นั่งรถไฟไปเที่ยวจังหวัดลพบุรี ชมโบราณสถานของไทยและอารยธรรมโบราณ แบบ One Day Trip เดินทางโดยรถไฟ ค่าโดยสารแค่ 40 บาทเท่านั้นเอง ขอย้ำนะคะว่า 40 บาท !!
สวัสดีค่ะ วันนี้กลับมาพบกันอีกแล้ว กับทริปชมโบราณสถานของไทยและอารยธรรมโบราณ แบบ One Day Trip ครั้งนี้จะพาไปชมโบราณสถาน 6 ที่ กับการนั่งรถไฟไป ค่าโดยสารแค่ 40 บาท นั่งรถไฟเพียงแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยยยย
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Website : www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line ID : : @TripTH
Inbox : m.me/TripTH.con/
ไปยังไง ?
เดินทางโดยรถไฟ ไปขึ้นที่สถานีหลักสี่ (หรือสถานีอื่นๆทีสะดวกและใกล้บ้าน และสามารถโทรสอบถามทางการรถไฟได้) ไม่มีการจองล่วงหน้านะคะ เนื่องจากเป็นสถานีที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ จึงต้องวอคอินเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟเลย
เบอร์การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690
Let’s Go ! ! !
เดินทาง
พอไปถึงสถานีรถไฟหลักสี่ เราก็รีบไปจองตั๋วรถไฟไปลพบุรีกันเลยค่ะ ได้รถไฟขบวนที่ 111 (รถเร็ว) เป็นตั๋วแบบยืน รถไฟจะออกตอน 07.42 น.
ของเราเป็นตั๋วยืนนะคะเพราะเป็นการเดินทางระยะสั้น ที่นั่งตรงไหนที่ว่างเราสามารถไปนั่งได้ก่อน แต่ถ้ามีเจ้าของที่นั่งมาเราต้องลุกให้เขานั่ง เพราะเขาเป็นตั๋วเดินทางแบบระยะไกล รถไฟจะมาถึงสถานีหลักสี่ก่อนเวลาออกประมาณ 5 นาที จอดรับคนไม่นานก็ออกเดินทางต่อเลย
ลพบุรี (09.42 น.)
พอลงจากรถไฟปุ๊บ ฝนตกพรำๆปั๊บ แต่ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับทริปนี้ ขอบอกก่อนนะคะว่าทริปนี้ เป็นทริปเดินเท้าชมล้วนๆ จะได้บรรยายกาศดีๆไปอีกแบบ แถมได้ออกกำลังกายด้วยนะคะ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
เริ่มเลยที่แรกที่ไปคือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดที่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลย
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดพระธาตุ ศาสนสถานที่มีพระปรางค์องค์ใหญ่สูง 30.7 เมตร ตั้งอยู่กลางวัด ขนาบด้วยพระปรางค์ขนาดเล็กด้านทิศเหนือและทิศใต้ ปัจจุบันเหลือเพียงฐาน
ค่าเข้า : ชาวไทย 10 บาท / ชาวต่างประเทศ 50 บาท
เวลาทำการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ 07.00 – 17.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/oeDoDb
วัดนครโกษา
มาต่อกันที่ที่ 2 เดินจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุประมาณ 5 นาที ไปถึงวัดนครโกษา ระยะทางประมาณ 500 เมตร
วัดนครโกษา โบราณสถานที่พบร่องรอยการก่อสร้าง 3 สมัยคือเริ่มแรกสร้างเจดีย์องค์ใหญ่สมัยทวารวดี ต่อมาสร้างพระปรางค์สถาปัตยกรรมแบบสมัยลพบุรี และบูรณปฏิสังขรณ์เป็นวันในสมัยอยุธยา มีเงื่อนไขของความเป็นไปได้ว่า เจ้าพระยาโกษาธิบดี(เหล็ก) ขุนนางในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นผู้ควบคุมการบูรณะ เป็นที่มาของชื่อ วัดนครโกษา
ค่าเข้า : ไม่มีค่าเข้า
พิกัด : https://goo.gl/ae9j4B
ศาลพระกาฬ
มาต่อกันที่ที่ 3 ศาลพระกาฬ เราสามารถเดินจากวัดนครโกษาประมาณ 100 เมตรก็จะถึงศาลพระกาฬแล้ว
ศาลพระกาฬ หรือเดิมเรียกว่า ศาลสูง เป็นที่ประดิษฐาน เจ้าพ่อพระกาฬ เทวรูปโบราณยุคขอมเรืองอำนาจ เป็นโบราณสถานและศาสนสถานที่ตั้งอยู่กลางวงเวียนชื่อ วงเวียนศรีสุนทร บนถนนนารายณ์มหาราช ในเขตตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์สามยอดและเส้นทางรถไฟสายเหนือ
ค่าเข้า : ไม่มีค่าเข้า
เวลาทำการ : 08.30-16.30 น.
พิกัด : https://goo.gl/Vww7NW
พระปรางค์สามยอด
สถานที่ที่ 4 พระปรางค์สามยอด เดินจากศาลพระกาฬประมาณ 200 เมตรก็จะถึงพระปรางค์สามยอด
พระปรางค์สามยอด จังหวัดลพบุรี เป็นโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี
ลักษณะเป็นปราสาทเขมรในศิลปะบายน (พ.ศ. 1720 – 1773) โครงสร้างเป็นศิลาแลงประดับปูนปั้น สร้างขึ้นใน
รัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (ครองราชย์ พ.ศ. 1724 – ประมาณ 1757) เพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิวัชรยานประจำเมืองละโว้หรือลพบุรี
ซึ่งในขณะนั้นเป็นเมืองลูกหลวงของอาณาจักรกัมพูชา แต่เดิมภายในปราสาทประธานประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรกทรงเครื่อง ปราสาททิศใต้ประดิษฐานรูปพระโลเกศวร (พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร) สี่กร และปราสาททิศเหนือประดิษฐานรูปพระนางปรัชญาปารมิตาสองกร
*สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับเจ้าลิงคือ ขวดน้ำ ร่ม หรือสิ่งที่มันสามารถจะเอาไปได้ แม้กระทั่งแว่นตาก็ต้องระวังเช่นกันค่ะ*
ค่าเข้า : ชาวไทย 10 บาท / ชาวต่างประเทศ 50 บาท
เวลาทำการ : 06.00-18.00 น. เว้นวันจันทร์-อังคาร
พิกัด : https://goo.gl/c2S6k5
บ้านหลวงรับราชทูต(บ้านวิชาเยนทร์)
สถานที่ที่ 5 บ้านหลวงรับราชทูตหรือบ้านวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) เดินจากพระปรางค์สามยอดมาประมาณ 500 เมตร
“บ้านวิชาเยนทร์” หรือ “บ้านหลวงรับราชทูต” ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของพระนารายณ์ราชนิเวศน์ สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เนื่องจากสถานการณ์ที่นี้เป็นที่พำนักของ เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ขุนนางสำคัญในสมัยนั้น จึงได้ชื่อว่า “บ้านวิชาเยนทร์”
ค่าเข้า : ชาวไทย 10 บาท / ชาวต่างประเทศ 50 บาท
เวลาทำการ : 08.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ และ อังคาร
พิกัด : https://goo.gl/t95L7A
เดินชมโบราณสถานมา 5 ที่แล้วรู้สึกเหนื่อยๆ อยากจะหาอะไรดื่มให้สดชื่นสักหน่อย จะมีร้านขายน้ำสมุนไพรอยู่ตรงข้ามบ้านหลวงรับราชทูตหรือบ้านวิชาเยนทร์ เป็นร้านรถเข็นเล็กๆ น้ำแก้วละ 20 บาทเท่านั้นเอง
พอได้เติมน้ำตาลเข้าร่างกายก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมา เอาละมีแรงเดินต่อละ
แต่ทว่าแค่น้ำสมุนไพรมันไม่พอเนี่ยสิเลยเดินไปส่วนของตลาดวัดขุนนาง เจอร้านก๋วยเตี๊ยวสูตรพริกกะเหรี่ยง เจ๊อ้อย อยากจะบอกว่าคนแถวนั้นพูดหนาหูมากมาว่าร้านนี้อร่อยมาก ถ้าเดินไปไม่ถูกลองถามคนแถวนั้นดู รับรองไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้เลย พอไปถึงเลยลองจัดก๊วยเตี๋ยวบะหมี่หมูหมักสัก 2 ชาม
แต่ขอบอกเลยว่าเป็นก๊วยเตี๋ยวสูตรพริกกะเหรี่ยงซึ่งเผ็ดพอสมควร ใครที่ทานเผ็ดไม่เก่งแนะนำให้สั่งแบบไม่ใส่พริกนะคะ ไม่งั้นเหงื่อตกแน่ๆ และอยากจะบอกว่าหมูหมักชิ้นเบ้อเร่อ และอร่อยมาก และทางร้านยังมีอีกหลายๆเมนูเส้นให้เลือกค่ะ
โบราณสถาน พระนารายณ์ราชนิเวศน์
และสถานที่สุดท้าย สถานที่ที่ 6 พระนารายณ์ราชนิเวศน์
พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์มีพื้นที่ประมาณ 43 ไร่ ออกแบบโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยผสมตะวันตก สมเด็จพระ นารายณ์ทรงโปรดประทับ ณ เมืองลพบุรีเกือบตลอดปี เฉพาะฤดูฝนเท่านั้น จึงเสด็จไปประทับอยู่ ณ กรุงศรีอยุธยา เมืองลพบุรีจึงเป็นศูนย์กลางความเจริญตลอดรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์
พระราชวังหันเข้าหาตัวเมือง ด้านหลังติดแม่น้ำลพบุรี กำแพงพระราชวังก่ออิฐถือปูน กำแพงชั้นนอกสูงใหญ่โดยรอบ มีใบเสมาเรียงรายบนสันกำแพงตลอดตรงกึ่งกลางกำแพงมีป้อมปืนอยู่ 7 ป้อม ตรงฐานของป้อมปืนแต่ละป้อมเจาะเป็นช่องกลมเพื่อเสียบปืนใหญ่ กำแพงด้านในเจาะเป็นช่องสำหรับตามประทีป มีประตูทางเข้า 7 ประตู มีลักษณะโค้งแหลม ปัจจุบันเปิดให้เข้าได้เฉพาะประตูด้านหน้า ทางทิศตะวันออกเท่านั้น
ค่าเข้า : ชาวไทย 30 บาท / ชาวต่างประเทศ 150 บาท
*นักเรียนนักศึกษาในเครื่องแบบ, ผู้สูงอายุ, ภิกษุสามเณรและนักบวชในศาสนาต่างๆ ไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม*
เวลาทำการ : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ เปิดบริการวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น.
/ โบราณสถานพระนารายณ์ราชนิเวศน์ เปิดบริการวันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 07.00 – 17.30 น.
พิกัด : https://goo.gl/e1JA9K
กลับกรุงเทพฯ 17:32 น.
จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับทริปเดินชมโบราณสถานที่จังหวัดลพบุรี ได้ทั้งภาพสวยๆ ได้ทั้งเหงื่อเลยค่ะ รับรองว่าคุ้มกับค่าเหนื่อยจริงๆค่ะ เพราะว่าสถานที่จริงสวยมาก กับการเดินทางโดยรถไฟขาไปแค่ 40 บาท (รถเร็ว) เท่านั้นเองค่ะ ส่วนขากลับ 24 บาท (รถธรรมดา) สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ และชอบชมโบราณสถานประวัติศาสตร์ของไทย ห้ามพลาดเลยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในทริปหน้านะคะ
ค่าใช้จ่ายของทริปนี้
- ค่าเดินทางจากบ้านไปสถานีรถไฟหลักสี่ 22 บาท
- ขนมปัง 20 บาท
- ค่าน้ำ 10 บาท
- ค่ารถไฟขาไปจากหลักสี่ 40 บาท (รถเร็ว) / *กรณีขึ้นจากหัวลำโพง 50 บาท*
- ค่ารถไฟขากลับ 24 บาท (รถธรรมดา)
- ค่าจากสถานีรถไฟกลับบ้าน 23 บาท
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ 10 บาท
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมบ้านหลวงรับราชทูตหรือบ้านวิชาเยนทร์ 10 บาท
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ 30 บาท
- ค่าน้ำสมุนไพร 20 บาท
- ค่าก๋วยเตี๋ยวสูตรพริกกะเหรี่ยง 60 บาท (สองชาม)
- ค่าน้ำเปล่า 10 บาท
- ค่าน้ำอัดลม 20 บาท
- ค่าข้าวเหนียวหมู 20 บาท
สรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้ 319 บาท
(350 บาท กำเงินไปเที่ยวก็มีทอน)
อย่าลืมกดติดตามแบบ See First เห็นโพสต์ก่อน จะได้ไม่พลาดที่เที่ยวสวยๆ ที่พักชิคๆ จากเพจ TripTH ทริปไทยแลนด์ กันน๊าา ^__^
วิธีกด See First (เห็นโพสก่อน)
1. ไปที่หน้าเพจ TripTH ทริปไทยแลนด์
2. กดเลือก ติดตาม หรือกำลังติดตาม (Follow)
3. กดเลือก เห็นโพสก่อน (See First)
เพียงเท่านี้ ก็จะไม่พลาดกิจกรรมดีๆ ทริปเจ๋งๆ ที่เที่ยวสวยๆ ที่พักดีๆ จาก TripTH ทริปไทยแลนด์ กันแล้ว ^__
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : Tripth ทริปไทยแลนด์
Instagram : www.instagram.com/trip_th/
Twitter : twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2
ภาพและข้อมูลโดย © TripTH
เรียบเรียงข้อมูล Rungnakorn @ TripTH