่เป็นจุดแรกที่เราจะมา และเป็นจุดที่สวยที่สุด และเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย รถจะจอดตามที่เราตกลงเวลากันกรณีที่ของเราจะใช้เวลาที่จุดนี้ 30 นาทีภูลมโล (5)ภูลมโล จังหวัดเลย (1)
ดอกนางพญาเสือโคร่งที่กำลังเบ่งบาน ออกดอกสีชมพูพร้อมกันทั่วทั้งภูเขา เป็นภาพที่สวยงามมากๆ จนได้รับขนานนามว่าเป็นทุ่งดอกซากุระของเมืองไทย ภูลมโล จังหวัดเลย (3)ภูลมโล จังหวัดเลย (2)ภูลมโล จังหวัดเลย (4)
มีต้นนางพญาเสือโคร่งนับร้อยต้น เกาะกลุ่มกันแข่งกันบาน 1 ปีจะบานแค่ 1 ครั้ง คือช่วงเดือนมกราคมของทุกปี แต่ละปีจะบานไม่ตรงกัน ภูลมโล (4)ภูลมโล (3)ภูลมโล (2)ภูลมโล (1)
อากาศเย็นลมหนาวพัดมาเบาๆ เดินชมต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือหลายคนเรียกว่าซากุระเมืองไทย พื้นหญ้าสีเขียว ต้นไม้สีชมพู ฟ้าเป็นสีฟ้า อากาศเย็นสบาย เป็นอะไรที่สวยงามมากๆ ดอกนางพระยาเสือโคร่ง ภูลมโล (5)ดอกนางพระยาเสือโคร่ง ภูลมโล (4)ดอกนางพระยาเสือโคร่ง ภูลมโล (3)ดอกนางพระยาเสือโคร่ง ภูลมโล (2)ดอกนางพระยาเสือโคร่ง ภูลมโล (1)
สมกับที่ตั้งตารอคอยมา 1 ปีเพื่อเบ่งบานแค่ 1 ครั้ง ต้องมาเห็นกับตาตัวเอง ที่นี่สวยงามมากแค่ไหน
ชมทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งเสร็จก็ไปยังจุดต่อไป
002 ทางขึ้นยอดภูลมโลจุดชมวิว
จุดนี้จะเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นวิวได้ 180 องศา เป็นจุดชมวิวที่สวยแห่งสามารถมองเห็นได้ไกลถึงภูทับเบิก ยอดภูลมโล (3)ยอดภูลมโล (2)
จากจุดนี้จะสามารถเดินเท้าขึ้นไปบนยอดของภูลมโล ขึ้นไป 650 เมตร ผมเองก็ไม่พลาดที่จะขึ้นไปเก็บภาพมาให้ชมกัน ข้างบนจะมีหน้าผาที่สูงมาก เห็นวิวได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ยอดภูลมโล (1)ยอดภูลมโล (5)ยอดภูลมโล (4)
003 จุดชมวิวระหว่างทาง
จุดนี้จะอยู่ข้างทาง มีก้อนหินใหญ่ ที่มีบันไดเดินขึ้นไปสามารถชมวิวได้ 360 องศา จุดชมวิวภูลมโล (3)จุดชมวิวภูลมโล (4)จุดชมวิวภูลมโล (1)จุดชมวิวภูลมโล (5)จุดชมวิวภูลมโล (2)
004 ป้ายภูลมโลจุดชมวิว
จุดนี้เป็นจุดสุดท้าย จะมีป้ายชื่อภูลมโล ให้ได้แวะถ่ายรูปกันภูลมโล
และยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบพาโนราม่า เห็นทุ่งต้นดอกนางพญาเสือโคร่ง ได้ทั้งภูเขา เที่ยวภูลมโล (2)เที่ยวภูลมโล (1)
อีกฝั่งก็สามารถมองเห็นภูหินร่องกล้า จุดนี้จะเป็นรอยต่อของสามจังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเพชรบูรณ์เที่ยวภูลมโล (3)
เสร็จแล้วรถจะกลับ ไปส่งเราที่เดิม
ออกจากบ้านร่องกล้า ไปอีก 7 กิโลเมตร เราจะไปสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่งของอุทยานแห่งชาติก็คือลานหินปุ่ม และผาชูธง
จากทางเข้าเราต้องเดินเท้าเข้าไปซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ระยะทางรวม ไป/กลับ 2 กิโลเมตร จะใช้เวลาเดิน 1 ชั่วโมงครึ่ง ควรพกน้ำดื่มเข้าไปด้วย
จากทางเข้าไปถึงลานหินปุ่ม ระยะทาง 1 กิโลเมตร ตามเส้นทางเราจะเห็นที่เกิดจากพลังธรรมชาติ เป็นรูปร่างต่างๆให้เราเห็นระหว่างทาง

ลานหินปุ่ม

ลานหินปุ่มจะมีลักษณะเป็นหินที่มีปุ่มนูนขึ้นมา อยู่เป็นจำนวนมากเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมาอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (1) อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (2)อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (3)
บริเวณนี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง สามารถมองเห็นวิวได้ไกลสวยงามมาก มีลมเย็นพัดตลอดเวลา อากาศเย็นสบายตลอดปีแม้ในหน้าร้อนลานหินปุ่ม (1) ลานหินปุ่ม (2)ลานหินปุ่ม (5)
ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นของคนไข้เนื่องจากอยู่บนหน้าผาจึงมีลมพัดเย็นสบายนั่งพักผ่อนลานหินปุ่ม (4)ลานหินปุ่ม (3)
เดินเท้าต่อไปตามเส้นทางอีก 600 เมตรก็จะถึง

