พาเที่ยว บางกระเจ้า One Day Trip ได้รับการยอมรับว่า Best Urban Oasis ปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย ปั่นจักรยานไป ตลาดบางน้ำผึ้ง ชมธรรมชาติสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ศึกษาพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย
สวัสดีค่าา ทริปนี้เราจะพาไปปั่นจักรยานเที่ยวกันที่โอเอซิสใกล้กรุงเทพฯ หรืออีกชื่อนึงคือปอดใกล้กรุงจ้าา ไม่ใช่ที่ไหนไกล คือ “บางกระเจ้า” นั่นเอง ที่นี่เคยได้การยอมรับว่าเป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียเลย การไปเที่ยวบางกระเจ้านั้นแนะนำให้ปั่นจักรยาน จะช่วยลดมลพิษสภาพแวดล้อมแล้วยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย อีกทั้งมีเส้นทางสำหรับจักรยานอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด น่าสนุกใช่ไหมล๊าา ถ้าอยากรู้ว่าเราไปยังไง? เดินทางยังไง? ออกกี่โมง? กลับถึงกี่โมง? ไปเริ่มกันเลยย 0/
ไปยังไง?
การเดินทางไปบางกระเจ้า
ง่ายมากๆและค่าโดยสารถูกสุดๆ เริ่มที่การนั่งรถเมลล์ไปลงแยกบางนาหรือจะนั่งบีทีเอสไปลงแยกบางนาก็ได้จากนั้นนั่งวินมอเตอร์ไซค์ต่อ แล้วก็นั่งเรือข้ามฟาก เท่านี้ก็จะถึงบางกระเจ้าแล้วจ้า
เดินทาง (08.00 น.)
เราไปทางเส้นสุขุมวิท เราเลือกขึ้นรถเมล์ไปแยกบางนา พอถึงแยกบางนาเราก็นั่งมอเตอร์ไซค์ต่อไป ท่าเรือวัดบางนานอก จากนั้นรอขึ้นเรือข้ามฝั่งไป แค่นี้ก็จะถึงบางกระเจ้าแล้วจ้า
ค่ารถเมลล์ 6.50 บาท
ค่าวินมอเตอร์ไซค์ 30 บาท
ท่าเรือวัดบางนานอก (08.55 น.)
ถึงท่าเรือวัดบางนานอกแล้วนะคะ พอถึงก็ไม่รอช้า ไปขึ้นเรือทันทีเลยจ้าและรอเรือออก
เรือข้ามฟากนี้สามารถนำมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานขึ้นไปด้วยได้นะคะ ถ้าใครพกจักรยานไปเองนี่ดีเลยไม่ต้องไปเช่าที่นั่น หรือถ้าพกมอเตอร์ไซค์ก็ดีใหญ่ ไปขับเล่นกันที่บางกระเจ้า
ค่าโดยสารเรือข้ามฟาก คนละ 4 บาท / จักรยานและมอเตอร์ไซค์ 6-10 บาท
ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก (09.05 น.)
ไม่ถึง 10 นาที นั่งเรือข้ามฟาก รวมถึงจอดเรือด้วย แปปเดียวก็ถึง ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก แล้วนะคะเนี่ย (จ่ายค่าโดยสารเรือที่ท่าเรือนี้) ลงเรือจ่ายตังปุ๊บตรงหน้าเราจะเป็นวัดเลยค่า
พอถึงท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก ขวามือหน่อยๆจะมีร้านเช่าจักรยาน (สำหรับใครที่อยากเช่าจักรยานปั่นนะไม่ได้บังคับ) แนะนำให้เช่าจักรยานจะดี เพราะระยะทางแต่ละที่บางที่ห่างกันเป็นกิโล แถมยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย
เราเช่าจักรยานร้านนี้เลยค่า แดง & แหม่ม ราคา 50 บาท ปั่นได้ทั้งวันเลย 08.00-18.00 น. (เปิดเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์) แถมได้ขึ้นเรือข้ามฟากขากลับฟรีอีก พอเช่ามาแล้วแนะนำให้จำเลขหน้ารถจักรยานของเราให้ดี เพราะจะได้ไม่หายและไม่หลงลืมไปไหน แต่ละสถานที่จอดในบางกระเจ้าจะมีจักรยานจากร้านเช่าอื่นจอดกันเต็มไปหมด กันหายกันลืมนะจ๊ะ
*ต้องแลกบัตรประชาชนในการเช่าจักรยานนะคะ*
บางกระเจ้า
พื้นที่ บางกระเจ้า หรือ เกาะกระเพาะหมู ตั้งอยุ่ในอำเภอพระประแดง จังหวัด สมุทรปราการ โดยพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางกว่า 18 กิโลเมตร
บางกระเจ้านี้เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่อยู้ใกล้กรุงเทพฯมากที่สุด พื้นที่อยู่ทางทิศใต้ของที่ราบภาคกลางตอนล่าง ประกอบด้วยพื้นที่ของ 6 ตำบล คือ ตำบลทรงคนอง ตำบลบางยอ ตำบลบางกระสอบ ตำบลบางน้ำผึ้ง ตำบลบางกอบัว ตำบลบางกระเจ้า และในพื้นที่นี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเต็มไปด้วยสวนป่าและสวนผลไม้ สวนสารธารณะที่สีเขียวชะอุ่ม ไปปั่นจักรยานเล่นกันเถอะ
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2520 ได้มีมติคณะรัฐมนตรี กำหนดให้ บางกะเจ้า เป็นพื้นที่สีเขียว เหมาะแก่การเพาะปลูก โดยไม่อนุญาตให้ทำการก่อสร้างตึกหรืออาคารที่มีความสูงเกินกว่าที่กำหนด และเมื่อปี 2549 นิตยสาร Time ได้ยกให้พื้นที่บางกระเจ้าเป็น The best Urban Oasis of Asia หรือที่เรียกว่า เป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียเลยนะเนี่ยยย
ถึงเวลาจะผ่านมานานหลายสิบปี สถานที่แห่งนี้ยังถือว่าเป็น ปอด ฟอกอากาศให้กรุงเทพฯ และจังหวัดสมุทรปราการ ได้อย่างดีเสมอมาจ้า
ข้อมูลเพิ่มเติมบางกระเจ้า
ที่อยู่ : ตำบล บางกะเจ้า อำเภอ พระประแดง จ.สมุทรปราการ
พิกัด : https://goo.gl/maps/CEgPmnAhSXF2
GPS : 13.665261, 100.539546
ตลาดบางน้ำผึ้ง (09.20น.)
ถือเป็นตลาดชื่อดังในแทบนี้เลย ตั้งอยู่ในโซนบางกระเจ้า ปั่นจักรยานจากท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอกมาแปปเดียวก็ถึง พอเห็นป้ายตามรูปด้านล่าง ตลาดก็จะอยู่ขวามือละน้า
ที่นี่เป็นตลาดในร่ม เพราะฉะนั้นไม่โดนแดดไม่ร้อนแน่ ปัจจุบันได้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในตำบลบางน้ำผึ้ง อดีตเคยเป็นตลาดน้ำที่มีพ่อค้าแม่ค้าขายของบนเรือกันมาก่อน
ตลาดที่นี่ครึ้กครื้นมากและร้านค้าก็เยอะมากเช่นกัน ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ของกิน ของหวาน แต่ยังมีเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมไปถึงสินค้า OTOP กระทั่งให้นมแพะ ฮ่าๆ และอีกหลายอย่าง ถือว่าครบเครื่องจริงๆ
พอข้ามไปก็จะเจออีกโซน พื้นที่ภายในตลาดนั้นกว้างขวางมาก เอาเป็นว่าเรามาเดินวันเดียวก็ยังไม่หมด แถมขายของราคาไม่แพงด้วยนะ
พอค้าแม่ค้าก็ใจดี มียื่นมาให้ลองกินฟรีอยู่หลายร้าน ที่นี่นอกจากจะเอาใจใส่เรื่องของคุณภาพของสินค้าแล้ว ก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ภูมิปัญญาไทยๆ เช่น สมุนไพรลงไปในสินค้า ถือเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของตลาดแห่งนี้เลย
เดินมาอีกแปปนึง เจออีโซนอีก อย่างที่บอกนะคะ ที่นี่ตลาดกว้างมากๆ รวมๆแล้วความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ^^
เรือนนมสด (อยู่ภายใน ตลาดบางน้ำผึ้ง 11.30น.)
