รีวิว นั่งรถไฟเที่ยวเมืองกาญ วันเดย์ทริป เที่ยว สะพานข้ามแม่น้ำแคว น้ำตกไทรโยคน้อย สุสานพันธมิตรดอนรัก นั่งรถไฟเที่ยวน้ำตก กาญจบุรี นั่งรถไฟน้ำตกไทรโยคน้อย
รอบบนี้จะพานั่งรถไฟไปเที่ยวกาญจนบุรี แบบ “วันเดย์ทริป“ สวัสดี เจอกันอีกตามเคย ใครชอบนั่งรถไฟเที่ยวบ้าง ฮ่าๆ ผมคนนึ่งละที่ชอบ มันเป็นอะไรที่คลาสสิคดีนะ เคยไหมเวลานั่งรถไฟมันมีความรู้สึกตื่นทุกครั้ง จะได้เจออะไรใหม่ๆสองข้างทางเสมอ เมืองไทยเรามีรถไฟไปทุกภาค มีอยู่หลายเส้นทางเลย แต่ละเส้นทางก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ตามเส้นทางมากมายเลย เส้นทางที่ผมอยากจะพาไปรอบนี้คือ
“กาญจนบุรี”
:: FOLLOW US ::
Facebook Fan Page : https://goo.gl/xvMCZ4
Instagram : https://www.instagram.com/trip_th/
Twitter : https://twitter.com/TripthTh
Google+ : https://goo.gl/wdvzXg
Website : https://www.tripth.com/
Youtube : https://goo.gl/tA4KH0
Line : http://line.me/ti/p/Ws0lI4s0g2
ทำไมต้องกาญจนบุรี แน่นอนว่าจังหวัดนี้มีที่เที่ยวเยอะมากอันดับต้นๆของเมืองไทยเราเลยก็ว่าได้ แล้วที่เที่ยวอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟก็มีเยอะ เราจะได้ไปหลายๆที่ในวันเดียวได้ ฮ่าๆ เอาให้คุ้ม !!
ทำไมต้องนั่งไฟ เพราะมัน ถูก !! ไง สั้นๆแต่ได้ใจความ ผมว่านั่งรถไฟเที่ยวมันถูกที่สุดแล้ว และยิ่งมีโครงการรถไฟฟรีเพื่อประชาชน ก็ใช้โอกาสนั้นซะ ฮ่าๆ ผมหมายถึงในเส้นทางอื่นๆนะ
แต่เส้นทางที่เรากำลังจะไป มันเสียตัง ตั้ง 120 บาท !! (ไป – กลับ) มีถูกกว่านี้ไหม ใครมีไปหามา ^__^ ถูกไม่พอ ยังมีวิวสองข้างทางให้เราได้ดูไปเพลินๆด้วย เส้นทางที่เรากำลังจะไปนี้เป็นขบวน รถไฟนำเที่ยว
ที่จัดขึ้นโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย จริงๆมีหลายเส้นทาง แต่ครั้งนี้เราเลือกมา กาญจนบุรี พูดมามากแล้ว อย่าพึ่งเบื่อกันน๊าาา ไปลุยเลยดีกว่า
แน่นอนจากกรุงเทพฯ เราจะไปขึ้นรถกันที่ หัวลำโพงหรือสถานนีกรุงเทพนั่นเอง เป็นชุมทางใหญ่สุดของเมืองไทยเรา ออกจากบ้าน ตี 4 เกือบ ตี 5 มาถึง หัวลำโพง ตี 5 ครึ่ง บ้านเราอยู่แถวลาดพร้าว เลยใช้เวลานาน ฮ่าๆ
มาถึงก็ดิ่งเข้าไปเลย ที่เค้าเตอร์ขายตั๋ว บอกเจ้าหน้าที่ว่า รถไฟนำเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย เจ้าหน้าที่เขาจะจัดการให้ทันทีเลย คนละ 120 บาท สำรับรถปรับอากาศก็มีนะ คนละ 240 บาท ราคานี้คือ ไป – กลับ ถูกมาก !!