ผาชูธง

ผาชูธง เราจะเห็นธงชาติไทยได้จากระยะไกล อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 600 เมตร เป็นหน้าผาสูง สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ไกลโดยเฉพาะตอนที่พระอาทิตย์ตก จะสวยงามมากผาชูธง (4)
บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่สู้รบระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่นี่เป็นจุดที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์จะขึ้นไปชูธงแดง (ฆ้อนเคียว) ทุกครั้งที่รบชนะทหารของรัฐบาลผาชูธง (1)ผาชูธง (2)ผาชูธง (3)
เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม อีกแห่งของเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ออกจากเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เราก็กลับไปยังผู้ทับเบิกเพื่อไปเอากระเป๋าแล้ว ลงจากภูทับเบิก ไปที่อำเภอหล่มสัก

หล่มสัก

กลับมาถึงหล่มสัก ก็คืนรถที่เช่ามา เราต้องเสียเงินค่าเกินเวลาครึ่งวัน เพราะเราขึ้นรถช้าเกินเวลาที่กำหนดไว้ 6 ชั่วโมงเสียค่าเช่าเพิ่มครึ่งวัน 150 บาท รับเงินมัดจำคืน ต้องขอขอบคุณร้านเช่ารถแห่งนี้ ที่ทำให้เราได้เดินทางได้สะดวก พี่เจ้าของร้านก็แนะนำดีมาก เสร็จแล้วก็ไปยังท่ารถเพรชประเสริฐ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ไม่ถึง 100 เมตรเพื่อรอขึ้นรถกลับกรุงเทพรถหล่มสัก กรุงเทพ
รถจากหล่มสักไปกรุงเทพ มีออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่วลา 05.00 – 23.30 ทุกวัน ค่ารถกลับกรุงเทพ 279 บาท ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ก็กลับมาถึงกรุงเทพ
จบเรียบร้อยแล้วครับ ทริป เขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีเวลาแค่สามวันสองคืนได้เที่ยว 3 จังหวัด ได้เห็นอะไรเยอะแยะมากมาย ธรรมชาติสวยสวย ได้พักผ่อนถือเป็นรางวัลกับชีวิตชีวิตมาก สำหรับใครที่อยากออกไปเที่ยว แต่ไม่รู้จะไปยังไง สามารถตามรอยรีวิวของเราไปได้เลย อย่างที่ผมบอกไว้ตั้งแต่ต้น ผมไม่ได้แค่ทำให้คุณอยากออกไปเที่ยว แต่ผมจะสอนวิธีให้คุณเดินทางออกไปเที่ยว ^__^ (TripTH) แล้วเจอกันทริปต่อไปครับ

 GoodBye

สรุปค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของทริปนี้
– ค่ารถทัวร์ไปหล่มสัก รถ ป.2 ราคา 217 บาท
– ค่ารถทัวร์กลับ กทม. รถ ม.4 ราคา 271 บาท
– ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 2 วัน 600 บาท
– ค่าเช่าเต้นท์ ภูอาบหมอก เขาค้อ
– ค่าเช่าเต้นท์ เดอะเซียร่า รีสอร์ท ภูทับเบิก
– ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท
– ค่านำมอเตอร์ไซค์เข้าอุทยาน 20 บาท
– ค่าจอดรถวัดผาซ่อนแก้ว 10 บาท
– ค่ารถขึ้นภูลมโล 100 บาท
– ค่าเข้า เขาตะเคียนโง๊ะ 10 บาท
– ค่าเข้าฐานยิงสนับสนุนอิทธิ 10 บาท
ค่าใช้จ่ายอื่นๆขึ้นอยู่กับบุคคลเลยน๊าา (แต่ละคนใช้จ่ายไม่เหมือนกัน)

ปล. ค่าใช้จ่ายต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรโทรเช็คก่อน

ภูอาบหมอก ที่พักเขาค้า
โทร : 0894369426 , 0890169542
ไปรษณีย์เขาค้อโทร : 056-728071 , 091-7723704 091-7723711 080-7915980
เดอะเซียร่า รีสอร์ท ที่พักภูทับเบิก
โทร : 0831648093 , 0882804074
รถทัวร์ไปหล่มสัก เพชรประเสริฐทัวร์
โทร056 720 720
เช่ามอเตอร์ไซค์เขาค้อ ตามเบอร์ด้านล่างนี้เลยครับ
โทร : 097-1725960
โทร : 064-3213352
โทร : 056-704205
รถนำเที่ยว เขาค้อ ภูทับเบิก ผมก็เอาเบอร์มาฝาก จะได้ไม่ต้องไปหาให้ยุ่งยากครับ
โทร : 090-4544676 ,083-6268083 (คุณประสงค์)
โทร : 087-5741548 (คุณกวาง)
รายละเอียดtour-khaokho.blogspot.com/

:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2

ภาพและข้อมูลโดย © TripTH

เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn @ TripTH

ทบทวนภาพรวม
รีวิวเขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล
Roongnakhon Yodcamtan
ผู้ที่รักการทำ Content เป็นชีวิตจิตใจ ชอบถ่ายภาพ ชอบดำน้ำ ชอบเที่ยวมาก และอยากมอบอะไรดีๆให้กับผู้อื่น
%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%ad-%e0%b8%a0%e0%b8%b9%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8%81รีวิวเขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว