รีวิวเกาะสีชัง ทริป 3 วัน 2 คืนเที่ยวรอบเกาะ เที่ยวเกาะสีชัง ทะเลใกล้กรุง เจาะลึกทุกรายละเอียด ที่เที่ยวเกาะสีชัง ที่พักเกาะสีชัง การเดินทางไปเกาะสีชัง
ทำงานมาเหนื่อยทั้งปีก็อยากหาที่เที่ยวแบบ สโลว์ไลฟ์ (Slow Life) ฮ่าๆ เห็นเขากำลังฮิต เลยเอามาใช้บ้าง นั่งทำงานไป คิดได้ ว่าจะไปหาที่พักผ่อนที่ไหนดี ที่ใกล้กรุงเทพ การเดินทางสะดวก คนไม่เยอะ
เพราะเราชอบไปที่ที่คนเขาไม่ค่อยไปกัน ฮ่าๆ ช่วงนี้หน้าหนาว คนคงแห่ไปเที่ยวดอย เที่ยวภูเขา เที่ยวทะเลหมอกอะไรกัน เราต้องตรงข้าม ฮ่าๆ จากประสบการณ์การเป็นทหารเรือมา เห็นทะเลมาก็เยอะเลยรู้ว่าช่วงหน้าหนาวน้ำทะเลฝั่งอ่าวไทยจะใสเป็นพิเศษ คลื่นลมไม่มี น้ำนิ่งกริ๊บ จัดไป ช่วงนี้แหละ เลยไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เปิดแผนที่ ไปเจอ เกาะที่ใกล้กรุงเทพฯที่สุด นั่นคือ
เกาะสีชัง
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : https://goo.gl/xvMCZ4
Instagram : https://www.instagram.com/trip_th/
Twitter : https://twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2
เกาะสีชัง เราเคยไปมาแล้วครั้งนึ่ง สมัยยังเด็ก ไปกับครอบครัว อยากกลับไปอีก เอาละ ว่างพอดี 3 วัน เก็บกระเป๋า แล้วออกไปลุยกัน
เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จุดศูนย์รวมรถตู้ ที่จะไปตามจุดต่างๆ เดินหารถตู้อยู่พักใหญ่ ก็มาเจอรถตู้ตรงฝั่งเกาะดินแดง ทางไป บีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตรงเซเว่นเลย รถตู้ไปศรีราชา มีเที่ยวแรกตั้งแต่ ตี 5
บอกคนขายตั๋วว่าไปศรีราชา เพราะเราต้องไปต่อเรือที่เกาะลอย ไม่ต้องห่วง รถตู้เขาไปส่งถึงเกาะลอยเลย อย่าลืมบอกคนขับนะครับว่าลงเกาะลอย รถที่ไปเป็นรถของเมืองท่ามหานคร เจ้านี้ผมนั่งมาบ่อยตอนเป็นทหารเรือ วิ่งยาวอย่างเดียว ชอบตรงที่เขาไม่แวะรับคนตามเส้นทาง ไวดี ไม่เสียเวลา
ซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็รอรถมารับ ถ้ารถมาถึงพี่เจ้าหน้าที่เขาจะเรียก รถมาต้องรีบขึ้นเลยจะได้หาที่นั่งสบายๆ Let’s Go ยาวไปๆ Go to Koh Sichang จากกรุงเทพไปศรีราชาใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง รถจะวิ่งมอเตอร์เวย์ยาวไปจนถึงศรีราชาเลย แบบไม่แวะจอดระหว่างทาง
เราสามารถบอกคนขับให้ไปส่งที่เกาะลอยเลยก็ได้ หรือจะลงหน้าโรบินสันศรีราชาแล้วต่อรถตุ๊กๆสามล้อไปต่อก็ได้
พอมาถึงที่เกาะลอย ก็เดินหาท่าเรือที่จะไปเกาะสีชัง เห็นวัดเกาะลอย แล้วก็อยากจะแวะไว้ไหว้พระทำบุญ แต่เอาไว้ขากลับแล้วกับ ตอนนี้รีบ อยากไปติดเกาะแล้ว อิอิ
มาถึงท่าเรือก็จะเห็นเรือที่จะพาเรือไปที่เกาะสีชัง เป็นเรือ 2 ชั้น จะมีเรือของหลายบริษัท มาให้บริการ เดินไปที่เรือเลยครับ จุดขายตั๋วจะอยู่ตรงทางขึ้นเรือเลย ซื้อตั๋วเสร็จ ในราคาคนละ 50 บาท
ได้ตั๋วแล้วไปหาที่นั่งกันเลย เรามาถึงคนแรกๆเลย ฮ่าๆ จัดไปหาที่นั่งสบายๆเลย เราเลือกชั้น 2 เพราะจะได้รับลมทะเลชิวๆหน่อย
ตารางเรือไปเกาะสีชัง
จากศรีราชา(ท่าเรือเกาะลอย) ไปยังเกาะสีชัง(ท่าเรือเทววงศ์) มีเรือออกจากท่าเรือเกาะลอยทุกวันตั้งแต่ 6.00 -20.00 น. ออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
รายละเอียดสอบถามได้ที่เรือสีชังพาเลซ โทร. 038 216 276-82 หรือ
เรือแสงประทีปบริการ โทร. 038 313 687
เดินทางมา 45 นาทีนั่งกินลมชมวิวมาเรื่อย ใช้เวลาประมาณ 4 นาทีก็ถึงเกาะสีชัง เกาะที่ขึ้นชื่อว่าใกล้กรุงเทพฯที่สุด อยากไปลุยแล้ววววว ^__^ เมื่อมาถึงเรือก็ไม่รีรอเดินหารถเพื่อไปที่พัก
คนที่นี่ส่วนใหญ่จะเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซค์กัน เพราะเป็นเกาะถนนไม่ใหญ่มาก และบางเส้นทางค่อนข้างชัน จึงไม่นิยมใช้รถยนต์ มีพาหนะอีกอย่างคือรถกะเปาะ หรือรถสามล้อนั่นเอง
ตรงท่าเรือเราจะเป็นบริการต่างๆมากมาย มีทั้ง วินมอเตอร์ไซค์ เช่ามอเตอร์ไซค์ รถกะเปาะ (รถสามล้อ) รถสองแถว ถ้าอยากไปแบบมีไกด์ ก็ต้อง ไปรถสามล้อ หรือรถ สองแถวเลยครับ เขาจะมีบรรยายให้ความรู้ด้วย
แต่ถ้าอยากเที่ยวเอง มีเวลาเยอะ ก็แนะนำให้ช่ามอเอตร์ไซค์เลย อันนี้แล้วแต่คนชอบนะ เส้นทางบนเกาะสีชังมีบางจุดค่อนข้างชัน ถ้าขับไม่แข็งก็ไม่แนะนำให้เช่านะ ไปกับไกด์จะปลอดภัยกว่า
แผนที่ท่องเที่ยเกาะสีชัง
สำหรับเรา ฮ่าๆ มันแอดเวนเจอร์อยู่แล้ว เราเลือก เรียกวินมอเตอร์ไซค์ ฮ่าๆ เพราะเราต้องไปที่พักก่อน รถเดี๋ยวไปดูของรีสอร์ทดีกว่า เพราะถ้าเราเช่ากับรีสอร์ท เราจะได้อะไรบริการพิเศษๆจากรีสอร์ทด้วย
เดินทางมาจากรุงเทพมาถึงเกาะสีชัง 2 ชั่งโมงกว่าแบกกระเป๋ามาอยากจะวางสัมภาระแล้วออกลุยใจจะขาดแล้ว จัดไปพี่วิน อิอิ Go To
“โมร็อกโฮมรีสอร์ท (Moroc Home Resort)“
โมร็อกโฮมรีสอร์ท (Moroc Home Resort) ในที่สุดก็มาถึงสักที สำหรับโมร็อกโฮมรีสอร์ท เป็นที่พักเกาะสีชังที่ปรับปรุงใหม่หมด เรียกได้ว่า ใหม่ทุกอย่างเลยก็ว่าได้
ถึงแล้ว โมร็อก โฮมรีสอร์ท (Moroc Home Resort) ที่พักสุดฮิปบนเกาะสีชัง งานนี้ถูกใจเหล่าฮิปสเตอร์ (Hipster) แน่นอน ครับ บรรยากาศดีมาก พึ่งตกแต่งใหม่ทาสีใหม่ บรรยากาศรอบๆ น่า เซลฟี่ (selfie) มาก
ฮ่าๆ สีสันสดใสโดนใจขา เซลฟี่ เหลือเกิน ^__^ ภายในรีสอร์ทมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีที่ให้เดินเล่น มีที่ให้นั่งเล่น แล้วมีจุดชมวิวที่มองเห็นเกาะสีชังแบบ 360 องศาเลย
เช็คอินเสร็จแล้ว ขึ้นไปดูห้องพักกันเลย
ว้าว บรรยากาศข้างในอย่างกับอยู่ในหนัง อิอิ เป็นห้องที่สวย และสะอาดมากๆ โมร็อก โฮมรีสอร์ท (Moroc Home Resort) เป็นที่พักที่ตกแต่งในสไตล์ โมร็อคโก พี่เขาบอกว่าที่พักที่นี่ เป็นที่พักที่ออกแบบมาโดยไม่ให้มีเสาร์ แต่สามารถทนแรงแผ่นดินไหวได้ ใช้สถาปัตยกรรมชั้นสูง ว้าว ฟังแล้วรู้สึกพิเศษเลย เป็นที่ที่แปลกใหม่สำหรับเรา เพราะที่ที่เราเคยไปพักมันก็การตกแต่งก็จะคล้ายๆกันไปหมด แต่ที่นี่ความรู้สึกตั้งแต่เข้ามา มันรู้สึกแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร คอนเฟิร์มเลย
ภายในห้องพักจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลย ไม่ว่าจะเป็น ทีวี ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ
บ่นมามากแล้ว ฮ่าๆ อย่าพึ่งรำคาญกันนะ เก็บของอะไรเสร็จเรียบร้อยเราก็ไม่รีรอ ไปสอบถามรีเซฟชั่น (reception) เรื่องรถมอเตอร์ไซค์ที่จะพาเราไปแว๊นกัน ราคาอยู่ที่ 300 บาท / 24 ชม. คือ ถ้าเราเช่า 10 โมงเช้า เราก็คืน 10 โมงเช้าของอีกวัน อาจเลทได้นิดน้อย พี่เขาใจดี ^__^
ราคาก็จะเหมือนๆกันหมดทั้งเกาะครับ แต่เราเช่ากับทางที่พักดีกว่า
จัดไปพาหนะของเรา ที่จะพาเราไปรอบๆเกาะ zoomer x เป็นรถใหม่เลย ขึ้นเขาลงห้วยไม่มีปัญหาแน่นอน ที่นี่รถเขาจะใช้ zoomer x ทุกคันเลย แล้วเวลาคืนรถพี่เขาก็บอกว่า สามารถขี่ไปที่ท่าเรือเลย ไปจอดใส่กุญแจทิ้งไว้ ไม่มีหาย เกาะสีชังเขาอยู่กับแบบพี่น้อง ทุกคนจะรู้หมดใครเป็นใคร ไม่มีหาย แล้วทางที่พักเขาจะมาเอารถเอง ฟังดูอบอุ่นนะ ถ้าเป็นที่อื่นไม่เหลือแล้ว เกาะสีชังมีอะไร เจ๋งๆดีแฮะ ว่าแต่ได้รถรออะไรละ ไปลุยสิครับ
Day 1
จุดที่ 1
จุดแรกของเราคือ พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน ตั้งอยู่ภายในบริเวณพระราชวังพระจุฑาธุชราชฐาน ก่อนถึงพระราชวัง ร.5 เป็นอาคารแสดงนิทรรศการของสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ และทรัพยากรทางทะเลของเกาะสีชัง
เช่น ระบบนิเวศหาดหิน หาดทราย พันธุ์สัตว์น้ำ และปะการัง ฯลฯ ภายในแบ่งออกเป็น 9 โซน
1. โซนสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ
2. โซน Mini theater แนะนำเกาะสีชัง
3. โซนระบบนิเวศหาดทราย และระบบนิเวศหาดหิน
4. โซนแพลงก์ตอนและความสำคัญในระบบนิเวศทางทะเล
5. โซนพันธุ์สัตว์น้ำ
6. โซน Touch tank
7. โซนสัตว์เศรษฐกิจ มิตรของสิ่งแวดล้อม
8. โซนเรื่องของปะการัง
จุดที่ 2
พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่๕) และเป็นพระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย ถูกสร้างขึ้นเพื่อเสด็จแปรพระราชฐานเพื่อสำราพระราชอิริยาบถ ชื่อพระตำหนัก “ พระจุฑาธุชราชฐาน” ได้รับพระราชทานนามตามพระนามของสมเด็จลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกฯ ที่ประสูติ ณ เกาะสีชังแห่งนี้ เป็นพระราชวังที่น่าสนใจมาก