ปล. รถไฟนำเที่ยวทุกเส้นทางจะให้บริการเฉพาะวันหยุด
เสาร์ – อาทิตย์ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เท่านั้นจ้า
ไป – กลับ เมืองกาญ 120 บาท
แถมยังได้เที่ยวอีก ถูกใจเลยสำหรับทริปเที่ยวแบบประหยัด
แต่ความสนุกไม่ประหยัดนะ ฮ่าๆ
เวลาซื้อตั๋วเจ้าหน้าที่จะให้ตั๋วมาคนละ 2 ใบ อย่าพึ่งตกใจนะ มันคือตั๋วขาไปและตั๋วขากลับนั่นเอง และตั๋วแต่ละใบจะมีเลขที่นั่งของใครของมัน อันนี้สำคัญนะ ดูให้ดี นั่งให้ถูกที่ จะได้ไม่ต้องลุกหลายรอบ
ไม่ต้องห่วง มีที่นั่งทุกคนไม่มียืนแน่นอน
ได้ตั๋วเสร็จแล้ว ก็เดินไปหาขบวนรถกัน ถ้าเดินเขาไปจะอยู่ด้านซ้าย ส่วนใหญ่จะอยู่ทางนั้น หรือถ้าหาไม่เจอก็สอบถามเจ้าหน้าที่ได้
รถออก 6 โมงครึ่ง
นี่ไงม้าเหล็กของเรา ที่จะพาเราไปเที่ยวเมืองกาญ ทั้งขาไปและขากลับ ขบวนนี้จะมีรถ 2 เส้นทาง คือ ขบวนรถไฟสายน้ำตก (909) และขบวนรถไฟสายหัวหิน (911) ดังน้ัน !! ดูไห้ดีนะ เดี๋ยวขึ้นผิดขบวนไปโผล่หัวหิน
เดี๋ยวจะงานเข้า ฮ่าๆ
ไม่ขนาดนนั้น เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋วอยู่ ถ้าผิดเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟเขาจะบอกเอง แต่ทางที่ดีก็ดูให้ดีก่อนขึ้นนะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา จำง่ายๆ คือ ขบวนสายน้ำตกจะอยู่ส่วนหัว และขบวนสายหัวหินจะอยู่ส่วนหาง
และจะไปแยกขบวนกันที่ชุมทางอะไรไม่รู้จำไม่ได้ ฮ่าๆ เหมือนแยกร่างกัน ดูป้านข้างโบกี้ จะมีป้ายสีแดงเขียนบอกอยู่
Start
06.30 น.
หัวลำโพง
รถเริ่มออกจากหัวลำโพง เวลา 06.30 น. ระหว่างทางเจ้าหน้าที่จะประกาศบอกแนะนำสถานที่ต่างๆที่เราจะไป แต่ละจุดแวะกี่นาที ประมาณนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็จะไปถึงจุดแรก คือ พระประฐมเจดีย์
07.40 น.
พระประฐมเจดีย์
เมื่อรถไฟมาจอดที่สถานีนครปฐม รถไฟจะจอดที่นี่ ประมาณ 40 นาที เพื่อให้เราได้แวะกราบไหว้นมัสการองค์พระประฐมเจดี และให้แวะทานข้าว ซื้อของกัน อย่าเที่ยวจนเพลินละ เดี๋ยวกลับมารถไฟหายละงานเข้านะ อิอิ
ปกติไม่ค่อยมีคนตกรถหรอก ฮ่าๆ เวลา 40 นาที กินเที่ยวได้สบายเลย
สำหรับองค์พระปฐมเจดีย์นั้นเรียกได้ว่าเป็นพระสถูปเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลย มาถึงทั้งทีต้องไปกราบไหว้ขอพรกันหน่อย
หลังจากเที่ยวองค์พระประฐมเจดี กราบไหว้ขอพรเสร็จก็กลับไปขึ้นรถไฟที่สถานีนครปฐม เพื่อไปจุดหมายต่อไปขอเรา
08.20 น.
ออกจากสถานนีนครปฐม หลังจากนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อไปจุดที่สองของเรา นั่นคือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว
09.35 น.
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงจากสถานีนครปฐมเราก็จะมาถึงที่นี่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว รถไฟจะจอดที่นี่ราว 30 นาที เพื่อให้เราได้เดินเที่ยว ถ่ายภาพ ความงามของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นสะพานที่สร้างมาตั้งแต่
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือราว 70 กว่าปีแล้ว เป็นสะพานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แวะเซลฟี่กันหน่อย
เดินถ่ายรูป ซื้อของ กินลมชมวิว สะพานข้ามแม่น้ำแควกันเสร็จ ก็ไปต่อ
10.00 น.
ออกจากสะพานข้ามแน้ำแคว มุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไปของเรา
11.00 น.