ลักษณะเป็นเรือนทรงไทยที่ภายในมีขายนมสด กาแฟ ชา เมี่ยงคำและอื่นๆอยู่ข้างใน ดีไซน์ดีมากเลยค่ะ เข้าไปแล้วเหมือนอยู่ในหนังเรื่อง บุพเพสันนิวาส ฮ่าๆ เพราะมีใต้ถุน เอ้ย! ข้างใต้ตัวเรือนเป็นเหมือนสมัยก่อนเด๊ะๆ ที่นี่เปิดให้คนเข้ามานั่งเล่น ถ่ายรูปกันเก๋ๆ หรือจะมาอุดหนุนกาแฟ กับเมี่ยงคำก็ได้นะจ้า
เดินเข้ามานิดนึงจะเจอร้านกาแฟเล็กๆ แต่ลูกค้าเพียบทำแทบไม่ทัน แล้วก็ร้านเมี่ยงคำอยู่ข้างๆ ที่จัดจานสละสลวย สวยแบบไทยๆ ทำให้น่ากินไปอี๊กกกก ราคาก็ไม่แพงด้วย รสชาติอร่อยถูกปากมากๆค่าาา
เมี่ยงคำชุดละ 30 บาท
วันเวลา เปิด-ปิด : เฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 08.00น. – 17.00น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/LkXKmLMY83S2
ปั่นกินแฟ
ร้านคาเฟ่ ที่อยู่ใกล้ๆกับตลาดบางน้ำผึ้ง ระหว่างจะไปสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ก็สามารถแวะมานั่งชิมและตากแอร์เย็นๆของร้านคาเฟ่นี้ได้
ที่นี่ไม่ได้มีแค่เมนูเครื่องดื่ม ยังมีเค้ก และของหวานอื่นๆอีกเพียบ ในราคาสมคุณภาพ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวแถวนี้มักแวะมากินกาแฟที่นี่เป็นประจำจ้า
วันเวลา เปิด-ปิด : จันทร์-ศุกร์ 09.00-18.00น. / วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 07.00น. – 19.00น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/MjirfygqZjS2
ระหว่างทางไป ร้านใกล้ๆ ปั่นกินแฟ เจอร้านหมวกมือสอง 20 บาท !!!!!!!! บ้าไปแล้ววววว สภาพดีเยอะแยะเลยนะคุณ ใครที่มาเที่ยวบางกระเจ้าแล้วร้อนหน้า ร้อนแดด ซื้อไปใส่กันได้ในราคาประหยัดสุดๆเลยจ้า
สายช็อปอย่างเรานี่ไม่พลาด จัดมาสักใบ ถูกมากๆ ฮ่าๆ ^ ^
กาแฟในบ้าน
ตั้งอยู่ตำบลบางยอ อีกหนึ่งร้านคาเฟ่ ขับจักรยานผ่านหน้าร้านแล้วจะเห็นป้ายบะเร่อ ถูกใจต้องแวะชมร้านกันสักหน่อย
เป็นร้านที่ตกแต่งสไตล์วิถีของชาวประมงพื้นบ้าน การตกแต่งเป็นเม้นและประดับด้วยไม้ โต๊ะจะเป็นไม้ไปซะหมด เครื่องดื่มก็มีหลากหลายเมนูให้เลือกทานจ้า
วันเวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 07.00น. – 17.00น. (หยุดทุกวันพุธ)
พิกัด : https://goo.gl/maps/m2pP7gVpT6P2
จะค่อนข้างรู้สึกว่าไกลนิดหน่อย แต่จริงๆไม่มากค่ะ ประมาน 1 กิโลกว่าๆ พอถึงทางแยกนี้ ให้มั่นใจได้ว่ามาถูกทางแล้วค่ะ ไปตามป้ายเลยจ้า แต่ค่อนข้างจะอยู่ในซอยลึกนิดนึงนะคะ
ระหว่างปั่นจักรยานไป ผ่านตรงนี้ ไม่รู้เค้าปลูกไรกันหละ แต่รู้สึกโล่งและวิวสวย ขอถ่ายรูปสักแปปหน่อย 5555 จากนั้นค่อยไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง
สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
ถึงแล้วววววววว สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ หรือที่คนชอบเรียกกันว่า สวนบางกระเจ้า แค่เข้ามาก็เชื่อได้ว่า นี่แหละโอเอซิสใกล้ๆกรุง
ด้วยความที่ต้นไม้เยอะแยะไม่รกรุงรังนั้น ทำให้ปกคลุมจนทางที่ปั่นจักรยานรอบๆสวนนั้นไม่มีแดด กลายเป็นที่ร่มและล้อมรอบด้วยต้นไม้ไปเลยจ้า ฟินสุดๆ