สะพานอัษฎางค์
สำหรับประวัติของสะพานอัษฎางค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานทอดลงไปในทะเลบริเวณแหลมวัง ด้านหน้าเขตพระราชฐานด้วยมีพระราชดำริว่า
ที่เกาะสีชังเวลาน้ำขึ้นลงเป็นที่ลำบาก บางครั้งถูกกาบหอยบาด สะพานที่โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นนี้ พระราชทานนามว่า สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานท่าเรือขนาดใหญ่ สร้างด้วยไม้สักทาสี
สถานที่สำคัญในพระจุฑาธุชราชฐาน สะพานอัษฎางค์ พระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางคนิมิต เรือนไม้ริมทะเล เรือนวัฒนา เรือนผ่องศรี เรือนอภิรมย์ ฐานพระที่นั่งมันธาตุรัตน์โรจน์ ซึ่งรื้อลงเพื่อนำไปสร้างพระที่นั่งวิมานเมฆในพระราชวังดุสิตในกรุงเทพมหานคร
จุดที่ 3
นั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์ (วันที่ 1) เย็นแล้วเห็นคนบนเกาะว่าต้องไปดูพระอาทิตย์ตก เราก็ไม่ยอมพลาด 55+ แน่นอนถ้าเรามาที่เกาะแห่งนี้ สถานที่ที่ต้องมาเยือนอีกแห่งคือ ช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์ รออะไรละ ไปกันเลย พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว แว๊นแลย
ถึงแล้วกำลังจะตกพอดีเลย
วันนี้พอแค่นี้ก่อนเที่ยวมาหลายที่แล้ว สนุกมากกกก ^__^ ได้เจออะไรใหม่ๆเพียบเลย นี่แค่วันแรก อย่าพึ่งเบื่อนะ ฮ่าๆ อยากกลับไปหาอะไรอร่อยๆกิน ที่นอนนุ่มๆ แค่คิดก็ฟินแล้ว ว่าแล้วก็แว๊นกลับที่พักเลยดีกว่า Let’s go
เที่ยวมากทั้งสุนก ทั้งเหนื่อย ชักอยากดื่นน้ำ ฮ่าๆ มันต้องมีอะไร มาโดน อิอิ จะได้หลับชิวๆ กินข้าวอร่อยๆ อิอิ นิดนึ่ง
หิวแล้ว จัดไปอาหารสุดฟิน เลยไปจัดไป 2 เมนู ไข่เจียวหมูสับ กับต้มยำรวมมิตรน้ำข้น อาหารที่นี่ราคาไม่แพงครับ แถมเชฟยังทำอาหารได้อร่อยมาก ไม่ผิดหวังแน่นอน แถมที่นี่ก็สามารถปิ้งย่างอาหารได้ด้วย ต้องลองเลครับ 2 เมนูนี้ อร่อยมากๆ รสชาติแตกต่างจากที่อื่นมาก เขาทำออกมาได้น่าทานฝุดๆ ต้องมาลอง ^__^
อิ้มท้อง อิ่มใจ อิ่มความสุขแล้ว ก็ไปนอน ฮ่าๆ ที่นอนนุ่มๆคิดแล้วฟิน พรุ่งนี้จะมาลุยต่อ จะไปที่ไหนบ้างเดี๋ยวมาชมกันนะ
Day 2
ตื่นมาตี 5 กว่าๆ เกือบๆ 6 โมงเช้า ตั้งใจไว้แล้วว่าจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เช้าที่สดใสลมเย็นๆ รู้สึกได้ถึงลมหนาวเบาๆ ไม่รีรอ ที่โมร็อคโฮม รีสอร์ท มีตึกไว้ชมวิวอยู่ แบบพาโนราม่า เลย มาเที่ยวทั้งทีต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความทรงจำดีๆไว้ให้มากที่สุด