ถ้ำกระแซ เส้นทางรถไฟสายมรณะ
เดินทางออกจาก สะพานข้ามแม่น้ำแคว หรือตัวเมืองกาญนบุรี ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมเราก็มาถึง ถ้ำกะแซ หรือเส้นทางรถไฟสายมรณะตามเส้นทางนี้จะลัดเลาะไปตามป่าเขา และแม่น้ำแคว ผ่านเส้นที่รถฟไปสายมรณะ เป็นสะพานไม้รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ใช้เวลาสร้างเพียง 17 วัน
ที่สร้างโดยทหารชาวอังกฤษอเมริกันออสเตรเลียและชาติอื่นๆ ราว 60,000 กว่าคน ที่ถูกทหารญี่ปุ่นจับได้และเป็นเชลยสงคราม เลยถูกเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟและสะพานข้ามแน้น้ำแควแห่งนี้ เพื่อข้ามไปยังประเทศพม่า
แต่ด้วยความโหดร้ายของป่าเขา และโรคภัย รวมถึงการใช้แรงงานอย่างโหดร้าย ทำให้เชลยที่ถูกเกณฑ์มาสร้างสะพานแห่งนี้ ตายไปจำนวนมาก จนมีการเปรียบเทียบไว้ว่า 1 ไม้หมอนรถไฟ ของทางรถไฟสายนี้
เปรียบเสมือน ศพ เชลย 1 คนที่เสีย ชีวิต จากการสร้างทางรถไฟแห่งนี้ ฟังแล้วก็เตือนใจนำไปปรับใช้ สอนลูกหลาน เรียนรู้จากอดีต
ผลกระทบจากสงครามมันโหดร้าย
ฟังประวัติศาสตร์มาแล้วอย่าพึ่งเศร้ากัน เรามาเที่ยว ฮ่าๆ นั่งกินลม ชมบรรยากาศความสวยงามสองข้างทางของภูเขา ทางรถไฟ แม่น้ำแควกัน
11.30 น.
น้ำตกไทรโยคน้อย
หลังจากเดินทางมาตามเส้นทางรถไฟสายมรณะ เส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ เราก็มาถึง น้ำตกไทรโยคน้อย รถไฟจะจอดให้เราเล่นน้ำ พักผ่อน ตามอัธยาศัยจุดนี้ประมาณ 3 ชั่วโมง ถือว่าเยอะเลย ฮ่าๆ เล่นกันเหนื่อยเลยแหละ
ใครจะเล่นน้ำ ใครจะนั่งเล่นริมน้ำตก ก็เต็มที่เลย ที่นี่เขาก็มีเสื่อให้เช่ากันด้วย มีห่วงยางให้เช่าสำหรับคนที่จะเล่นน้ำ ช่วงที่เรามาเป็นเดินธันวาคม เป็นช่วงหน้าหนาว น้ำอาจจะไม่เยอะเท่ามากเท่าหน้าฝน แต่ก็สวยไม่น้อยเลย
ถ้ามาหน้าน้ำเยอะๆ จะสวยขนาดไหน
14.25 น.
เส้นทางรถไฟสายมรณะ ขากลับ
ออกจากน้ำตกไทรโยคน้อย หลังจ่กเล่นน้ำกันเหนื่อยแล้วก็ มุ่งหน้าสู่จุดหมายถัดไป คือ “สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก”
16.30 น.
สุสานพันธมิตรดอนรัก
จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายสำหรับทริปนี้ นั่นคือสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ถึงจุดนนี้เราสามารถเดินไปที่สุสานได้อยู่ไม่ไกล แต่ถ้าใครไม่อยากเดิน
ก็จะมีรถสองแถวมารอรับ สำหรับคนที่ไม่อยากเดิน ค่ารถคนละ 10 บาท
ที่สุสานนี้มีหลุมศพถึง 6,982 หลุม เป็นอนุสรณ์สถานแห่งหนึ่งที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชม เพื่อรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ภายในปลูกหญ้าไว้อย่างสวยงาม
และมีป้ายจารึกชื่อทหารที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ
ที่เราพึ่งไปมา เดินชมกันชั่วครู่
กฎระเบียบในการเบี่ยมชมสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
เข้าเยี่ยมชมด้วยอาการสงบ
ห้ามเดินข้ามหลุมศพ
ห้ามส่งเสียงดัง – ห้ามวิ่ง
ห้าน้ำอาหารทุกชนิด – เครื่องดืมเข้ามารับประทาน
ห้ามจัดกิจกรรมทุกประเภท
16.50 น.
Go To Bangkok
พร้อมที่สถานนีกาญจนบุรี แล้ว Go Bangkok เดินทางกลับกัน ^__^
19.30 น.
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้
ค่ารถเมล์ไป – กลับ 2 ต่อ 36 บาท
ค่ารถไฟไป – กลับ 120 บาท
ค่าข้าวเหนียวหมูปิ้งกับค่าน้ำ 2 ขวด มื้อเที่ยง 47 บาท
สรุปทั้งทริป 203 บาท
เป็นไงบ้าง กับการนั่งรถไฟแบบ “วันเดย์ทริป” สะดวก ประหยัด ได้เที่ยว ได้ผ่อนคลาย ได้ความรู้ ไปเที่ยวไม่เห็นต้องใช้ตังเยอะเลย งบ 200 ก็ไปได้ ^__^
ติดตามและให้กำลังใจเราได้ที่ ^__^
Fan Page : https://goo.gl/xvMCZ4
Website : https://www.tripth.com/
ภาพและข้อมูลโดย www.tripth.com
เรียบเรียงโดย Rungnakorn