ใครมาบางกระเจ้า ไม่มาสวนนี้เหมือนมาไม่ถึง เพราะสวนสาธารณะที่นี่จะแตกต่างกับสวนสาธารณะทั่วไป ยังมีความร่มรื่นและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้นานาพันธุ์สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
นักท่องเที่ยวมักจะชอบมาเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือมาขี่จักรยานกัน โดยถือได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบขี่จักรยานเลยทีเดียว ร่มรื่นและไม่แออัดยัดเยียด สวนศรีนครเขื่อนขันธ์แห่งนี้มีพื้นที่กว่า 200 ไร่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๙) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า สวนศรีนครเขื่อนขันธ์”โดยมีพระราชดำริไว้สำหรับกรมป่าไม้ได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการพื้นที่สีเขียวโครงการสวนกลางมหานคร หรือการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวบริเวณบางกระเจ้าให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างยั่งยืน
สะพานเขื่อนขันธ์มรรคา
มุมถ่ายรูปฮิตสุดๆของสวนนี้ เพราะไม่ว่าใครจะมาขับจักรยานหรือพักผ่อนหย่อนใจเล่น ก็ต้องแวะมาถ่ายรูปที่สะพานนี้กันซะส่วนมาก
ลักษณะเป็นสะพานที่ทอดยาวข้ามสระน้ำออกไปสะพานนี้เป็นสะพานที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
หมายถึง สะพานที่เป็นทางเดินอยู่ในสวนศรีนครเขื่อนขันธ์เพื่อเป็นทางศึกษาธรรมชาติทางน้ำ อาทิ พันธุ์ปลาต่างๆและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในท้องถิ่น นั่นเองค่า
หอดูนก
มีความสูงระดับ 3 ชั้น ล้อมรอบด้วยต้นไม้ ถ้าใครโชคดีก็จะเจอนกต่างๆที่หอดูนกนี้ (แต่เราไม่เจอ เจอแค่รัง) สามารถมาศึกษาสัตว์ และที่อยู่อาศัยของนก(รัง) ตามธรรมชาติและมากกว่านั้นสามารถดูวิวได้ด้วย
ยังมีมุมนั่งเล่นข้างล่าง ร่มรื่นและร่มเย็น ลมพัดตลอด หรือจะให้เพื่อนถ่ายรูปอาร์ตๆ แนวๆ กลับบ้านติดไม้ติดมือไปได้ด้วย
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/Jcz7ZePhoM92
พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย
พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ได้จัดตั้งไว้เพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ในรูปแบบ พิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้ และการพักผ่อนหย่อนใจ
ซึ่งนอกจากเนื้อหาด้านปลากัดและความสวยงามของปลากัดสายพันธุ์ต่างๆ ที่ได้จัดแสดงไว้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ
พิพิธภัณฑ์ได้ตั้งอยู่บนพื้นที่กระเพาะหมูของแม่น้ำเจ้าพระยา อันได้ชื่อว่าเป็นปอดของ คนกรุงเทพฯ ใครที่มาเดินชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถสูดอากาศ บริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด
ส่วนจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ บ้านรักรู้ หอโลกหอธรรม เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และลานคนกล้า ซึ่งแต่ละส่วนก็จะสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับปลากัดไทย และความเป็นพื้นบ้านพื้นถิ่นเอาไว้มากมาย
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น.