การตื่นเช้าๆมันดีแบบนี้นี่เอง อากาศดีมาก จนตอนนี้ยังจำความรู้สึกนั้นได้ ทั้งสวย อากาศดี สดชื่นมากๆ ต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเองเลย
ดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ไปหาอะไรทานต่อ ที่พักเขามีอาหารเช้าให้ด้วยนะครับ มีให้เลือกด้วย แถมมีชา กาแฟ โอวัลติน ปลาท่องโก๋ หรือขนมปังให้อีกด้วย บริการดีจริงๆ ชอบๆ ฮ่าๆ
เอาละท้องอิ่มแล้วเราก็ลุยต่อ ไปลุยกัน ^__^
จุดที่ 4
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เกาะสีชัง สิ่งเป็นที่เคารพของชาวเกาะสีชังเป็นอย่างมาก ว่ากันว่าในอดีตมาชาวจีนแล่นเรือเข้ามาค้าขายในบริเวณดังกล่าว แล้วเห็นแสงสว่างบนเขาทางทิศเหนือของเกาะเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งและจึงได้เข้าค้นหาแสงประหลาดดังกล่าวจึงได้พบถ้ำซึ่งภายในมีรูปเจ้าพ่อเขาใหญ่ในลักษณะนั่งอยู่ จึงได้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา และขอพรกับเจ้าพ่อเขาใหญ่ และก็ประสบความสำเร็จการค้าขายดีขึ้น จึงได้ก่อสร้างเป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้น ฟังประวัติแล้วก็น่าเลือมใสมากๆ ว่าแล้วไปสักการะขอพรกับท่านเลยดีกว่า ^__^
จุดที่ 5
รอยพระพุทธบาทหรือยอดเขาพระจุลจอมเกล้า สำหรับรอยพระพุทธบาท เกาะสีชัง นั้นตั้งอยู่บนยอดเขาพระจุลจอมเกล้า เป็นรอยพระพุทธบาทที่ รัชกาลที่ 5 อันเชิญมาประดิษฐานไว้ บนยอดเขาแห่งนี้
เราก็สามารถมากราบไหว้ขอพรได้เช่นกัน บนยอดเขามีจุดชมวิวเกาะสีชัง ที่สามารถมองเห็นตัวเมืองเกาะสีชังได้รอบทิศทาง และสามารถมองเห็นทะเลทั้งสองฝั่งของเกาะสีชังได้เลย จะสวยขนาดไหนเราไปดูกัน
สำหรับการขึ้นมาที่รอยพระพุทธบาทหรือยอดเขาพระจุลจอมเกล้า สามารถขึ้นมาได้โดยการเดินเท้า ซึ่งทางขึ้นสามารถเดินขึ้นจากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ได้เลย การเดินเท้าไม่แนะนำสำหรับผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรงนะ อีกวิธีคือการนั่งรถขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นรถสามล้อ รถสองแถว และขี่มอเตอร์ไซค์ การขี่มอเตอร์ไซค์ต้องระมัดระวังด้วยนะ เพราะเส้นทางค่อนข้างชัน ด้วยความปราถนาดีจากทีมงาน Tripthailand ^__^
จุดที่ 6
วัดถ้าจักรพงศ์ หรือพระเหลือง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา คล้ายเป็นวัดป่า ภายในวัดมีพระเหลือง ซึ่งมีพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ เรียกว่า “พระเหลือง” องค์พระสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล หรือในขณะนั่งเรือ
ภายในวัดมีถ้ำเล็กๆ ซึ่งรัชการที่ 5 เคยเสด็จประพาส และพระราชทานนาม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ สามารถมากราบไหว้ขอพรกันได้เลย