เบอร์โทร : 02 815 0149
พิกัด : https://goo.gl/maps/Ckvwo7UJvUn
วัดพราหมณ์ – มหาเทวลัย
แวะสักการะและขอพรกับพระพิฆเนศก่อนจะไปอีกที่ พระพิฆเนศ เทพเจ้าที่ได้ความนับถือจากคนอีกมากมาย และยังได้รับขนานนามว่าเป็น เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ คนมักจะมาขอพรและบนบานกันและมักจะสำเร็จสมดั่งปรารถนา เราจึงไม่รอช้ารีบไปขอพรกันไวๆ อิอิ
facebook : วัดพราหมณ์ – มหาเทวลัย
เบอร์โทร : 080 823 8628
พิกัด : https://her.is/2KaRi24
Bangkok Tree House
เป็นที่พักแนวอาร์ตๆ ติสๆ ผสมความโมเดิร์นเข้าของบางกระเจ้า ซึ่งให้ความใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบสุดๆ จึงทำให้เป็นที่รู้จักในหมู่วัยรุ่ยและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก คนส่วนมากที่มาพักจะเป็นชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่
ตัวอาคารจะแบ่งออกเป็นโซนที่พัก ซึ่งปิดไว้ให้มีความเป็นส่วนตัว และมีส่วนของร้านอาหารและเครื่องดื่มที่คนภายนอกสามารถเข้ามานั่งรับประทานอาหารและชมบรรยากาศด้านในร้านได้ด้วย
ยังมีทำมุมให้นั่งเล่นกันชิวๆ ริมแม่น้ำและบนดาดฟ้าอีกมากมาย เป็นที่พักเล็กๆที่ใช้สอยได้ทุกมุมจริงๆเลยค่า
เว็บไซต์ : http://www.bangkoktreehouse.com
facebook : Bangkok Tree House (Green Hotel & Organic Restaurant)
พิกัด : https://goo.gl/maps/NdQ51ZpSA5T2
ขึ้นเรือข้ามฟากกลับ (16.30 น.)
จบแล้วนะค้าาา เป็นไงกันบ้างกับการปั่นจักรยานเที่ยวบางกระเจ้า ปอดแห่งเอเชีย เป็นพื้นที่ที่ปกคลุมและล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เยอะแยะเลย แถวสถานที่เที่ยวในแทบนั้นก็เยอะมากๆด้วย ค่าเช่าจักรยานก็ถูกแสนถูก กับการเดินทางง่ายๆอีกด้วย คราวหน้าเราจะมารีวิวแนะนำอะไรไปรอติดตามกันด้วยน้า ^^
Good Bye 0/
ค่าใช้จ่ายทริปนี้ (แต่ละคนอาจจะไม่เท่ากันน้า)
– ค่าวินมอไซไปหน้าซอยบ้าน 30 บาท
– ค่ารถเมล์ ไปแยกบางนา 6.50 บาท
– ค่าวิน 30 บาท ไปวัดบางนานอก
– ค่าเรือ 4 บาท จากวัดบางนานอกข้ามฟากไป
– ค่าเช่าจักรยาน 50 บาท ได้ทั้งวัน 08.00น.-17.00น. แถมฟรีค่าเรือขากลับไปวัดบางนานอก
– ค่าโค้ก 20 บาท
– ค่าขนมจีน 50 บาท
– ค่าทาตไข่ 20 บาท
– ค่าเมี่ยงคำ 30 บาท
– ค่ามาม่าผัดขี้เมา 40 บาท
– ค่ารถขากลับบ้าน 64 บาท