จุดที่ 7
ปารีฮัท รีสอร์ท เกาะสีชัง ปารีฮัท รีสอร์ท เป็นที่พักที่ตั้งอยู่บนหน้าผา มีความเป็นเอกลักษ์คือสร้างจากวัสดุธรรมชาติ อย่างไม้ไผ่ เป็นต้น แต่เราไม่สามารถเข้าไปดูด้านในได้เนื่องจากเขาสงวนไว้ให้ผู้ที่มาพัก
เข้าได้เฉพาะโซนที่เขาจัดไว้ให้ คือ ฟร้อน แล้ว ร้าอาหาร รีสอร์ทแห่งนี้ใช้เป็นฉากในการถ่ายละครหรือถ่ายหนังมาแล้ว เรื่องโจรสลัดอะไรสักอย่างนี่แหละจำไม่ได้ล่ะ ก็สวยดีนะ บรรยากาศดี เดินเล่นถ่ายรูปก่อน อิอิ ไปจุดต่อไปเลย
จุดที่ 8
หาดถ้าพัง สำหรับหาดถ้าพังเป็นชายหาดแห่งเดียวที่สามารถเล่นน้ำได้ จะว่าแบบนั้นก็ได้ หาดถ้าพังตั้งอยู่ในอ่าวอ่าวอัษฎางค์เป็นชายหาดเล็กๆ ความยาวประมาณ 140 เมตร เป็นที่ที่ลงเล่นน้ำได้
บริเวณชายหาดมีเตียงผ้าใบให้นั่งฟรีด้วย ในวันหยุด ตัวละ 10 บาท ถือว่าไม่แพงนะ มีร้านอาหาร มีห้องอาน้ำไว้บริการด้วย แถมยังมีห่วงยาง มีเสื้อชูชีพ สน๊อคเกิ้ล ตีนกบ เรือคายัคให้เช่าด้วย แต่เราเตรียมพร้องเอาสน็อคเกิ้ลมาเอง ฮ่าๆ อากาศดีๆแบบนี้ ไปดำน้ำเล่นดีกว่า ^__^
ขอบอกเลยว่าน้ำใสใช้่ได้เลย จุดที่ดำอยู่ทางขวาของหาด ตรงแนวโขดหิน ปะการังไม่ค่อยมีหรอก แต่มีปลาเยอะเลย เราเจอหมึกกระดอกตัวเบ้อเร้อเลย มีปลาปักเป้า ปลาสลิดหิน
เล่นน้ำเหนื่อยละ ไปจุดหมายต่อไปเลยดีกว่า อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลนัก
จุดที่ 9
แหลมจักรพงษ์ ก็อยู่ในอ่าวอ่าวอัษฎางค์นี่แหละ แหลมที่ยื่นออกไปในทะเล ถ้ามองมาจากหาดถ้ำพังอยู่อยู่ด้านขวามือ เป็นจุดที่เหมาะการนั่งชมพระอาทิตย์ตกอีกแห่งของเกาะสีชัง แถมยังแหมาะกับการนั่งตกปลาด้วย
ตรงปลายแหลมยังมักมีคู่บ่าวสาวมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอีก สวยงามเลยทีเดียว เดินเล่นถ่ายรูปกันสักพัก ก็ไปยังจุดหมายต่อไป
จุดที่ 10
ช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์ (วันที่ 2) เมื่อวานเรามาจุดนี้แล้วในตอนเย็น เพื่อมาดูพระอาทิตย์ตก มีเวลาน้อย วันนี้เลยมาจัดเต็ม สำหรับช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์ มีลักษณะคล้ายกับแหลมพรมเทพ แต่เล็กกว่า เป็นจุดชมวิวยอดฮิตของเกาะสีชังเลยก็ว่าได้
ในอดีตที่นี่เคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 บริเวณช่องเขาขาด ยังมีสะพานสีขาว ชื่อว่าสะพานวชิราวุธ เป็นสะพานที่ยื่นลงไปที่แหลม ซึ่งสามารถเดินไปต่อที่แหลมได้ เพื่อดูพระอาทิตย์ตก ไปดูภาพชุดนี้เลย
ในตอนเย็นๆที่นี่ก็จะเป็นแหล่งชุมของนักตกปลา เพราะบริเวณแห่งนี้จะมีปลาชุกชุมมากโดยเฉพาะปลาหมึก พูดมากไป ฮ่าๆ ไปดูบรรยากาศพระอาทิตย์ตกสวยๆของที่นี่กันเลย
ชมความสวยงามของที่นี่แล้วก็มืดพอดี ได้เวลากลับที่พักแล้ว สนุกมากๆ วันนี้ได้ทั้งประสบการณ์ใหม่ๆ เจออะไรใหม่ๆ มันทำให้เราได้ชาร์ทพลังไปอีก ว่าแล้วก็กลับที่พักเลยดีกว่า
เที่ยวมาทั้งวันแล้วก็หิวสิ ใช้พลังงานไปเยอะ ฮ่าๆ วันนี้เลยจัดไป ปลากระพงนึ่งมะนาว อร่อยฝุด
ท้องอิ่มแล้วก็เขานอนสิ ฮ่าๆ พรุ่งนี้จะได้เดินทางต่อ เหนื่อยแบบนี้คงจะหลับสบายน่าดู ^__^ zzZZ
Day 3
เช้าที่สดใส 55+ วันนี้วันสุดท้ายแล้ว เมื่อคืนหลับฝันดีเลย ตื่นแล้วก็ไม่รีรอ ไปจัดอาหารเช้า
วันนี้เราต้องเดินทางกลับแล้ว ยังไม่อยากกลับเลยยยย ยังรู้สึกมีความสุข ได้ผ่อนคลาย แต่เราก็มีหน้าที่น้อ ฮ่าๆ ไว้คราวหน้าจะมาใหม่ เดินเล่นนั่งเล่นกินลมชมวิวที่รีสอร์ท นั่งพักผ่อน กับบรรยากาศของรีสอร์ท รู้สึกว่ามันมีความสุขอย่างบอกมไม่ถูก ขึ้นไปนั่งรับลมบนจุดชมวิวของรีสอร์ทกัน
ถึงเวลาแล้วว่าจะไปให้ทันเรือเที่ยว 11 โมงตั้งใจว่าจะไปเดินเล่นที่เกาะลอยต่อ เพราะวันที่มา ยังไม่ได้ไปเลย รีบมาที่เกาะสีชัง วันนี้เลยต้องจัดไป ว่าแล้วก็เช็คเอ้าท์ กลับกัน
มีอีกเรื่องนะเวลาจะไปที่ท่าเรือ รถมอเตอร์ไซค์ที่เราเช่ากับทางรีสอร์ท เราสามารถขี่ไปที่ท่าเรือได้เลย แล้วเอากุญแจไว้กับรถนั่นแหละ เดี๋ยวทางที่พักจะมาเอารถกลับเอง ไม่ต้องกลัวหาย ที่นี่ไม่มีขโมยแน่นอน เขารู้จักกันทั้งเกาะ เราว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ที่พักที่เกาะสีชังจะเป็นแบบนี้หมด ไปท่าเรือกันเลย
Good Bye Koh Sichang
จากเกาะสีชังไปที่ เกาะลอย ศรีราชา ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็มาถึงปลายทาง เกาะลอย
เกาะลอย
เกาะลอยเป็นเกาะเล็กๆที่เป็นที่ตั้งของท่าเรือที่จะไปเกาะสีชัง และเป็นที่ตั้งของวัดเกาะลอย และบ่อเต่าทะเล ก่อนกลับกรุงเทพฯก็เดินเล่น ไหว้พระทำบุญ ให้อาหารเต่ากันก่อน ^__^
เที่ยวกันหนำใจแล้วก็ถึงเวลากลับกรุเทพแล้ว สำหรับการเดินทาง เราต้องไปหารถสามล้อ เพื่อไปที่ท่ารถตู้ เพื่อกลับไปยังกรุงเทพฯ จุดที่รถสามล้อจอดจะอยู่แถวๆ ทางเข้าเกาะลอย ตรงอาคารปรชาสัมพันธ์ มีเพียบเลย ราคาจากเกาะลอยไปที่ท่ารถตู้ก็ประมาณ 30 บาทต่อคน
จบเรียบร้อยสำหรับทริปนี้ เราได้อะไรมากมายจากการเดินทาง ไม่ว่าปลายทางจะเป็นที่ไหน “ชีวิตก็เหมือนกับการเดินทาง ปลายทางไม่ได้ทำให้เราเข้มแข็ง ระหว่างทางต่างหากที่ทำให้เราเข้มแข็ง”
Good Bye
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : https://goo.gl/xvMCZ4
Instagram : https://www.instagram.com/trip_th/
Twitter : https://twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2
ภาพและข้อมูลโดย www.tripth.com
เรียบเรียงโดย Admin Tripth.com